เคยลองนับเลขเล่นๆ กันมั้ยคะ ว่าวันๆ นึงเราเสียเวลากับการสนใจเรื่องของคนอื่นไปขนาดไหน ?
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ ที่สังคมเราเคยชินกับการตำหนิ ดุด่า ว่ากล่าว ใส่ร้ายคนอื่น.. จนบีเห็นโพสต์ดราม่าต่างๆ มียอด Like และ Share กันกระหน่ำเต็มเฟส ชนิดที่ว่าคนในข่าวฉาวไร้ที่ยืนในสังคมไปเลย
หลายครั้งที่เราเสียเวลาไปกับการสนใจเรื่องของคนอื่น แถมบางทียังเอาเวลาเหล่านั้นไปพ่น Hate speech จนเป็นพิษภัยกับคนอื่นด้วย บีว่าถึงเวลาต้องจริงจังแล้วล่ะ ที่เราต้องย้อนมองตัวเอง และคนรอบข้าง ด้วยสติในการไตร่ตรองว่าอะไรสมควรทำในโลกอินเตอร์เน็ต และอะไรคือสิ่งที่เราไม่ควรทำ
ว่าแต่ Hate speech คืออะไรกันนะ บีจะมาเม้าให้ฟังกันค่ะ
Hate speech ก็คือการใช้คำพูด หรือภาษาในรูปแบบต่างๆในการสร้างความเกลียดชังนั่นเอง
เราจะเห็นคอมเม้นตามโพสต์ใน Facebook , Youtube , twitter แม้กระทั่งเว็บบอร์ดอย่าง Pantip ที่เต็มไปด้วยการพูดให้ร้าย ด่าทอ หรือโจมตีบางอย่าง สิ่งเหล่านี้แหละที่สร้างความเสียหายต่อสังคมทั้งทางตรงและทางอ้อม
ลองดูคลิปวิดีโอนี้จาก ศูนย์ศึกษานโยบายสื่อ คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาฯ น่าจะเข้าใจได้มากขึ้นค่ะ
น่าจะพอรู้จัก Hate speech กันพอสมควรแล้ว แล้วคุณผู้อ่าน รู้สึกคุ้นๆหรือผ่านตากันบ้างมั้ยคะ ว่ามีคนใกล้ตัวคุณเผลอไปพ่น Hate speech ใส่คนอื่น.. ถ้าเจอแล้ว จะแก้ไขยังไงดีล่ะ เราจะช่วยอะไรเขาได้บ้าง
ตักเตือนไปเลย อย่ามัวเกรงใจ
การเห็นคนอื่นทำในสิ่งที่ผิด แล้วคุณยังนิ่งเฉย ไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ บีว่าเราไม่ควรเกรงใจในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ดังนั้นหาโอกาสดีๆที่อยู่กันสองคน ในการพูดเรื่องนี้ โดยคุณอาจพูดอ้อมๆอย่างมีศิลปะว่า คุณเป็นห่วงเขาและไม่อยากเห็นเขามีภาพพจน์ที่ไม่ดีจากการใช้ Hate speech
กล่าวลอยๆ ใน Facebook
บีไม่สนับสนุนการตั้งสเตตัสดราม่าเลื่อนลอย เพราะทำให้คนรอบๆ ตัวคุณหดหู่ แต่บีว่าคราวนี้ ควรงัดดราม่ามาลองใช้ให้เป็นประโยชน์สักครั้ง!! ลองตั้งในทำนองที่ว่า คุณไม่ชอบเลย กับพวกที่ชอบกล่าวร้าย ตำหนิคนนู้น ว่าร้ายสิ่งนี้ในโพสต์สาธารณะ
นอกจากจะทำให้เขาชะงักเวลาเห็นโพสต์แบบนี้แล้ว ยังเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นๆ ในเฟสบุ้คที่กำลังจะทำด้วย แต่บีแนะนำว่าควรจะใช้คำสุภาพและศิลปะในการเขียนสักหน่อยค่ะ
ส่งรอยยิ้มสดใส มอบพลังบวก
เคยได้ยินไหม กับประโยคที่บอกว่า “อยากเป็นคนเช่นไร จงเอาตัวไปใกล้คนเหล่านั้น” และแน่นอนว่า จงมอบพลังอันศักดิ์สิทธิ์ในตัวคุณไปให้เขา ด้วยการมอบพลังแห่งรอยยิ้มอันสดใส เสียงหัวเราะอันสนุกสนาน และทัศนคติดีๆ ปลูกฝังเขาทีละนิด แน่นอนว่าไม่มีใครอยากมองแง่ร้ายไป ให้ตัวเองหมองหม่นไปตลอดชีวิตหรอกค่ะ
กระซิบผู้ใหญ่ที่เขานับถือ
เมื่อคุณทำทุกวิถีทางแล้วดูไม่ได้ผลกับเขาแล้ว ลองเนียนๆ กระซิบผู้ใหญ่หรือคนที่เขานับถือ โดยให้เหตุผลว่า “อาจดูเสียภาพลักษณ์” อาจดูไม่มีเหตุผลมากพอ แต่มันก็มากพอที่จะทำให้เขาหยุดกล่าวร้าย สร้างความเสียหายต่อคนอื่น
ต่อไปนี้ถ้าคุณเจอคนรอบข้างที่ชอบพ่น Hate speech หรือสนใจแต่เรื่องผิดพลาดและดราม่าทั้งหลาย คุณจะได้มีวิธีรับมือและหนทางดีๆเพื่อช่วยให้เขามีทัศนคติที่ดีขึ้น
แต่อ่านมาถึงตรงนี้คุณอาจจะคิดว่า แล้วมันเรื่องอะไรของคุณที่จะต้องไปแนะนำเขาว่า “เป็นสิ่งไม่ดี” แต่ทั้งนี้คุณต้องไม่ลืมว่า เราไม่สามารถอยู่บนโลกนี้ได้ หากปราศจากความดีงาม เหมือนที่ไอสไตน์เคยบอกเอาไว้ว่า “The world will not be destroyed by those who do evil, but by those who watch them without doing anything.”