2023 นับว่าเป็นปีที่ภาพยนตร์ฮอลลีวูดประสบความสำเร็จเกินคาด เพราะมีหนังทำเงินในระดับเกิน 1 พันล้านถึง 2 เรื่องคือ ‘Super Mario Bros’ และ ‘Barbie’ แต่ในปี 2024 ที่จะถึงนี้ เรายังมองไม่เห็นหนังเรื่องไหนที่มีแนวโน้มจะฮิตได้ในระดับนี้ ซึ่งรายได้บ็อกซ์ออฟฟิศอาจะจะหายไปถึง 1,000 ล้านเหรียญ
จำนวนหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ในปี 2024 นี้ลดน้อยลงมาก ส่วนใหญ่จะเป็นหนังภาคต่อจากแฟรนไชส์ใหญ่ อย่างเช่น ‘Dune: Part Two’, ‘Kingdom of the Planet of the Apes’, ‘Deadpool 3’ และ ‘Godzilla x Kong: The New Empire’สาเหตุที่หนังบล็อกบัสเตอร์หลายเรื่องเลื่อนไปเป็นปี 2025 นั้น เพราะได้รับผลกระทบมากจากการประท้วงหยุดงานของสมาคมนักเขียนและนักแสดงที่ออกมาเรียกร้องค่าตอบแทนที่ยุติธรรมกว่าที่ผ่านมา
ด้วยเหตุนี้ จึงมีการประเมินว่า ตัวเลขบ็อกซ์ออฟฟิศของปี 2024 จะตกลงมาถึง 11% หรือประมาณ 1,000 ล้านเหรียญ น้อยกว่าปี 2023 ที่ทำตัวเลขรวมไปที่ราว ๆ 9,000 ล้านเหรียญ สาเหตุหลักก็ตามที่กล่าวไปคือ มีหนังฟอร์มใหญ่หลายเรื่องที่เสร็จไม่ทันฉายในปี 2024 นี้ และจำเป็นต้องเลื่อนไปเปิดตัวในปี 2025 แทน ทำให้จำนวนหนังที่เข้าฉายในปี 2024 นี้มีเพียง 107 เรื่อง ในขณะที่ปี 2023 มีหนังเข้าฉายในโรงภาพยนตร์มากถึง 124 เรื่อง และในขณะที่เขียนข่าวนี้ ในปี 2024 ยังมีว่างอยู่ 6 สุดสัปดาห์ที่ไม่มีหนังใหม่เปิดตัว มีเดือนมกราคม, มีนาคม, พฤษภาคม, ตุลาคม มีว่างอยู่เดือนละ 1 สัปดาห์ ส่วนเดือนธันวาคมมีว่างอยู่ 2 สัปดาห์
ยังมีความเป็นไปได้อยู่ที่ตัวเลขบ็อกซ์ออฟฟิศของปี 2024 จะไล่ตามปี 2023 ได้ทัน เพราะปี 2024 ก็อาจจะมีปรากฎการณ์เซอร์ไพรส์เกิดขึ้นได้เหมือนอย่างที่เกิดในปี 2023 นั่นก็คือปรากฎการณ์ “Barbenheimer” ที่หนังฮิต 2 เรื่องเปิดตัวในสุดสัปดาห์เดียวกัน แล้วกลายเป็นว่าทั้ง ‘Barbie’ และ ‘Oppenheimer’ ขึ้นสู่ 3 อันดับแรกของหนังทำเงินสูงสุดของปี 2023
‘Barbie’ เป็นภาพยนตร์อันดับ 1 ของปี 2023 ด้วยรายได้ทั่วโลก 1,440 ล้านเหรียญ ส่วน ‘Oppenheimer’ อยู่อันดับ 3 ด้วยรายได้ 952 ล้านเหรียญ
ในขณะนี้ อาจจะบอกได้ยากว่าหนังฮิตของปี 2024 น่าจะเป็นเรื่องไหน เพราะปี 2023 ก็มีหนังระดับบล็อกบัสเตอร์ที่ล้มคว่ำอย่างผิดความคาดหมายมาแล้วอย่าง ‘Indiana Jones and the Dial of Destiny’ แต่ขณะเดียวกันก็มีหนังฟอร์มเล็กหลายเรื่องที่มีแนวโน้มจะเป็นหนังฮิตทำเงินได้ในปี 2024 อย่างเช่น ‘Night Swim’ และ ‘Imaginary’ของบลัมเฮาส์ที่จะเปิดตัวตั้งแต่ต้นปี เดินตามแผนเดิมที่ปี 2023 ก็เปิดตัว ‘M3GAN’ ในช่วงต้นปีเช่นกัน แล้วกวาดรายได้ทั่วโลกไปถึง 180 ล้านเหรียญ จากทุนสร้างเพียงแค่ 12 ล้านเหรียญ
เรื่องอื่น ๆ ในปี 2024 ที่น่าจะฮิต ก็มี ‘Deadpool 3’ เพราะในภาคนี้มีการดึงซูเปอร์ฮีโรยอดนิยมในอดีตอย่าง Wolverine ของ ฮิว แจ็กแมน กลับมาด้วย และเป็นครั้งแรกที่ Deadpool ก้าวเท้าเข้าสู่จักรวาลภาพยนตร์มาร์เวล แต่สำหรับมาร์เวลเองขอหยุดพักปรับกลยุทธ์ในปี 2024 นี้ กลายเป็นปีแรกตั้งแต่เปิดจักรวาลมาที่ไม่มีหนังมาร์เวลออกฉายเลยตลอดทั้งปี ส่วน ‘Dune: Part Two’ ก็มีแนวโน้มว่าจะทำเงินได้มากกว่าภาคแรก เหตุเพราะภาคนี้จะไม่มีการกล่อยสตรีมมิงทาง MAX เหมือนอย่างภาคแรก บวกกับชื่อเสียงของ ทิโมธี ชาลาเมต์ (Timothée Chalamet) ที่เป็นที่รู้จักมากขึ้น หลังได้รับบทนำใน ‘Wonka’ ที่เพิ่งเปิดตัวไป
รอติดตามกันต่อไปครับ ว่าจะเป็นไปตามคาดการณ์นี้หรือไม่
ที่มา : scree