Deadline ได้รายงานว่า Warner Bros. Discovery ต้องการขายภาพยนตร์ ‘Coyote vs. Acme’ ด้วยมูลค่าที่สูงกว่า 70 ล้านเหรียญ ให้แก่สตูดิโอที่แสดงความสนใจ ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวครอบคุมไปถึงทุนสร้างภาพยนตร์และกำไรอีกเล็กน้อย
‘Coyote vs. Acme’ เป็นภาพยนตร์ล่าสุดที่ Warner Bros. Discovery ยกเลิกทั้งที่สร้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว เพื่อลดมูลค่าหนี้สูญของสตูดิโอลงไปราว 30 ล้านเหรียญ โดยมีสตูดิโอใหญ่มากมายแสดงความสนใจซื้อภาพยนตร์ดังกล่าวไปฉาย
Deadline ได้ระบุว่า Netflix และ Paramount เป็นผู้นำในการประมูลซื้อ ‘Coyote vs. Acme’ โดยทาง Paramount นั้น ต้องการนำไปฉายในโรงภาพยนตร์ ในขณะที่ Amazon และ Apple ก็ต้องการจะเข้ามาร่วมประมูลเพื่อนำภาพยนตร์ไปฉายบนบริการสตรีมมิง Prime Video และ Apple TV+ ตามลำดับ
อย่างไรก็ดี ในตอนนี้ยังไม่มีสตูดิโอใดสามารถปิดดีลหรือเสนอเงินได้เพียงพอตามที่ Warner Bros. Discovery ต้องการได้
‘Coyote vs. Acme’ เล่าเรื่องของ Wile E. Coyote ตัวละครชื่อดังจากแฟรนไชส์ Looney Tunes ที่ตัดสินใจฟ้องร้องบริษัท Acme Corporation ที่ผลิตสินค้าด้อยคุณภาพ ส่งผลให้มันไม่สามารถจับ Road Runner ได้ โดยได้นักแสดงตลกเจ้าบทบาทอย่าง วิลล์ ฟอร์เต (Will Forte) รับบทเป็นทนายผู้โชคร้าย ในขณะที่ จอห์น ซีนา (John Cena) รับบทเป็นซีอีโอของ Acme Corporation
ก่อนหน้านี้ Warner Bros. Discovery ได้ยกเลิกการฉายภาพยนตร์หลายเรื่อง รวมถึง ‘Batgirl’ และแอนิเมชันภาคต่อของ ‘Scoob!’ ทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว เพื่อแก้ปัญหาหนี้สูญของสตูดิโอ
ที่มา : ScreenRant
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส