ปี 2024 นี้ถือเป็นปีที่หนังซูเปอร์ฮีโรค่อนข้างเงียบเหงา เพราะแม้จะยังมีหนังซูเปอร์ฮีโรฉายอยู่บ้างประปราย แต่ก็ถือว่ากระแสเบาบางกว่าปีที่ผ่านมา ส่วนหนึ่งก็เพราะการเลื่อนตารางการฉายหนังบางส่วนของสตูดิโอ จากที่ตั้งใจว่าจะฉายในปีนี้ออกไปหลายเรื่อง อันเป็นผลพวงจากการประท้วงของสมาชิก SAG-AFTRA ที่เกิดขึ้นเมื่อกลางปีที่แล้ว หนังเรื่องหนึ่งที่เลื่อนออกไปก็คือ ‘Thunderbolts’ หนังรวมทีมวายร้ายสายเทาที่ถูกเลื่อนวันฉายไปไกลมาก
แต่กว่าที่ ฟลอเรนซ์ พิว (Florence Pugh) นักแสดงสาวผู้รับบทบาท เยเลนา เบโลวา (Yelena Belova) จะได้กลับมาอีกครั้งในฐานะหัวหน้าทีม ‘Thunderbolts’ แต่พิวไม่ใช่นักแสดงคนแรกที่เป็นตัวเลือกสำหรับบทบาทนี้ เพราะบทบาทนี้เกือบตกเป็นของ เซอร์ชา โรนัน (Saoirse Ronan) นักแสดงสาวขวัญใจชาวหนังนอกกระแสอีกคน ที่โด่งดังจากผลงานการแสดงใน ‘Lady Bird’ (2017) และ ‘Little Women’ (2019) และได้เข้าชิงรางวัลออสการ์มาแล้ว 4 ครั้ง
ซึ่งคนที่เปิดเผยเรื่องนี้ก็คือ จัสติน โครลล์ (Justin Kroll) นักข่าวอาวุโสของเว็บไซต์ ที่กล่าวเอาไว้ในรายการพอดแคสต์ ‘The Town with Matthew Belloni’ เพียงแต่ว่าโรนันเอง ไม่ได้มีความสนใจอยากเข้าไปอยู่ในจักรวาล MCU สักเท่าไร แต่อยากจะมุ่งมั่นกับการเล่นหนังสายคุณภาพแบบที่เคยเป็นมามากกว่า

“ผมเคยได้ยินเรื่องที่ เซอร์ชาที่เธอปฏิเสธบทบาทนี้ไป เธอส่งต่อบทบาทน้องสาวของ ‘Black Widow’ ให้กับฟลอเรนซ์ เพราะ Marvel ไม่ใช่ทางของเธอ เธอเลยไม่ได้สนใจบทบาทนี้”
บทบาท เยเลนา เบโลวา สายลับจาก Red Room น้องสาวบุญธรรมของ นาตาชา โรมานอฟฟ์ (Natasha Romanoff) ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังเดี่ยว ‘Black Widow’ (2021) ที่แม้ตัวหนังจะไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักในด้านรายได้ จากนโยบายการฉายควบในโรงหนังพร้อมกับฉายพรีเมียร์ใน Disney+ แต่เยเลนาก็ถือเป็นตัวละครที่ผู้ชมชื่นชอบไม่น้อย
เยเลนากลับมาอีกครั้งในมินิซีรีส์ ‘Hawkeye’ (2021) และข้ามไปปรากฏตัวใน ‘Thunderbolts’ ที่จะเข้าฉายตามโปรแกรมใหม่ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2025 อีกที ซึ่งถึงตอนนั้น เธอจะกลายมาเป็น Black Widow ต่อจากพี่สาวตามข่าวลือหรือไม่ คงต้องรอดูกันอีกที
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โรนันได้มีโอกาสก้าวเข้ามาเป็นครอบครัว Marvel Cinematic Universe ของ Marvel Studios เพราะก่อนหน้านั้น จอสส์ วีดอน (Joss Whedon) ผู้เขียนบทฉาก Mid-Credits หนัง ‘Captain America: Winter Soldier’ (2014) ที่จะเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกของพี่น้อง แวนด้า (Wanda Maximoff) และ ปิเอโตร แม็กซิมอฟฟ์ (Pietro Maximoff) ซึ่งตอนเขียนบท วีดอนได้ใช้โรนันมาเป็นต้นแบบ และก็อยากให้มารับบทนี้ด้วย

จนกลายเป็นข่าวลือว่า โรนันอาจได้เข้ามารับบทเป็น แวนด้า แม็กซิมอฟฟ์ ที่จะกลายไปเป็น สการ์เลต วิตช์ (Scarlet Witch) ในภายภาคหน้า ซึ่งหลังจากนั้น โรนันก็เคยออกมาเปิดเผยกับเว็บไซต์ The Mary Sue ว่า จริง ๆ แล้วเธอเองก็สนใจอยากจะมารับบทนี้ เพราะชื่นชอบในวิสัยทัศน์ของวีดอน และโรนันเองก็เคยผ่านงานหนังแอ็กชัน ‘Hanna’ (2011) และหนังไซไฟแฟนตาซี ‘The Host’ (2013) มาแล้วด้วย งานหนังซูเปอร์ฮีโรจึงไม่น่ายากเกินความสามารถ
“ฉันเคยได้ยินข่าวลือนี้เหมือนกันค่ะ และใช่ ฉันเองสนใจนะ ฉันรักจอส และฉันก็ชอบหนังแนวนี้ ฉันชอบวิธีที่เขาดูแล และนำเสนอหนังซูเปอร์ฮีโรออกมา ฉันคิดว่ามันแตกต่างจากสิ่งที่คนอื่น ๆ ทำมาก ๆ และฉันเองก็สนใจที่อยากจะมีส่วนร่วมด้วย”
แต่จนแล้วจนรอด โรนันก็ไม่ได้สนใจก้าวเข้ามาในโปรเจกต์นี้ ซึ่งอาจเป็นเพราะเธอเองอยากมุ่งมั่นในการเล่นหนังสายรางวัลมากกว่าจะผูกตัวเองไว้กับคาแรกเตอร์ใดคาแรกเตอร์หนึ่งไปตลอด ผลก็คือ เราจึงได้เห็น อลิซาเบธ โอลเซน (Elizabeth Olsen) นักแสดงสาวที่เริ่มมีผลงานและชื่อเสียงมาบ้างแล้ว ก่อนจะมาแจ้งเกิดกับการรับบทนี้เป็นครั้งแรกแบบเต็ม ๆ ใน ‘Avengers: Age of Ultron’ (2015) รวมทั้งมินิซีรีส์ ‘WandaVision’ (2021) ในเวลาต่อมา
ที่มา: Screen Rant, The Mary Sue
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส