ไบรอัน ดัฟฟิลด์ (Brian Duffield) ผู้กำกับภาพยนตร์สยองขวัญเซอร์ไพรส์ฮิตอย่าง ‘No One Will Save You’ ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นบนแพลตฟอร์ม X หลังจากที่ Warner Bros. ได้ยกเลิกการฉาย ‘Coyote vs. Acme’ แม้ว่าจะถ่ายทำเสร็จแล้วก็ตาม ซึ่งทำให้ผู้สร้างสรรค์ผลงานในฮอลลีวูดเริ่มตั้งคำถามเกี่ยวกับการที่จะต้องร่วมงานกับ Warner Bros. ในอนาคต
ดัฟฟิลด์ได้กล่าวว่า “ผมได้บอกกับตัวแทนของผมไปแล้วว่า ผมจะไม่ร่วมงานกับ Warner Bros. และการยกเลิก ‘Coyote vs. Acme’ นั้น จะทำให้สตูดิโอสูญเงินอย่างน้อย 300 ล้านเหรียญ”
‘Coyote vs. Acme’ ซึ่งนำแสดงโดยหนึ่งในตัวละครจากซีรีส์แอนิเมชัน ‘Looney Tunes’ ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดอย่าง Wile E. Coyote นั้น เดิมทีมีกำหนดฉายในปี 2023 ก่อนที่ Warner Bros. จะประกาศยกเลิกการฉายเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2023 ที่ผ่านมา เพื่อตัดหนี้สูญ (Tax Write-Off) ของบริษัทลงไป 30 ล้านเหรียญ
ทั้งนี้ Warner Bros. ได้ประกาศว่าเปิดให้ผู้จัดจำหน่ายรายอื่นเข้ามาซื้อสิทธิ์การฉาย ‘Coyote vs. Acme’ โดยมีหลายสตูดิโอให้ความสนใจ รวมถึงผู้ให้บริการสตรีมมิงรายใหญ่อย่าง Apple, Netflix และ Prime Video
‘Coyote vs. Acme’ เป็นผลงานกำกับของ เดฟ กรีน (Dave Green) จาก ‘Teenage Mutant Ninja Turtles: Out of the Shadows’ (2016) โดยได้ เจมส์ กันน์ (James Gunn) มาร่วมเขียนบท ว่าด้วยเรื่องของ Wile E. Coyote และ Road Runner ที่ว่าจ้างทนายที่เป็นมนุษย์เพื่อต่อสู้บนชั้นศาลกับซีอีโอของ Acme ที่รับบทโดย จอห์น ซีนา (John Cena)
นี่เป็นภาพยนตร์ล่าสุดที่ Warner Bros. ได้ประกาศยกเลิกภายหลังจาก ‘Batgirl’ และ ‘Scoob! Holiday Haunt’ ทั้งที่ภาพยนตร์เหล่านี้ได้สร้างจนเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้วเช่นกัน รวมถึงอีกหลายโปรเจกต์ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเงินของสตูดิโอ
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส