ในชีวิตของอาชีพนักแสดง มีหลาย ๆ ครั้งที่นักแสดงมักจะเปิดเผยและอ้างถึงผลงานที่ไม่ชอบและไม่ประทับใจเป็นการส่วนตัวด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นก็คือ แอนดรูว์ สก็อตต์ (Andrew Scott) นักแสดงชาวไอริชวัย 47 ปี ที่มีผลงานการแสดงมามากมาย ทั้งในซีรีส์ ‘Sherlock’ (2010–2017) และ ‘His Dark Materials’ (2019–2022) รวมทั้งหนังสงครามฟอร์มยักษ์ ‘1917’ (2019)
นอกจากผลงานดังกล่าว หลายคนอาจคุ้นหน้าเขาจากการรับบทเป็น ‘C’ อีกหนึ่งศัตรูตัวร้ายของสายลับรหัส 007 หรือ เจมส์ บอนด์ (James Bond) จากภาค ‘Spectre’ (2015) ซึ่งแม้ว่านี่จะเป็นการร่วมงานครั้งแรกและครั้งเดียวในแฟรนไชส์หนังสายลับยอดนิยมระดับโลก และเขาเองก็เคยผ่านบทวายร้ายมาพอสมควร ยกตัวอย่างเช่นในซีรีส์ ‘Sherlock’ ที่เขาเองได้รับบทสำคัญในเรื่องด้วย
แต่เขาเองได้ให้สัมภาษณ์เปิดเผยกับนิตยสาร GQ แบบตรงไปตรงมาว่า นี่คือบทบาทที่เขารู้สึกผิดหวังในการแสดงมากที่สุดครั้งหนึ่ง เพราะเขาเองต้องการที่จะสำรวจมิติในบทบาทต่าง ๆ ที่เขาได้เล่นมากขึ้น แต่กลายเป็นว่าบทบาทวายร้ายหนอนบ่อนไส้อย่าง ‘C’ กลับเป็นตัวร้ายแบบทื่อ ๆ ที่ไม่ได้โชว์ศักยภาพที่เขาคิดว่าน่าจะทำอะไรได้มากกว่านี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เขาไม่ประทับใจกับบทบาทนี้เอาเสียเลย
“ถ้าให้พูดกันตามตรง ตรงนั้นไม่ใช่ที่ ๆ ผมอยากจะกลับไปอีกครั้งเลยครับ ตอนนี้ผมรู้ขึ้นมานิดหน่อยว่าตัวผมเองเป็นใคร รู้สึกว่างานที่ผมสนใจอยากทำ มักจะอยู่ในพื้นที่สีเทา ๆ มากกว่า ผมคิดว่าที่ตรงนั้นไม่ได้เป็นในแบบที่ผมคิดน่ะ… หรืออาจจะเป็นเพราะแค่ผมไม่ได้เก่งอะไรขนาดนั้นก็ได้”
หลังจากแจ้งเกิดจากการรับบทเป็น เจมส์ “จิม” มอริอาตี (James “Jim” Moriarty) ศัตรูหมายเลข 1 ของ เชอร์ล็อก โฮล์มส์ (Sherlock Holmes) จากซีรีส์ ‘Sherlock’ สก็อตต์มีโอกาสเป็นส่วนหนึ่งของแฟรนไชส์หนังสายลับชื่อดัง เจมส์ บอนด์ เวอร์ชัน แดเนียล เคร็ก (Daniel Craig) ในภาค ‘Spectre’ กำกับโดย แซม เมนเดส (Sam Mendes)
คำเตือน: บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของภาพยนตร์ ‘Spectre’ (2015)
สก็อตต์รับบทเป็น แม็กซ์ เดนบี (Max Denbigh) หัวหน้าหน่วยข่าวกรองคนใหม่ของหน่วยงาน MI6 ที่ M (เรล์ฟ ไฟนส์ – Ralph Fiennes) ได้แนะนำให้บอนด์รู้จัก หลังจากที่สั่งพักงานบอนด์ โทษฐานที่ปฏิบัติหน้าที่ในเม็กซิโกจนบานปลายกลายเป็นเหตุวินาศกรรม ทำให้ MI6 ถูกจับตามอง และ M ได้เริ่มต้นโครงการสั่งยุบหน่วยสายลับรหัส ’00’ ด้วย แม็กซ์ได้เดินเข้ามาในห้อง แต่ด้วยความดื้อรั้น ก็เลยทำให้บอนด์เรียกขานแม็กซ์แบบประชด เหมือนจะให้เกียรติ แต่ไม่อยากให้ความเคารพว่า ซี (C) แบบเดียวกับ M และ Q
จนกระทั่ง ฟรานซ์ โอเบอร์เฮาเซอร์ (Franz Oberhauser) (คริสตอฟ วอลซ์ – Christoph Waltz) ลูกชายของ ฮานส์ โอเบอร์เฮาเซอร์ (Hannes Oberhauser) ผู้อุปการะของบอนด์ในวัยเด็ก ได้จับบอนด์ไปทรมานและเปิดเผยว่าตนเองคือ เอิร์นส์ สตาฟโร โบลเฟลด์ (Ernst Stavro Blofeld) หัวหน้าขององค์กรอาชญากรรม SPECTRE และยังเปิดเผยว่า แม็กซ์ เดนบี ก็คือหนึ่งในสมาชิกของ SPECTRE ที่เข้าไปเป็นหนอนบ่อนไส้ของหน่วย MI6 นั่นเอง
แม้ตัวหนังจะทำรายได้อยู่ในระดับดีพอสมควรที่ 880.7 ล้านเหรียญ แต่ภาคที่ 24 ของสายลับรหัส 007 กลับโดนวิจารณ์อย่างหนักในแง่ของบทที่เดาง่ายและตามขนบในแบบหนัง 007 ภาคเก่า ๆ บทหนังที่ยังไม่ลงตัว ฉากแอ็กชันบางจุดที่ดูทะแม่ง ๆ รวมไปถึงบทวายร้ายหนอนบ่อนไส้อย่าง แม็กซ์ เดนบี ที่ตัวหนังได้เผยว่า แท้ที่จริงแล้วเขาเป็นเพียงตัวส่งผ่านไปสู่โบลเฟลด์ และองค์กร SPECTRE วายร้ายหลักในจักรวาลเรื่องราวของ เจมส์ บอนด์ ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จัก ในขณะที่ C ดูเหมือนจะเป็นคู่แข่งกับ M แบบกลาย ๆ มากกว่า
ที่มา: GQ, Screen Rant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส