ถ้านับจนถึง ณ ตอนนี้ คงไม่มีใครคัดค้านในความสัมพันธ์ครั้งใหม่สุดหวานฉ่ำของนักร้องสาวระดับโลก เทย์เลอร์ สวิฟต์ (Taylor Swift) และนักอเมริกันฟุตบอลตำแหน่งไทต์เอนด์ (Tight End) จากทีม แคนซัส ซิตี ชีฟส์ (Kansas City Chiefs) ดาวดังของ NFL อย่าง ทราวิส เคลซี (Travis Kelce) ที่มีภาพเป็นการยืนยันว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้พัฒนาไปถึงขั้นจริงจังก็ไม่น่าจะผิดไปจากนี้
และแน่นอนว่า ด้วยความสัมพันธ์ที่จริงจัง แต่ ณ ตอนนี้ สวิฟต์เองที่กำลังอยู่ในช่วงพักการทัวร์คอนเสิร์ต The Eras Tour ของตัวเอง จนกว่าจะกลับมาทัวร์คอนเสิร์ตอีกทีในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2024 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และด้วยความที่ทั้งคู่ยังไม่ได้อยู่ชายคาหลังเดียวกัน เวลาพบเจอกัน สวิฟต์จึงต้องใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัว 2 ลำในการเดินทางไปหาคุณแฟนอย่างเคลซี ทั้งหมด 12 เที่ยวบินภายในระยะเวลา 3 เดือน ซึ่งปลดปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) เท่ากับบ้าน 17 หลังภายในระยะเวลา 1 ปี
แม้ว่าก่อนหน้านี้ในปี 2022 มีรายงานว่าสวิฟต์ติดอันดับ 1 ในฐานะคนดังที่สร้างคาร์บอนฟุตพรินต์ ที่เกิดจากการใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวมากที่สุดในโลก ซึ่งแน่นอนว่าสวิฟต์ก็อาจจะสามารถรั้งตำแหน่งคนดังผู้ปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์ติดต่อกันเป็นปีที่ 2 ก็เป็นได้ โดยสถิติดังกล่าวถูกเปิดเผยโดย Instagram Taylor Swift’s Jets ที่คอยอัปเดตเส้นทางการบินของสวิฟต์ และเป็น 1 ในเครือข่ายของ Celebrity Jets ที่คอยอัปเดตเส้นทางการบินของบรรดาคนดังที่มีชื่อเสียงระดับโลกอีกหลาย ๆ คน
โดยรายงานของ Taylor Swift’s Jets พบว่า สวิฟต์ได้ใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวมูลค่าหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ จำนวน 2 ลำ ทั้ง Dassault Falcon 7x และ Dassault Falcon 900 ในการบินไปกลับจากท่าอากาศยานนานาชาติแนชวิลล์ (BNA) เมืองแนชวิลล์ รัฐเทนเนสซี ที่อยู่ของเธอเอง ไปยังสนามบินแคนซัสซิตี (MKC) ในเมืองแคนซัสซิตี รัฐมิสซูรี ที่อยู่ห่างออกไป 481 ไมล์ (ประมาณ 774 กิโลเมตร) เป็นจำนวน 12 เที่ยว ภายในระยะเวลา 3 เดือน
จากการคำนวณผ่านเว็บไซต์คำนวณก๊าซเรือนกระจก ของสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมสหรัฐ (United States Environmental Protection Agency – EPA) เปิดเผยว่า ภายในระยะเวลา 3 เดือน การบินเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของสวิฟต์ ได้ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์รวมทั้งหมด 138 ตัน เทียบเท่ากับพลังงานที่ใช้ภายในบ้านเรือน 17 หลังในระยะเวลา 1 ปี หรือเทียบเท่าปริมาณการใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน 26.9 หลังภายใน 1 ปี
โดยมีรายงานว่า การเดินทางทั้งหมด ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงไปราว ๆ 12,622 แกลลอน (ประมาณ 57,381 ลิตร) คิดเป็นค่าเชื้อเพลิง 70,779 เหรียญ (ประมาณ 2,4xx,xxx บาท) ซึ่งหากจะต้องชดเชยความเสียหายของสิ่งแวดล้อม จากการปล่อยคาร์บอนจำนวนนี้ จะต้องปลูกต้นไม้จำนวน 2,282 ต้น และใช้ระยะเวลาให้ต้นไม้เติบโตนานถึง 10 ปี
เที่ยวที่ใช้ระยะทางในการบินเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวของสวิฟต์ที่ยาวที่สุดในขณะนี้ คือเที่ยวเดินทางจากเมืองเซาเปาโล ประเทศบราซิล ไปยังเมืองแคนซัสซิตี รัฐมิสซูรี สหรัฐอเมริกา และมีการหยุดพักเครื่องที่เมืองแทมปา รัฐฟลอริดา ซึ่งใช้เชื้อเพลิงไปราว 4,151 แกลลอน (ประมาณ 18,871 ลิตร) คิดเป็นค่าเชื้อเพลิงราว 23,250 เหรียญ (ประมาณ 8xx,xxx บาท)
เมื่อปี 2022 ยาร์ด (Yard) บริษัทดิจิทัลเอเจนซีที่ดำเนินการนโยบายด้านความยั่งยืน ได้ออกมาเปิดเผยรายงานการวิจัย และเปิดเผย 10 อันดับคนดังที่ปล่อยคาร์บอนฟุตพรินต์สู่ชั้นบรรยากาศมากที่สุดจากการโดยสารเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2022 ผลปรากฏว่า สวิฟต์ขึ้นเป็นอันดับ 1 จากการปล่อยคาร์บอน 8,293.54 ตัน จากทั้งหมด 170 เที่ยวบิน แม้ว่า ณ ตอนนั้นจะยังไม่มีการออกทัวร์คอนเสิร์ตแต่อย่างใด
หลังจากนั้น ตัวแทนของสวิฟต์ได้เปิดเผยเพื่อตอบโต้กระแสข่าวดังกล่าวว่า สวิฟต์ได้ให้คนอื่นยืมเครื่องบินเจ็ต Falcon 7X ไปใช้ ทำให้การคำนวณผิดพลาด และเธอกำลังดำเนินการเพื่อจัดการลดการปล่อยคาร์บอนให้น้อยลง ด้วยการลดการใช้เครื่องบินเจ็ตส่วนตัวให้น้อยลง และซื้อคาร์บอนเครดิตเพื่อชดเชยคาร์บอนที่เกิดขึ้นจากการเดินทางด้วย
เว็บไซต์ Daily Mail ได้รายงานว่าทั้งคู่มักจะเดินทางไปมาหาสู่เพื่อเจอและใช้เวลาร่วมกันอยู่เสมอ และมีรายงานว่า สวิฟต์ได้ย้ายมาอยู่อาศัยในคฤหาสน์มูลค่าหลังละ 6 ล้านเหรียญของเคลซี ที่ตั้งอยู่ในแคนซัสซิตีเป็นการชั่วคราว ในระหว่างช่วงพักงานและทัวร์คอนเสิร์ต ซึ่งมีรายงานว่ามีผู้พบเห็นรถบรรทุกขนย้ายของเข้ามาในบ้านด้วย แหล่งข่าวอ้างว่าสวิฟต์ใช้คฤหาสน์หลังนี้ในการฝีกซ้อม ก่อนจะออกเดินทางทัวร์คอนเสิร์ตในยุโรป เอเชีย ออสเตรเลีย แคนาดา และกลับมาสหรัฐอเมริกาอีกครั้งในปี 2024
ที่มา: DailyMail
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส