หลังจากที่เปิดตัวสุดสัปดาห์แรกในสหรัฐฯ ไปเพียง 46.1 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้เปิดตัวที่ย่ำแย่ที่สุดในแฟรนไชส์ MCU (Marvel Cinematic Universe) ของ Marvel Studios และทำรายได้ทั่วโลกไปในขณะนี้เพียง 120.5 ล้านเหรียญ ซึ่งยังห่างจากทุนสร้างที่มหาศาลถึง 270 ล้านเหรียญ และยังห่างจากจุดคุ้มทุนที่คิดไว้ประมาณ 2 เท่าของทุนสร้างนั้น ล่าสุดมีรายงานว่า ‘The Marvels’ ทำรายได้ในสัปดาห์ที่ 2 ไปอย่างไม่น่าประทับใจ
เว็บไวต์ Variety ได้รายงานว่า ‘The Marvels’ ทำรายได้เมื่อวันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2023 ไปเพียง 2.8 ล้านเหรียญ ซึ่งน้อยกว่ารายได้เปิดตัววันศุกร์ที่ 10 พฤศจิกายน 2023 ที่ทำไป 21.6 ล้านเหรียญ หรือคิดเป็นจำนวนรายได้ที่ลดลงถึง 87%
นั่นทำให้มีการคาดการณ์ว่ารายได้ในสุดสัปดาห์ที่ 2 ของ ‘The Marvels’ นั้น อาจต่ำกว่า 10 ล้านเหรียญ ในขณะที่ภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เข้าใหม่อย่าง ‘The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes’ และ ‘Trolls Band Together’ จะทำรายได้ในอันดับที่ 1 และ 2
ความล้มเหลวด้านรายได้ของ ‘The Marvels’ นั้น เป็นการเดินรอยตามภาพยตร์ MCU ก่อนหน้านี้อย่าง ‘Ant-Man and the Wasp: Quantumania’ ที่ทำรายได้ทั่วโลกไปเพียง 476.1 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 200 ล้านเหรียญ ในขณะที่ภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จด้านรายได้คือ ‘Guardians of the Galaxy Vol. 3’ ที่ทำรายได้ทั่วโลกไ 845.6 ล้านเหรียญ จากทุนสร้าง 250 ล้านเหรียญ
ปัจจัยที่ทำให้ภาพยนตร์ MCU ประสบความล้มเหลวด้านรายได้คือ ผู้ชมเริ่มเบื่อหน่ายกับภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร และโทนเรื่องที่ซ้ำซาก ซึ่งอาจทำให้ Marvel Studios ต้องปรับเส้นเรื่องแฟรนไชส์ให้ และอาจทำให้เส้นเรื่องของ Multiverse Saga ที่ปูมาตั้งแต่ต้นเฟสที่ 5 ถูกละทิ้งไปก่อนที่จะเกิดเสถียรภาพอย่างน่าเสียดาย
นอกจากนี้ การที่ MCU ต้องเสียนักแสดงหลักอย่าง โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) และ คริส อีแวนส์ (Chris Evans) ไปนั้น ก็ทำให้ผู้ชมบางส่วนสนใจภาพยนตร์ MCU น้อยลงไปด้วย
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส