วันที่ 12 มกราคม สำนักข่าวยอนฮับ (Yonhap News Agency) ของเกาหลีใต้รายงานว่า บงจุนโฮ (Bong Joon-ho) ผู้กำกับภาพยนตร์ชื่อดัง ‘Parasite’ (2019) เจ้าของ 4 รางวัลออสการ์ รวมทั้งบุคลากรในวงการบันเทิงของเกาหลีใต้จำนวน 12 คน เป็นตัวแทนของกลุ่มนักแสดง กลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ และบุคลากรในอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้
ได้ร่วมกันจัดการแถลงข่าวเพื่อเรียกร้องให้มีการสอบสวนการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสื่อมวลชนที่เสนอการรายงานข่าวกรณีการกล่าวหาของ อีซอนคยุน (Lee Sun Kyun) นักแสดงร่วมจากหนัง ‘Parasite’ ที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนข้อกล่าวหาการใช้ยาเสพติดผิดกฏหมาย และถูกพบว่าเสียชีวิตจากการกระทำอัตวินิบาตกรรมในรถยนต์เมื่อช่วงเดือนธันวาคม ปี 2023 ที่ผ่านมา
โดยในการแถลงข่าวที่จัดขึ้นบนชั้น 19 ของอาคาร Korea Press Center ในย่านศูนย์กลางธุรกิจของกรุงโซล บงจุนโฮได้เป็นตัวแทนของบุคลากรของอุตสาหกรรมบันเทิงเกาหลีใต้ อ่านแถลงการณ์เกี่ยวกับ ‘ข้อเรียกร้องของศิลปิน และคนทำงานด้านวัฒนธรรม ที่ต้องเผชิญในการเสียชีวิตของนักแสดงผู้ล่วงลับ อีซอนคยุน’
ซึ่งในแถลงการณ์ดังกล่าว ที่มีกลุ่มนักแสดง กลุ่มศิลปิน กลุ่มผู้สร้างภาพยนตร์ และบุคลากรในอุตสาหกรรมบันเทิงของเกาหลีใต้ จำนวนกว่า 2,000 คน และสมาคมอุตสาหกรรมบันเทิง รวมทั้งสมาคมด้านวัฒนธรรมและการค้าจำนวน 29 สมาคมร่วมลงนาม เพื่อเรียกร้องให้ทางการดำเนินการสอบสวนค้นหาข้อเท็จจริงว่า ในระหว่างการสืบสวนสอบสวนคดีของอีซอนคยุนนั้น เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชน และความเป็นส่วนตัวของผู้ต้องสงสัยหรือไม่
บงจุนโฮได้กล่าวในการแถลงข่าวทั้งน้ำตาว่า “เราขอเรียกร้องให้ทางการสอบสวนว่า ตำรวจสอบสวนมีความผิดพลาดในการรักษาความปลอดภัยในการสอบสวนหรือไม่ ในช่วง 2 เดือนนับจากที่ข้อมูลเกี่ยวกับการสอบสวนของผู้เสียชีวิตที่รั่วไหลครั้งแรก จนกระทั่งเกิดการตัดสินใจขั้นรุนแรงขึ้น”
“นับตั้งแต่วินาทีที่รายละเอียดการสอบสวนของผู้เสียชีวิตถูกเปิดเผยครั้งแรก จนกระทั่ง 2 เดือนต่อมา เราต้องการทราบว่า มีการติดต่อกับสื่อเป็นรายบุคคลในระหว่างการสอบสวนหรือไม่ และเราต้องการเปิดเผยผลการตรวจสอบต่อสาธารณะเพื่อไม่ให้เกิดข้อสงสัย”
นอกจากนี้ บงจุนโฮยังได้ตั้งคำถามถึงการรายงานข่าวของสื่อมวลชนบางสำนัก ที่เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการสืบสวนคดีความข้อหายาเสพติดของอีซอนคยุน “หลังจากที่ผู้เสียชีวิตมีผลการตรวจสารเสพติดเป็นลบ จากการตรวจวิเคราะห์โดยละเอียดของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์แห่งชาติ รายงานของสำนักข่าว KBS ได้รวมรายละเอียดการสืบสวนจำนวนหนึ่งไว้ด้วย จึงต้องมีการเปิดเผยอย่างใกล้ชิดว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร”
“เมื่อเผชิญหน้ากับการเสียชีวิตอันน่าสลดใจของนักแสดง อีซอนคยุน เราต่างมีหัวอกเดียวกันว่า สิ่งนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก เราจะเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนค้นหาความจริง ขอให้สื่อลบบทความที่ไม่เหมาะสมกับหน้าที่ของตนในฐานะสื่อ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ทางการแก้ไขกฏหมาย เพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของศิลปิน”
“โปรดชี้แจงว่า การเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับข้อมูลจากตำรวจของผู้ตายนั้นชอบด้วยกฏหมายหรือไม่ และต้องมีมาตรการใด ๆ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้อมูลของผู้เสียชีวิตถูกเปิดเผยต่อสื่อ ด้วยวิธีนี้เท่านั้น ที่เราจะป้องกันไม่ให้มีเหยื่อรายที่ 2 และ 3 เกิดขึ้นอีก”
ในขณะที่ ยุนจงชิน (Yoon Jong-shin) ศิลปินและนักแต่งเพลง ได้กล่าวพาดพิงถึงสถานีโทรทัศน์ KBS ที่ได้เปิดเผยการบันทึกเสียงสนทนาทางโทรศัพท์ของอีซอนคยุน กับพนักงานต้อนรับหญิงของบาร์แห่งหนึ่ง โดยการตั้งคำถามในการทำหน้าที่ของสื่อ และเรียกร้องให้ลบเสียงบันทึกดังกล่าวในสื่อของตนด้วย
“เราขอถามไปยังสื่อมวลชนและสื่อว่า การรายงานข่าวของพวกคุณ ที่เน้นเรื่องส่วนตัวของใครบางคน เพียงเพราะว่าเขาเป็นศิลปินใน Pop-Culture ใช่หรือไม่ ? เราหวังว่า โศกนาฏกรรมดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นอีก ในกระบวนการสืบสวนศิลปินใน Pop-Culture นี่คือความต้องการของชุมชนในวัฒนธรรมและศิลปะ ที่ต้องเผชิญหน้ากับการเสียชีวิตของอีซอนคยุนผู้ล่วงลับ”
นอกจากนี้ ตัวแทนศิลปินที่ร่วมแถลงข่าว ยังได้กล่าวประณามสำนักข่าวบางแห่ง รวมทั้งยูทูบเบอร์บางราย ที่มุ่งเน้นนำเสนอข้อมูลส่วนตัวของอีซอนคยุนมากเกินไป โดยใช้แหล่งข่าวที่ไม่ได้รับการตรวจสอบข้อมูล รวมทั้งการเปิดเผยข้อมูลการสอบสวนของตำรวจของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นบางแห่ง ที่ทำให้อีซอนคยุนเสื่อมเสียชื่อเสียง แม้ผลการตรวจหาสารเสพติดในร่างกายจะออกมาเป็นลบก็ตาม
เมื่อเดือนตุลาคม 2023 อีซอนคยุน นักแสดงจากหนังเรื่อง ‘Parasite’ และซีรีส์ ‘Coffee Prince’ (2007) วัย 48 ปี ได้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจของสำนักงานนครบาลเมืองอินชอน สอบสวนในข้อหามีการใช้ยาเสพติดผิดกฏหมาย ทั้งกัญชา และยาเสพติดหลายชนิด ทั้งภายในสถานบันเทิงและบ้านพักส่วนตัว ในช่วงระยะเวลาประมาณ 1 ปี
ในระหว่างการสอบสวน อีซอนคยุนได้ให้ความร่วมมือในการตรวจหาสารเสพติดในร่างกาย ทั้งการตรวจปัสสาวะ เส้นผม เป็นจำนวน 3 ครั้ง ซึ่งทั้งหมด อีซอนคยุนได้ให้การปฏิเสธ โดยยืนยันความบริสุทธิ์ว่าตนเองถูกหลอกให้ใช้ยาเสพติดไม่ทราบชนิด โดยในการตรวจครั้งที่ 3 ในวันที่ 24 ธันวาคม เขาต้องเข้ารับการตรวจนานถึง 19 ชั่วโมง และมีการใช้เครื่องจับเท็จร่วมด้วย ซึ่งในการตรวจหาสารเสพติดทั้ง 3 ครั้ง ผลออกมาเป็นลบทั้งหมด
นอกจากนี้ อีซอนคยุนและบริษัทต้นสังกัด Hodu & U Entertainment ยังได้ยื่นข้อร้องเรียนของตนเอง เนื่องจากเขาต้องเผชิญกับการถูกแบล็กเมล์ และข่มขู่จากผู้ที่เกี่ยวข้องในคดี โดยจะดำเนินการฟ้องร้องจำเลย 2 ราย และพนักงานต้อนรับในสถานบันเทิงในข้อหาข่มขู่กรรโชกทรัพย์ แบล็กเมล์ และฉ้อโกงเงินเป็นจำนวนหลายแสนเหรียญ
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม เจ้าหน้าที่ตำรวจได้พบร่างของอีซอนคยุน ในสภาพหมดสติอยู่ภายในรถยนต์ที่จอดอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ใจกลางของกรุงโซล และพบถ่านอัดก้อนที่ถูกเผาไหม้อยู่บนเบาะที่นั่งฝั่งผู้โดยสาร และจดหมายบอกลา ซึ่งผู้ที่แจ้งเหตุตำรวจคือ จอนฮเยจิน (Jeon Hye-jin) ภรรยาของอีซอนคยุน ที่ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า สามีของตนออกจากบ้านพร้อมกับทิ้งจดหมายสั่งลาเอาไว้ จนกระทั่งต้นสังกัดได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับการเสียชีวิตของอีซอนคยุนอย่างเป็นทางการ
การเสียชีวิตของอีซอนคยุน เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์ในการทำงานของสื่อมวลชนในการสอบสวนคดีอาญาที่มีบุคคลที่มีชื่อเสียงเข้าไปเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการเปิดเผยรายละเอียดทางคดีต่อสาธารณะ ซึ่งทำให้สื่อมวลชนต่างหยิบเอาข้อมูลต่าง ๆ มารายงานข่าว
ในขณะที่ The Guardians รายงานว่า แม้ว่าอีซอนคยุนจะขอให้มีการเก็บข้อมูลการสอบสวนกับตำรวจครั้งสุดท้ายเป็นความลับ แต่กลับถูกปฏิเสธ เมื่อเขาเดินทางมายังสถานีตำรวจในอินชอน ทำให้เขาถูกนักข่าวรุมซักถามนอกจากนี้ ยังมีการเผยแพร่ข้อมูลที่รั่วไหลเกี่ยวกับคดียาเสพติด ข้อมูลเกี่ยวกับการก่อเหตุอัตวินิบาตกรรม หรือแม้แต่เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวโดยที่ไม่เกี่ยวข้องใด ๆ กับคดีความ แม้ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิตจะไม่อนุญาตก็ตาม
Reuters รายงานเพิ่มเติมว่า ในขณะนี้ สำนักงานตำรวจเมืองอินชอน ที่ดำเนินการสอบสวนในคดีดังกล่าว ยังไม่มีการตอบความคิดเห็นใด ๆ เกี่ยวกับแถลงการณ์ ส่วนทางด้านสำนักข่าว KBS ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันว่า ได้มีการนำข้อมูลดังกล่าวของผู้เสียชีวิตมาเปิดเผยอย่างยับยั้งชั่งใจสูงสุด เพื่อรายงานและเสริมความน่าเชื่อถือในข้อเท็จจริงของคดี
อีวอนแท (Lee Won-tae) ผู้กำกับภาพยนตร์อีกราย ได้กล่าวเรียกร้องให้มีการร่างกฏหมายเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชนของบุคคลที่ถูกดำเนินการสอบสวน และเพื่อการปกป้องข้อมูลที่เกี่ยวกับการสืบสวนคดีอาญาให้เป็นความลับ โดยกลุ่มวางแผนที่จะยื่นคำร้องต่อประธานสภา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และเครือข่ายของสำนักข่าว KBS และวางแผนที่จะทำงานร่วมกันต่อไป เพื่อให้มีกฏหมายที่เรียกว่า ‘กฎหมายป้องกันอีซอนคยุน’ เกิดขึ้นให้จงได้
ที่มา: Yonhap, Reuters, Variety
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส