‘เงารักลวงใจ’ ละครระดับตำนานอีกเรื่องของช่อง 3 เมื่อปี พ.ศ. 2553 ถูกนำมารีเมกใหม่ในชื่อ ‘กลเกมรัก’ โดยได้ หนุ่ย-ศุทธสิทธิ์ เดชอินทรนารักษ์ ผู้กำกับมิวสิกวิดีโอและซีรีส์ ‘Club Friday The Series’ รับหน้าที่กำกับการแสดง
หากพูดถึงละครเรื่อง ‘เงารักลวงใจ’ แล้ว นอกจากเนื้อเรื่องที่เข้มข้น ยังเป็นผลงานที่แจ้งเกิดให้กับเหล่านักแสดงหน้าใหม่หลายคนทั้ง กุ๊บกิ๊บ-สุมณทิพย์ ชี, หมาก-ปริญ สุภารัตน์, มิ้นท์-ณัฐวรา วงศ์วาสนา และ ณเดชน์ คูกิมิยะ
จาก ‘เงารักลวงใจ’ มาถึง ‘กลเกมรัก’ ในปี พ.ศ. 2566 ได้มีการเปลี่ยนชื่อตัวละคร และได้นักแสดงหน้าใหม่มารับบท ได้แก่ มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร, เดนิส-เจลีลชา คัปปุน, อู๋-กิตติภณ ทิพยทยารัตน์ และ ไอซ์-ภาณุวัฒน์ เปรมมณีนันท์
‘กลเกมรัก’ นั้นเล่าถึงเรื่องราวของเด็กสาวสองคนที่มีนิสัยต่างกันอย่างสิ้นเชิง อันดา (รับบทโดย มิ้นท์ รัญชน์รวี) และ ลลิษา (รับบทโดย เดนิส เจลีลชา) ที่เติบโตมาในมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้า โดยที่อันดานั้นไม่รู้เลยว่าตัวเธอเอง จริง ๆ แล้วเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีตระกูลใหญ่ แต่เรื่องราวกลับพลิกผันเมื่อเพื่อนสนิทของเธออย่างลลิษาได้ตัดสินใจสวมรอยเป็นอันดาเพื่อหวังใช้ชีวิตในแบบที่ดีขึ้น อีกทั้งมูลนิธิบ้านเด็กกำพร้านั้นเป็นพื้นที่ที่ทางบริษัทอสังหาริมทรัพย์ KTP Group ได้ให้ความสนใจอยากทำธุรกิจจึงเกิดการขับไล่คนในพื้นที่ออกไป และทำให้อันดาได้เจอกับ อนล (รับบทโดย อู๋ กิตติภณ) และ ภีม (รับบทโดย ไอซ์ ภาณุวัฒน์) อันดาจะรู้ตัวหรือไม่ว่าเธอกำลังถูกสวมรอยอยู่ และชีวิตรักของเธอหลังจากที่ได้เจออนลกับภีมจะเป็นอย่างไร ต้องรอติดตามกันในเรื่อง
ละครเรื่องนี้นอกจากมีความน่าสนใจในเรื่องราวที่นำมารีเมกใหม่ให้เข้ากับโลกยุคใหม่แล้ว เหล่านักแสดงหน้าใหม่แต่ละคนก็แสดงได้ถึงพริกถึงขิง จนทำให้คนดูสามารถลุ้นตามไปได้ทุกตอน
วันนี้ beartai BUZZ ขอพาทุกคนไปรู้จักกับ 4 นักแสดงหลักของเรื่อง ไปดูกันว่าตัวละครของพวกเขาจะมีความน่าสนใจ และมีเบื้องหลังอะไรซ่อนอยู่บ้าง
มิ้นท์-รัญชน์รวี เอื้อกูลวราวัตร รับบท อันดา
มิ้นท์ รัญชน์รวี อดีตนักกีฬาแบดมินตัน ระดับเยาวชนแห่งชาติ ปัจจุบันอายุ 25 ปี และเคยร่วมงานกับผู้กำกับ หนุ่ย ศุทธสิทธิ์ มาก่อนในผลงานมิวสิกวิดีโอเพลง “ดอกฟ้า” ของวง LABANOON หลาย ๆ คนอาจรู้จักและคุ้นเคยเธอจากผลงานหนัง ‘Classic Again’ ซึ่งการแสดงของเธอในบทบาท ‘อันดา’ เรียกได้ว่า ‘นุ่ม นิ่ง น่าจับตามอง’ ในเรื่องนี้เธอต้องรับบทเป็นลูกสาวของคนรวย แต่ตัวเธอเองกลับไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อนและต้องไปอาศัยอยู่ในบ้านเด็กกำพร้ามาเกินครึ่งชีวิต ในละครนั้นเธอต้องแสดงเป็นเด็กอายุ 18 ปี ซึ่งเป็นอายุที่น้อยกว่าชีวิตจริงของเธอราว 7 ปี แต่เธอนั้นก็สามารถถ่ายทอดความเป็นเด็กอายุ 18 ออกมาได้เป็นอย่างดี ทำให้ผู้ชมสามารถเชื่อได้ว่าอันดาเป็นตัวละครที่มีความใสซื่อ น่าสงสาร และน่าเห็นใจเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะซีนที่เธอแสดงคู่กับตัวละคร ลลิษา (เดนิส เจลีลชา) เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหดของเธอ ก็ยิ่งทำให้ผู้ชมได้เห็นเคมีการแสดงระหว่างกันของสองนักแสดงและสองตัวละครที่มีคาแรกเตอร์ต่างกันโดยสิ้นเชิง ยามรักกันก็ดูน่ารักและสนิทสนมกันมาก แต่เมื่อใดที่ถึงคราวอิจฉาริษยา ตบตี หรือทะเลาะกัน คู่นี้ก็สามารถแสดงออกมาได้อย่างดุเดือด ราวกับโกรธกันมานานแล้วจริง ๆ
เดนิส-เจลีลชา คัปปุน รับบท ลลิษา
หลายคนอาจคุ้นหน้าคุ้นตา เดนิส เจลีลชา นักแสดงลูกครึ่งไทย-อเมริกัน วัย 16 ปี จากบทบาท ‘หยาด’ ในผลงานหนัง ‘ธี่หยด’ ที่สามารถกวาดรายได้ไปกว่า 400 ล้านบาท ใน ‘กลเกมรัก’ เดนิส รับบทเป็น ‘ลลิษา’ เพื่อนรักเพื่อนร้ายของอันดาที่มีนิสัยต่างกันสุดขั้ว
โดยเธอได้ตัดสินใจสวมรอยและปลอมตัวเป็นอันดาเข้าไปอยู่ในตระกูลใหญ่ เพื่อให้ตัวเองได้มีชีวิตที่ดีขึ้น ในบทบาทนี้เดนิสต้องเปลี่ยนลุคของเธอมากพอสมควร เพราะในชีวิตจริงเธอนั้นอายุ 16 ปี แต่ต้องมารับบทหญิงสาวอายุ 18 ปีที่มีความคิดและทำตัวเกินกว่าอายุไปมาก ซึ่งเธอนั้นก็สามารถถ่ายทอดออกมาได้ดีจนผู้ชมอาจรู้สึกเชื่อและ ‘เกลียด’ การกระทำของตัวละครนี้ได้จริง ๆ โดยเดนิสเองได้นิยามตัวละครลลิษาไว้ว่า ‘สวย แซ่บ และแรดมาก’
โดยซีนอารมณ์ต่าง ๆ ที่เธอแสดงออกมาแต่ละซีนนั้น สามารถทำออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ เนื่องจากตัวละครของเธอเป็นตัวละครที่ค่อนข้างมีหลากหลายบุคลิก สวมรอยแสร้งเป็นคนดี บางทีก็ทำตัวเลว หรือน่าสงสาร แต่ไม่ว่าจะถ่ายทอดอารมณ์ไหน ๆ สีหน้าและแววตาของเธอก็แสดงออกมาได้อย่างแนบเนียนและทำให้ผู้ชมเชื่อได้จริง ๆ
อู๋-กิตติภณ ทิพยทยารัตน์ รับบท อนล
อู๋ กิตติภณ นักแสดงหน้าใหม่ที่เรียกได้ว่าใหม่แกะกล่องวัย 25 ปี ชิมลางงานแสดงละครเรื่องแรก ใน ‘กลเกมรัก’ ซึ่งก่อนหน้านี้หลาย ๆ คนอาจพอคุ้นหน้าคุ้นตาหนุ่มคนนี้อยู่บ้าง จากมิวสิกวิดีโอเพลง “แนะนำให้เป็นแฟนเรา” ของ BOW Maylada feat.GUYGEEGEE หากพูดถึงการแสดงละครครั้งแรกของเขา อู๋ได้เตรียมตัวและทำการบ้านอย่างหนักในการรับบท ‘อนล’ หนุ่มนักธุรกิจมาดเข้ม ที่มักถูกเปรียบเทียบกับลูกพี่ลูกน้องของเขาอย่าง ภีม (ไอซ์ ภาณุวัฒน์) อยู่เสมอ
การแสดงของอู๋ในบทอนลนั้น ถือว่าทำออกมาได้ค่อนข้างดี หากนับว่านี่คือละครเรื่องแรกของเขา ยิ่งการเข้าฉากกับ กบ-ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี ผู้รับบทเป็นพ่อของอนล พ่อที่เป็นห่วงลูกชายแต่กลับต้องกดดันอนลอย่างหนัก ส่งผลให้อนลมักไม่มั่นใจในตัวเอง และรู้สึกหนักอึ้งเวลาจะตัดสินใจลงมือทำสิ่งต่าง ๆ ถือเป็นคู่พ่อลูกที่น่าจับตามองมาก ๆ แถมเจ้าตัวยังบอกไว้ว่าฉากที่เข้าร่วมกับ กบ ทรงสิทธิ์ เป็นฉากที่เขารู้สึกว่าถ่ายทำยากที่สุด
ไอซ์-ภาณุวัฒน์ เปรมมณีนันท์ รับบท ภีม
ไอซ์ ภาณุวัฒน์ พระเอกจากละครเรื่อง ‘วาสนารัก’ เมื่อปี 2563 โดยก่อนหน้านี้ไอซ์เป็นหนุ่มที่ไว้ผมยาว ก่อนที่จะเปลี่ยนลุคให้ผู้ชมได้เห็นในละครเรื่อง ‘กลเกมรัก’ ซึ่งเขารับบทเป็น ‘ภีม’ ชายหนุ่มแสนอบอุ่น ผู้เป็นยูทูบเบอร์ และไม่อยากเป็นนักธุรกิจ แถมในเวลาต่อมาด้วยเหตุการณ์ความโชคร้ายบางอย่าง ทำให้เขาตาบอดและไม่สามารถมองเห็นได้อย่างที่เคย การรับบทในครั้งนี้ไอซ์ได้เล่าว่า มันคือความท้าทายใหม่ ๆ ของเขาที่ต้องมารับบทเป็นคนตาบอด ซึ่งเขาก็ต้องทำการบ้านและใช้เวลาเตรียมตัวมากพอสมควร
โดยตัวละครภีมนั้น ไอซ์สามารถถ่ายทอดการแสดงออกมาได้อย่างอบอุ่น และดูเป็นตัวละครที่แสนดีอย่างมาก ไม่ว่าจะทำอะไรเขาก็ดูเป็นคนสุภาพ อ่อนโยน แต่พอถึงคราวที่ชีวิตของเขาพลิกผันกลายเป็นคนตาบอดจากเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน เขาก็แสดงออกมาได้ดูน่าสงสารและน่าเห็นใจ หรือแม้กระทั่งฉากที่เขาทะเลาะกับอนลไม่ว่าจะเป็นทางวาจาหรือทางกาย ฉากเหล่านั้นก็ทำออกมาได้โอเคเลยทีเดียว และน่าจะเป็นฉากที่ได้ใจผู้ชมไปไม่มากก็น้อย
หากพูดถึงภาพรวมของตัวละครใน ‘กลเกมรัก’ แน่นอนว่าเคมีการแสดงของนักแสดงแต่ละคนนั้น ถือว่าทำออกมาได้ดีเกินคาด เคมีของทั้ง 4 ดูเข้ากันได้ดีและลงตัว ผู้ชมจะได้เห็นว่านักแสดงแต่ละคนนั้นต่างก็ใส่กันแบบเต็มที่ ดีสุด ร้ายสุด อบอุ่นสุด หรือแม้กระทั่งน่าสงสารที่สุด
สำหรับนักแสดงหน้าใหม่ จากละคร ‘กลเกมรัก’ ทั้ง 4 คนนี้ ก็ถือว่าเป็นกลุ่มนักแสดงที่ ‘น่าจับตามอง’ เป็นอย่างมาก ยังไงผู้ชมก็คงต้องรอติดตามและให้กำลังใจนักแสดงเหล่านี้กันต่อไป รวมไปถึงรอติดตามเรื่องราวบทสรุปทั้งหมดของ ‘กลเกมรัก’
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส