เกม หรือ กีฬาทุกประเภทจัดเป็นกิจกรรมที่สนุก ให้ความบันเทิงทั้งผู้เล่นและผู้ชม เป็นการแข่งขันซึ่งที่มักจบลงด้วยผลที่ว่ามีฝ่ายแพ้และฝ่ายชนะ และต่างฝ่ายต่างย่อมมีน้ำใจนักกีฬาย้อมรับความพ่ายแพ้และกลับมาแก้มือกันในภายหลัง แต่เอาเข้าจริง ๆ มันก็ไม่ได้จบลงสวยงามเสมอไป จึงมักเกิดเหตุการณ์ขึ้นบ่อย ๆ ที่กองเชียร์หรือไม่ก็ผู้เล่นนั่นล่ะที่ตีกันเพราะยอมรับผลการแข่งขันไม่ได้ จึงเกิดวลีที่ว่า “เกมแพ้คนไม่แพ้”

อย่างเช่นข่าวที่หยิบมาเล่านี้ แม้จะเป็นเหตุการณ์ที่เกิดตั้งแต่ปี 2011 แต่ก็เป็นเรื่องประหลาดไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก ควรค่าแก่การหยิบมาเล่าต่อ เพราะเป็นเรื่องของเกมแพ้คนไม่แพ้ แต่คู่กรณีดันต่างวัยกันมากนัก ฝ่ายหนึ่งเป็นคุณลุงอายุ 46 ปี ส่วนอีกฝ่ายเป็นเด็กชายอายุ 13 ปีแค่นั้นเอง

มาร์ก แบรดฟอร์ด

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่เมืองพลายเมาท์ สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2011 มาร์ก แบรดฟอร์ด คุณพ่อลูก 3 กำลังเล่น ‘Call of Duty: Black Ops’ บนเครื่อง Playstation 3 แบบออนไลน์ เป็นเกมที่มีฉากสงครามหลากหลายให้เลือก ผู้เล่นสามารถเลือกรูปแบบการเล่นแบบต่อสู้กันเองได้แบบเรียลไทม์ และสามารถพูดคุยกันได้ตลอดเวลา ด้วยความที่เกมมีภาพที่รุนแรง จึงเป็นเกมที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 18 ปี ขึ้นไป

ระหว่างที่เล่นเกมนี้ ตัวเล่นของแบรดฟอร์ดในเกมก็โดนตัวเล่นของเจ้าหนูยิงตาย ไม่เพียงแค่นั้นเจ้าหนูวัย 13 ยังพูดจาเยาะเย้ยแบรดฟอร์ดอีกด้วย ด่าเขาว่า “ไอ้หัวขวด” ทำให้เขาบันดาลโทสะอย่างรุนแรงจนเกินควบคุม แบรดฟอร์ดซึ่งรู้ว่าเจ้าหนูคนนี้อยู่บ้านไหน เขาจึงจ้ำออกจากบ้านมาประมาณ 200 เมตร แล้วบุกเข้าไปในบ้านซึ่งเจ้าหนูกำลังเล่นเกมอยู่กับเพื่อนพอดี แบรดฟอร์ดตรงเข้าไปบีบคอเด็กชายอย่างรุนแรง เดชะบุญที่แม่ของเด็กชายอยู่ในบ้านพอดี เลยเข้ามาช่วยลูกชายไว้ได้ทัน หลังถูกทำร้ายร่างกาย เด็กชายบาดเจ็บเล็กน้อย ที่คอมีรอยช้ำและรอยขีดข่วน

‘Call of Duty: Black Ops’

เด็กชายวัย 13 ซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อ เล่าว่า “ผมก็แค่นั่งเล่นเกมอยู่ในบ้าน เราก็แค่หยอกล้อกันนิดหน่อย แต่แล้วเขาก็บุกเข้ามาในบ้านคว้าคอผม ผมไม่รู้จริง ๆ ว่าเกิดขึ้นอะไรขึ้นเนี่ย”
แม่วัย 33 ปีของเด็กชาย กล่าวว่า “เป็นเรื่องน่าอับอายที่ผู้ใหญ่อย่างเขามาทำร้ายเด็กที่ไม่มีทางสู้แบบนี้ ถ้าคุณยอมรับที่ตัวเองเล่นเกมแพ้เด็กไม่ได้ ก็ไม่น่าจะมาเล่นเกมนะ”
“ฉันน่ะรู้จักมาร์ก ฉันรีบตรงเข้าไปห้ามเขาทันทีที่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนนั้นฉันเองก็เดือดดาลเลยล่ะ แต่แทนที่ฉันจะไปทะเลาะกับเขา ฉันให้ตำรวจเข้ามาจัดการดีกว่า”

ส่วน มาร์ก แบรดฟอร์ด ผู้ก่อเหตุนั้น ก็มีบันทึกไว้ว่าเขามีปัญหาด้านสุขภาพจิตอยู่แล้ว เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังการพิจารณาคดีว่า
“ผมน่ะเล่นมาทั้งวันแล้ว เขาก็ยั่วผมมาตลอดไม่ยอมหุบปากเลย ทำเอาผมโมโหมาก แล้วในขณะที่ผมกำลังหัวร้อนอยู่นั่นน่ะ ผมก็ดิ่งตรงไปที่บ้านเขาแล้ว บอกตามตรงผมก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปทำอะไรเหมือนกัน”
“มันไม่ใช่เพราะความอาฆาตพยาบาทหรอก ผมก็แค่คว้าตัวเขา หลังจากนั้นพอผมเจอเขาอีกผมก็กล่าวขอโทษ เอาจริง ๆ น้องเค้าก็ไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงอะไรเลย ตัวผมเองก็เสียใจที่ทำลงไป”

ศาลเมืองพลีมัธ

แต่สุดท้าย ทางฝ่ายแม่ของเด็กชายก็ไม่ขอยอมความ แบรดฟอร์ดจึงต้องเข้ารับการพิพากษาในศาลเมืองพลีมัธ เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2011

ผู้พิพากษามอร์แกน-โจนส์ กล่าวในระหว่างพิจารณาคดีว่า “คุณแบรดฟอร์ด คุณน่ะอายุ 46 แล้วนะ ผมมองว่ามันเป็นเรื่องน่ากังวลนะ ที่คุณเป็นผู้ใหญ่ขนาดนี้ซึ่งควรจะควบคุมตัวเองได้ดีกว่านี้ และน่าจะแยกแยะได้ว่าอันไหนคือโลกแฟนตาซีในเกม อันไหนคือโลกจริงที่คุณอาศัยอยู่”

“ในเดือนกรกฎาคม คุณกำลังเล่นเกมออนไลน์ซึ่งคุณสามารถสนทนากับผู้เล่นคนอื่นได้ และในระหว่างที่เล่นเกมนี้ คุณได้พูดคุยกับเด็กชายอายุ 13 ปี”
“เห็นได้ชัดว่าคุณอารมณ์เสีย คุณเลยตัดสินใจออกจากบ้านและมุ่งตรงไปหาเด็กชายผู้นี้ ประเด็นมันอยู่ตรงที่ว่าคุณไปบีบคอเขา”
“ไม่ว่าคุณจะแก้ตัวว่าอะไรก็ตาม ผมยอมรับไม่ได้กับการกระทำของคุณ เขาเป็นผู้เสียหายที่อ่อนแอกว่า แล้วมือคุณไปอยู่รอบคอเขาแบบน้นเขาก็กลัวที่จะได้รับบาดเจ็บ มันเป็นประสบการณ์ที่น่ากลัวมากสำหรับเขา”
“คดีนี้ร้ายแรงถึงขั้นที่จะต้องตัดสินให้มีการคุมขังนะถึงจะเหมาะสม แต่ประเด็นมันอยู่ที่ว่าผมจะให้รอลงอาญาไว้ก่อนหรือไม่”
“แต่ผมก็เห็นแก่การที่คุณยอมรับสารภาพผิดนะ และการที่คุณแสดงออกว่าสำนึกผิดแล้ว”

ผู้พิพากษาเขต โรเบิร์ต มอร์แกน-โจนส์ ตัดสินให้ มาร์ก แบรดฟอร์ด มีความผิดในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น มีโทษจำคุก 16 สัปดาห์ แต่ให้รอลงอาญาเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งในระหว่างนี้เขาต้องสวมกำไลข้อเท้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นเวลา 8 สัปดาห์ และห้ามออกจากเคหะสถานในช่วงเวลา 19:00 น. – 7:00 น. ของวันรุ่งขึ้น และยังต้องจ่ายค่าชดเชยให้กับเด็กชาย 80 ปอนด์ หรือประมาณ 3,5xx บาท

ที่มา : Dailymail