เมื่อตอนต้นปีที่ผ่านมา ‘The Flash’ ผลงานกำกับของ แอนดี มุสชิเอตติ (Andy Muschietti) หนังซูเปอร์ฮีโร เรื่องท้าย ๆ ของจักรวาล DCEU ถือว่าไม่ประสบความสำเร็จในแง่ของรายได้และคำวิจารณ์ รวมถึงคุณภาพด้านงานสร้างที่ยังไม่รัดกุมมากนัก แต่ก็ยังถือว่ายังเป็นหนังที่ผู้ชมชื่นชอบมากที่สุด
ส่วนหนึ่งก็เพราะการปรากฏตัวของบรรดา Cameo นักแสดงจาก DC ในอดีตมารวมกันมากมาย ทั้ง Superman จากเวอร์ชัน คริสโตเฟอร์ รีฟส์ (Christopher Reeves) และเวอร์ชัน ‘Superman Lives’ ที่ไม่เกิดขึ้นจริงของ นิโคลัส เคจ (Nicolas Cage) รวมทั้งคาแรกเตอร์แบทแมน หรือ บรูซ เวย์น ที่ขนกันมาหลายยุคสมัยเช่นกัน ทั้ง เบน แอฟเฟล็ก (Ben Affleck) แบทแมน Snyderverse รวมทั้งแบทแมนฉบับ 90s ของ ทิม เบอร์ตัน (Tim Burton) ทั้ง ไมเคิล คีตัน (Michael Keaton) และ จอร์จ คลูนีย์ (George Clooney)
ซึ่งใครที่เป็นแฟนของหนังแบทแมน ก็จะพอทราบว่า แบทแมนเวอร์ชันของคลูนีย์ใน ‘Batman & Robin’ (1997) ถือเป็นรอยด่างพร้อยในอาชีพการเป็นนักแสดงของเขาเลยก็ว่าได้ เพราะด้วยตัวหนังที่โดนวิพากษ์วิจารณ์ถล่มยับ รายได้ที่ไม่เข้าเป้า กลายเป็นหนังแบทแมนที่ประสบความล้มเหลวมากที่สุดเรื่องหนึ่ง จนถึงขั้นที่คลูนีย์เองเอ่ยปากว่าเป็นบทที่เขาเองไม่อยากจะกลับไปย้อนดู นึกถึง หรือแม้แต่จดจำเลยแม้แต่น้อย
แต่สุดท้ายเขาเองก็ยอมมาปรากฏตัวในฐานะ บรูซ เวย์น แบบแวบ ๆ ในตอนท้ายของ ‘The Flash’ ซึ่งล่าสุด ในระหว่างที่เขาได้ร่วมงานฉายรอบปฐมทัศน์ ‘The Boys in the Boat’ ผลงานหนังเรื่องล่าสุดที่เขาลงมือกำกับและเป็นโปรดิวเซอร์ด้วยตัวเอง ได้เปิดเผยกับ Entertainment Tonight ว่า แม้เขาจะยอมกลับมาปรากฏตัวในบทบาท บรูซ เวย์น แต่ก็ไม่ได้แปลว่าเขาจะยอมกลับมารับบทแบทแมน
คลูนีย์เล่าแบบขำ ๆ ว่า การที่เขากลับมารับบทนี้อีกครั้งใน ‘The Flash’ เพราะแฟน ๆ อยากเห็นเขาในบทนี้อีกครั้ง “อย่างที่คุณรู้ผมคิดว่าคงมีเสียงเรียกร้องให้ผมกลับมาเป็นแบทแมนอีกนั่นแหละ แต่เอาจริง ไหนล่ะหัวนมยางของผมน่ะ ? ผมจะกลับมาโดยที่ไม่มีหัวยางนมได้ไหมล่ะ คือมันคงไม่ใช่แบทแมนของผมหรอก ใช่ไหม ? ผมคิดว่ายาเสพติดทั้งโลกนี้ก็ไม่พอจะมอมให้ผมกลับไปอีกรอบหรอก”
‘Batman & Robin’ (1997) เป็นผลงานกำกับของ โจเอล ชูมักเกอร์ (Joel Schumacher) แม้รายได้ตอนฉายจะถือว่าไม่น่าเกลียด แต่ตัวหนังกลับถูกวิจารณ์ว่าล้มเหลวที่สุดในบรรดาแบทแมนทุกเวอร์ชัน เพราะด้วยการปรับโทนหนังให้เบาลงและมีความแฟนตาซีกว่าภาคก่อนหน้า การดีไซน์งานสร้างที่มีนัยทางเพศตามวิสัยทัศน์ของผู้กำกับ ที่ชัดเจนที่สุดก็คือชุด Batsuit ที่มีหัวนม รวมถึงบทที่ย่ำแย่ จนทำให้ทั้งผู้เขียนบทและผู้กำกับต้องออกมาขอโทษที่ทำหนังออกมาได้น่าผิดหวัง ส่วนคลูนีย์ก็มีรอยด่างพร้อย โดยเฉพาะชุดแบทแมนที่มีหัวนม
คลูนีย์เคยได้ให้สัมภาษณ์กับรายการ ‘The Howard Stern Show’ ถึงประสบการณ์ต่าง ๆ เกี่ยวกับวงการบันเทิง และความผิดพลาดพลั้งเผลอในชีวิตของเขา ซึ่งหนึ่งในความผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้ก็คือการรับบทเป็นแบทแมนในหนังเรื่องนี้ แถมเขายังเคยโน้มน้าวให้แอฟเฟล็กที่มาขอคำปรึกษาว่าไม่ให้รับบทนี้เด็ดขาด แต่สุดท้ายเขาเองก็ยอมรับว่าแอฟเฟล็กสามารถรับบทบาทนี้ได้อย่างดีเยี่ยม
“มันโคตรแย่เลย ผมเจ็บปวดมากตอนดูมัน ผมกำลังกดเปลี่ยนช่อง แล้วอยู่ดี ๆ หนังเรื่องนี้ก็โผล่มาในทีวี ผมถึงกับแบบว่า ‘ไม่ ๆๆๆ’ ผมแสดงได้โคตรแย่จริง ๆ เลยให้ตาย แต่ผมคงไปเปลี่ยนอะไรไม่ได้ เพราะตอนนั้นผมก็แค่นักแสดงที่อยากได้งานเท่านั้นเอง ผมไม่ใช่คนเคาะว่าหนังมันจะถูกผลิตออกมาหรือเปล่า”
แต่ถึงแม้เขาเองจะสาปส่งบทบาทนี้ในฐานะที่ทำให้เกิดรอยด่างพร้อยในอาชีพ แต่เขาเองก็เลือกที่จะยอมรับว่า มันเป็นประสบการณ์ที่ทำให้เขาเรียนรู้ในการเลือกรับแสดงหนังที่มีบทดี ๆ ซึ่งทำให้เขาเป็นนักแสดงที่ดีขึ้นได้ในเวลาต่อมา
“พอผมเองเคยเกือบตายจาก ‘Batman & Robin’ มันก็ทำให้ผมได้เข้าใจบางสิ่งบางอย่าง เพราะตอนที่ผมรับบทนั้น ผมเป็นแค่นักแสดงที่ได้งาน และผมก็ตื่นเต้นที่จะได้รับบทเป็นแบทแมน แต่ผมก็มาคิดได้หลังจากนั้นว่า ไม่ใช่แค่ว่าแสดงเท่านั้น แต่ผมยังต้องรับผิดชอบหนังไปด้วย มันก็เลยทำให้ผมต้องให้ความสำคัญกับบทให้ดีกว่านี้ เพราะบทเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่สุด คุณจะทำหนังดี ๆ ไม่ได้เลยถ้าหากบทมันห่วย มันเป็นไปไม่ได้ ในทางกลับกัน คุณทำหนังห่วย ๆ จากบทหนังดี ๆ ได้เช่นกัน”
ที่มา: Entertainment Tonight, Insider
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส