ดูเหมือนดราม่าหลังจากที่ 2 แกนหลักของหนัง ‘Barbie’ (2023) อย่าง เกรตา เกอร์วิก (Greta Gerwig) ผู้กำกับของหนังเรื่องนี้ ที่ไม่ได้มีรายชื่อเข้าชิงในสาขาผู้กำกับยอดเยี่ยม (แต่ยังได้เข้าชิงในสาขาบทดัดแปลง ในฐานะผู้เขียนบท) รวมทั้ง มาร์โกต์ ร็อบบี (Margot Robbie) นักแสดงเจ้าของบทบาร์บี้ และโปรดิวเซอร์ของหนัง ที่ชวดเข้าชิงในสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จะดูไม่ใช่แค่ประเด็นควันหลงหลังประกาศรายชื่อผู้เข้าชิง รางวัลออสการ์ ครั้งที่ 96 ประจำปี 2024 เสียแล้ว
เพราะแม้หนังเรื่องนี้จะได้เข้าขิงรางวัลออสการ์มากถึง 8 รางวัล (จาก 7 สาขา) แต่ความกังขา และการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ของคนฮอลลีวูด รวมทั้งคนดูก็ยังไม่จบสิ้น โดยเฉพาะการวิพากษ์วิจารณ์ไปถึงสถาบันศิลปะและวิชาการทางภาพยนตร์ (Academy of Motion Picture Arts and Sciences – AMPAS) ผู้จัดงานออสการ์ว่ามีอะไรในกอไผ่หรือไม่ ถึงทำให้เกอร์วิกและร็อบบีถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าชิง
ก่อนหน้านี้ ทั้ง ไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling) ผู้รับบท เคน (Ken) ที่ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม รวมทั้ง อเมริกา เฟอร์เรรา (America Ferrera) ผู้รับบท กลอเรีย (Gloria) ที่ได้เข้าชิงสาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยม รวมทั้งนักแสดงจากหนังเรื่องนี้หลายคนก็ออกมาวิพากษ์วิจารณ์เช่นกัน ไม่เว้นแม้แต่ ฮิลลารี คลินตัน (Hillary Clinton) อดีตสตรีหมายเลขหนี่ง ก็ยังขอร่วมวงปกป้องทั้งคู่ด้วยการโพสต์ข้อความบน X ว่า
“เกรตาและมาร์โกต์, แม้ว่าการชนะใน Box Office จะไม่ทำให้ได้ชัยชนะกลับบ้าน แต่แฟน ๆ หลายล้านคนก็ยังรักคุณ คุณทั้งคู่เป็นยิ่งกว่า Kenough ซะอีก #HillaryBarbie”
วูปปี โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg) เจ้าของบทชีเฉาก๊วย เดลอริส ฟาน คาร์เทียร์ (Deloris Van Cartier) ‘Sister Act’ (1992) นักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์จาก ‘Ghost’ (1990) เป็นศิลปินหญิงผิวดำคนแรกของทำเนียบ EGOT อดีตผู้ดำเนินรายการในพิธีมอบรางวัลออสการ์ และอดีตคณะกรรมการของ The Academy ได้ร่วมพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกระแสการออกมาโวยวายที่เกอร์วิกและร็อบบีถูกออสการ์ ‘ดูแคลน’ ไม่ให้เข้าชิงรางวัลที่เหมาะสม ในระหว่างสนทนาดำเนินรายการ ‘The View’ ของทางสถานทีโทรทัศน์ ABC ร่วมกับผู้ดำเนินรายการคนอื่น ๆ
อลิสซา ฟาราห์ กริฟฟิน (Alyssa Farah Griffin) ผู้ร่วมดำเนินรายการเริ่มเปิดประเด็น
“‘Barbie’ ทำรายได้มากกว่า 1,000 ล้านเหรียญ สวัสดีสตูดิโอ พวกเขาอาจจะจ้างผู้กำกับหญิงเพิ่มก็ได้นะถ้าคุณจะต้องการสร้างหนังดัง เราอยากจะเห็นสิ่งเหล่านี้ แบบว่า (กองถ่าย) มีทีมงานผู้หญิงอยู่ครึ่งหนึ่ง พวกเขายังระลึกถึงข้อคิดในเรื่องราวของหนังอยู่หรือเปล่า ? แน่นอน เราเฉลิมฉลองให้กับเคน แต่ไม่มีผู้หญิงที่เป็นผู้นำและไอคอนอยู่ในนั้นเลยด้วยซ้ำ”
ซารา เฮนส์ (Sara Haines) ผู้ร่วมดำเนินรายการอีกคนกล่าวแย้ง “ข้อความทุกอย่างไม่ได้หายไปจากตัวฉันแน่ ๆ แต่ฉันมีคำถามหนึ่ง วูปปีอาจจะตอบคำถามนี้ได้ สิ่งนี้มันกลายมาเป็นการดูแคลนไปตั้งแต่เมื่อไหร่นะ ? ฉันรู้จักหนังเรื่องนี้ ฉันรู้จักว่ามันทำรายได้และดีงาม แต่ไม่เห็นคนอื่นถูก (ดูแคลน) แบบนั้นบ้างเลย”
โกลด์เบิร์กเสริมว่า “ไม่มีทางที่ทุกคนจะชนะได้หรอก ฉันรู้ว่าบางคนรับไม่ได้เกี่ยวกับการถูกดูแคลน แต่สิ่งที่ฉันอยากชี้ให้เห็นคือ พวกเขา (คณะกรรมการรางวัลออสการ์) ไม่ได้มาจากคุณท่านหลานเธอ แต่เป็นครอบครัวของสถาบัน The Academy ที่เป็นคนโหวตให้เข้าชิงสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม โอเค เราทุกคนโหวตให้หนังสาขานี้ทุกเรื่องนั่นแหละ มันจึงต้องมีการเสนอชื่อ 7-10 คนในสาขานั้น”
โกลด์เบิร์กอธิบายถึงการดูแคลนในปีนี้ กับเหตุการณ์ในปีที่แล้ว ที่นักแสดงนำของหนังได้รางวัล แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าหนังทั้งเรื่อง หรือนักแสดงทุกคนที่จะได้รับรางวัลนั้นไปด้วย
“และก็อย่างที่คุณรู้ เมื่อปีที่แล้ว หนัง ‘Everything Everywhere All at Once’ (2022) มีนักแสดงหญิง (มิเชล โหย่ว Michelle Yeoh – ผู้ชนะรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม) ที่เก่งที่สุดในหนัง แต่นั่นไม่ใช่หนังทั้งเรื่องซะหน่อย คุณรู้ว่า (ทุกคนในหนัง) สมควรได้รับรางวัลนั้น แต่สิ่งที่คุณต้องจำเอาไว้ก็คือ มันไม่ใช่ทุกคนที่จะได้รับรางวัล ในมุมมองของฉัน มันจึงไม่ได้มีการดูแคลนอะไรทั้งสิ้น”
“ไม่มีใครได้สิ่งที่ต้องการไปเสียทุกอย่าง รางวัลและภาพยนตร์เป็นเรื่องอัตวิสัยทั้งนั้น มันเป็นมุมมองส่วนตัว หนังที่คุณชื่นชอบ อาจไม่ได้แปลว่าจะได้รับความรักจากคนที่ลงคะแนนโหวต”
ที่มา: Entertainment Weekly, Variety(2)