ตลอดเวลากว่า 4 ทศวรรษของจักรวาล ‘Star Wars’ได้พาเราไปผจญภัยในกาแล็กซีอันไกลโพ้น ตามแนวทางและวิสัยทัศน์ของ จอร์จ ลูคัส (George Lucas) ผู้ให้กำเนิด แต่ดูเหมือนว่า ‘Star Wars: The Acolyte’ ซีรีส์เรื่องใหม่ในจักรวาล Star Wars จะพาเรื่องราวออกไปไกลจากแนวทางดั้มเดิมที่ลูคัสเคยกำหนดรูปแบบไว้
ตั้งแต่ลิขสิทธิ์ Star Wars ตกมาเป็นของดิสนีย์ ทางดิสนีย์ก็สร้างสรรค์เรื่องราวใหม่ ๆ มากมายเพื่อสตรีมมิงทาง Disney+ ตั้งแต่เรื่องราวของนักล่าเงินรางวัลใน ‘The Mandalorian’ ไปจนถึงหุ่นโคลนจอมทรยศใน ‘The Bad Batch’และซีรีส์เรื่องใหม่ที่กำลังจะมาถึง ‘Star Wars: The Acolyte’ ที่จะเล่าเหตุการณ์วันสุดท้ายในยุครุ่งเรืองของจักรวรรดิ เรื่องราวของซีรีส์จะพาผู้ชมลงลึกไปสู่ด้านมืดของพลัง
โดยพื้นฐานแล้ว เนื้อหาของ Star Wars มักจะเล่าเรื่องราวของวีรบุรุษแห่งกาแล็กซีที่ต่อสู้เพื่ออิสรภาพ ซึ่งถ่ายทอดเรื่องราวมาในรูปแบบของการต่อสู้ระหว่างเจไดกับซิธ หรือฝ่ายแห่งแสงสว่างปะทะกับฝ่ายแห่งความมืด เมื่อแฟรนไชส์ Star Wars เดินหน้าไปเรื่อย ๆ ก็ทำให้มีตัวละครใหม่ ๆ โผล่ออกมามากมาย แต่ก็ยังคงรูปแบบการเล่าเรื่องเดิม ๆ ด้วยการให้ฮีโรของเรื่องเป็นตัวละครหลัก แต่กับ ‘Star Wars: The Acolyte’จะเป็นเรื่องแรกที่ปฏิวัติรูปแบบการเล่าเรื่อง ด้วยการเล่าเรื่องราวของ ซิธ ในยุค High Republic และเป็นการฉีกรูปแบบขนบธรรมเนียมเดิมที่ลูคัสวางไว้ให้กับจักรวาล Star Wars
ซึ่งลูคัสมุ่งหวัง Star wars เป็นภาพยนตร์ที่ผู้ชมรุ่นเล็กสามารถดูได้ ซึ่งใน 2 ไตรภาคที่ลูคัสเป็นผู้ควบคุมนั้น เขาก็คำนึงถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด แต่สำหรับ ‘Star Wars: The Acolyte’ แล้วนั้น ดูจะมุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่เพราะจะมีเรื่องราวที่ลึกลับซับซ้อนมากขึ้นในมุมมองของซิธ ดิสนีย์เคยมีแผนการที่จะสร้าง ภาพยนตร์หรือซีรีส์ Star wars ที่มีเนื้อหาสำหรับกลุ่มผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่มานานแล้ว ครั้งหนึ่งเคยมีข่าวว่าจะมีการสร้างหนัง ‘Dart Vader’ ในรูปแบบเรต R ซึ่งสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมพอควร แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่เคยเห็นโปรเจกต์นี้คืบหน้าแต่อย่างใด เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมานั้น แฟรนไชส์ Star wars เลือกให้ความสำคัญกับการที่หนังจะสามารถเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างไว้เป็นหลักเสมอ จะต้องเป็นหนังที่เหมาะกับการรับชมด้วยกันในครอบครัวได้ แต่วันนี้ดูเหมือนจะมาถึงยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงของแฟรนไชส์ Star Wars เสียแล้ว เมื่อ ‘Star Wars: The Acolyte’ เลือกที่จะเป็นซีรีส์เรื่องแรกที่ขอแยกตัวออกจากแบบแผนที่ลูคัสได้วางไว้
แม้ว่าลูคัสจะตั้งเป้าให้ Star Wars สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ชมรุ่นเยาว์ได้ แต่กระนั้นลูคัสเองก็ตระหนักดีว่าเขายังต้องการดึงความสนใจกลุ่มผู้ชมรุ่นใหม่ ๆ ด้วยและจะต้องก้าวทันยุคสมัยอยู่เสมอ ในตอนที่เขาย้อนกลับไปสร้างไตรภาคที่เล่าเรื่องราวก่อนหน้า และดิสนีย์ก็รับช่วงมาทำไตรภาคที่ 3 ลูคัสรู้ดีว่าเมื่อแฟรนไชส์ยังคงเดินหน้าต่อไปก็จำต้องมีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการ ถึงแม้ว่าเขาจะใส่ใจในกลุ่มผู้ชมรุ่นเล็ก แต่แฟน ๆ ส่วนใหญ่ของ Star Wars ก็คือกลุ่มผู้ชมผู้ใหญ่อยู่ดี ลูคัสจึงได้สอดแทรกเนื้อหาสำหรับกลุ่มผู้ชมรุ่นใหญ่ไว้ด้วย อย่างเช่นการลงรายละเอียดเรื่องกลยุทธ์ทางการเมืองของจักรพรรดิพัลพาทีน และ Order 66
‘Star Wars: The Acolyte’อาจจะเป็นเรื่องเดียวในแฟรนไชส์ที่สร้างมาเพื่อเอาใจกลุ่มผู้ชมผู้ใหญ่ เพราะแฟรนไชส์ Star Wars โดยรวมไม่ได้เดินตามแนวทางนี้ แต่การที่ดิสนีย์ขยายขอบเขตของแฟรนไชส์มาลงสู่ช่องทางสตรีมมิงด้วยนั้น ก็เท่ากับเป็นการสร้างความหลากหลายให้กับแฟรนไชส์ และเท่ากับเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับผู้ชม ขณะเดียวกันก็มีตัวเลือกที่มุ่งเป้าไปที่กลุ่มผู้ชมรุ่นเล็กโดยเฉพาะด้วยเช่นกันกับ ‘Star Wars: Young Jedi Adventures’ การสร้างเนื้อหาใหม่ ๆ ให้กับแฟรนไชส์ Star Wars เพื่อให้เข้าถึงผู้ชมหลายกลุ่มเช่นนี้ เท่ากับเป็นการเพิ่มความแข็งแกร่งกับแฟรนไชส์
‘Star Wars: The Acolyte’ นำแสดงโดย แดฟเน คีน (Dafne Kene) อดีตสาวน้อยจาก ‘Logan’ ที่วันนี้กลายเป็นสาววัย 19 แล้ว และ อี จองแจ (Lee Jong-jae) ที่สร้างชื่อในระดับอินเตอร์มาจาก ‘Squid Game’ และยังมี แครี-แอนน์ มอส (Carrie-Anne Moss) จาก ‘The Matrix’ ทาง Disney+ ยังไม่กำหนดวันฉาย เพียงแต่ระบุไว้ว่าจะได้ดูกันภายในปี 2024 นี้
ที่มา : Screenrant