แอนิเมชันเรื่องล่าสุดของ สตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli) ผลงานการกำกับของ ฮายาโอะ มิยาซากิ (Hayao Miyazaki) อย่าง ‘The Boy And The Heron’ กลายเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่สร้างปรากฏการณ์ทั้งในเชิงรายได้และคำวิจารณ์ รวมทั้งยังไปไกลในระดับสากล ทั้งการคว้ารางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันยอดเยี่ยม จากเวทีลูกโลกทองคำ ซึ่งถือเป็นรางวัลแรกของมิยาซากิ และได้เข้าชิงในสาขาแอนิเมชันยอดเยี่ยม รางวัลออสการ์ในปีนี้ ทำให้มิยาซากิเป็นแอนิเมเตอร์ที่ได้เข้าชิงรางวัลนี้มากที่สุด และยังได้เป็น 1 ในแอนิเมชันที่เข้าชิงรางวัลจากเวที Japan Academy Film Prize รางวัลใหญ่ของวงการบันเทิงญี่ปุ่นอีกด้วย
ส่วนในประเทศโคลอมเบีย แอนิเมชันเรื่องนี้เพิ่งเข้าฉายไปเมื่อวันที่ 25 มกราคมที่ผ่านมานี้เอง แต่ก่อนจะเข้าฉาย แอนิเมชันเรื่องนี้เคยตกเป็นประเด็นดราม่าใหญ่มาแล้วด้วย โดยเว็บไซต์ Cartoon Brew ได้เผยแพร่ข่าวนี้ หลังจากที่ เจอรัลดีน เฟอร์นันเดซ (Geraldine Fernández) กราฟิกดีไซน์เนอร์ประจำบริษัท Tecnoglass ที่ตั้งอยู่ในเมืองบาร์รังกิยา (Barranquilla) ทางตอนเหนือของโคลอมเบีย ที่ตกเป็นข่าวดัง เพราะเธอได้ออกมาเปิดเผยว่า เธอเป็นส่วนหนึ่งของทีมแอนิเมเตอร์ของแอนิเมชันเรื่องนี้ อ้างว่าเธอวาดภาพให้กับหนังเรื่องนี้ไปราว ๆ 25,000 เฟรม ที่ปรากฏในช่วงแรก ๆ ของหนัง แถมยังอ้างว่าเคยพบปะพูดคุยกับมิยาซากิตัวเป็น ๆ ด้วย
ผลงานโกอินเตอร์ของเฟอร์นันเดซ กลายเป็นไวรัลในหมู่ชาวโคลัมเบียนอย่างรวดเร็ว หลังจากที่มีสื่อใหญ่ ๆ ได้ไปสัมภาษณ์เธอและเผยแพร่ออกสื่อ ทั้งทางหนังสือพิมพ์ ทางออนไลน์ รวมทั้งคลิปสัมภาษณ์ใน YouTube ซึ่งหนังสือพิมพ์หลายหัว รวมทั้งหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น El Heraldo ของโคลอมเบีย ได้พาดหัวยกย่องเธอว่าเป็น “พรสวรรค์แห่งบาร์รังกียา ผู้มีชัยในลูกโลกทองคำ” แถมตอนหลังเธอยังได้รับเชิญไปกล่าวสุนทรพจน์ในมหาวิทยาลัย เซอร์จิโอ อาร์โบเลดา (Universidad Sergio Arboleda) อีกต่างหาก เรียกว่าตอนนี้เธอกลายเป็นขวัญใจชาวโคลอมเบียนไปแล้วเรียบร้อย
แต่เรื่องมันดันมาเริ่มโป๊ะแตกตรงที่ พอข่าวของเธอเริ่มแพร่กระจายทางออนไลน์มากขึ้นเรื่อย ๆ ผู้อ่านบางส่วน รวมทั้งคนในวงการแอนิเมชันก็เริ่มได้กลิ่นทะแม่ง ๆ เพราะแทบไม่มีหลักฐานใด ๆ ว่าเธอได้ไปทำงานกับ Studio Ghibli จริง ๆ ไม่มีชื่อเธอปรากฏอยู่ในเครดิตของตัวหนัง รวมทั้งสื่อประชาสัมพันธ์ใด ๆ ของหนังเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ และยิ่งโป๊ะหนักเข้าไปอีก เมื่อเฟอร์นันเดซให้สัมภาษณ์ที่เธอเองแชร์ผ่านโซเชียลมีเดีย (ที่ถูกลบบัญชีไปแล้ว) ว่า
“กว่า 20 เดือน ฉันต้องส่งมอบงาน 25,000 เฟรม และทั้งหมดนั้นปรากฏอยู่ในฉาก 10 วินาที พูดง่าย ๆ ก็คือ มันเป็นงานที่หนักมาก แต่ก็คุ้มค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีมิยาซากิอยู่ด้วย เขาเป็นเหมือนกับปรมาจารย์ ไม่ใช่แค่เรื่องของการเป็นมืออาชีพเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของชีวิตด้วย การได้ร่วมงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับเขานั้น เป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ และเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร”
แถมเฟอร์นันเดซเองยังเคยกล่าวอ้างว่า เธอได้มีโอกาสพบปะและพูดคุยโดยตรงกับมิยาซากิ 3 ครั้งในระหว่างขั้นตอนการผลิต เธออ้างว่ามิยาซากิมักจะเรียกเธอด้วยคำว่า ‘ชาวโคลอมเบียน’ (the Colombian) เพื่อชื่นชมผลงานของเธอ แต่ก็เช่นกัน ไม่มีหลักฐานอะไรว่าเธอได้เจอกับแอนิเมเตอร์ระดับตำนานคนนั้นจริง ๆ
แถมยิ่งโป๊ะหนักเข้าไปอีกขั้น เมื่อเฟอร์นันเดซถูกกล่าวหาว่า ผลงานภาพประกอบที่เธอนำมาแสดงในพอร์ตโฟลิโอออนไลน์ของเธอนั้น มีหลายคนพบว่า งานบางชิ้นดูเหมือนจะถูกขโมยมาจากผลงานของคนอื่น บางชิ้นพบว่าถูกเธอขโมยมาจากเว็บไซต์ DeviantArt หรือไม่ก็ขโมยมาจากแคมเปญโฆษณาของเอเจนซีโฆษณาในโคลอมเบีย
เธอได้ไปให้สัมภาษณ์กับ Caith_Sith สตรีมเมอร์ และนักข่าววิดีโอเกมชาวสเปนผ่าน Twitch โดยเฟอร์นันเดซก็ยังคงยืนยันว่า สิ่งที่เธอพูดเกี่ยวกับการทำงานในหนังเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง แต่เปิดเผยอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นข้อผูกพันด้านสัญญาที่ต้องเก็บความลับ เธอพร้อมที่จะแสดงหลักฐานว่าสิ่งที่เธอพูดนั้นเป็นเรื่องจริง และผลงานภาพประกอบเหล่านั้น ก็เป็นฝีมือการวาดของเธอเองด้วย โดยเธออ้างว่าแฟ้มผลงานนั้นค่อนข้างจะเก่า ซึ่งสตรีมเมอร์เองก็ได้แต่สัมภาษณ์ไปกังขาไป จนสุดท้ายก็เธอเองนี่แหละที่ยอมหลุดปากออกมาว่าผลงานบางส่วนไม่ใช่ของเธอเองจริง ๆ ก่อนที่ผลงานของเธอ รวมทั้งบัญชีโซเชียลมีเดียของเธอทั้ง X, Linkedin,Instagram และเว็บไซต์ส่วนตัวของเธอกลับอันตรธานหายไปทั้งหมด
Cartoon Brew ได้ติดต่อโดยตรงไปยัง GKIDS ผู้จัดจำหน่ายภาพยนตร์เรื่องนี้ในสหรัฐอเมริกาเพื่อตรวจสอบเรื่องดังกล่าว และได้รับรายชื่อเครดิตทีมงานทั้งหมดของหนังเรื่องนี้ต่อมาจาก Studio Ghibli อีกที โดยไม่พบชื่อของเฟอร์นันเดซในเครดิตของภาพยนตร์แต่อย่างใด
ทำให้เรื่องราวไวรัลของเธอกลับตาลปัตรอย่างรวดเร็ว สื่อต่าง ๆ เริ่มทยอยลบข่าวและคลิปสัมภาษณ์ของเธอออก หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นทั้ง El Heraldo และ El Tiempo ได้ลงข้อความเพื่อชี้แจงและขออภัยผู้อ่าน สำหรับความผิดพลาดในการเผยแพร่ข้อมูลอันเป็นเท็จที่เกิดจากการหลอกลวงต่อสื่อมวลชน โดยไม่ได้ตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
ภายหลัง เฟอร์นันเดซได้ให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ Blu Radio ของโคลอมเบีย เธอได้ยอมรับสารภาพว่า ตัวเธอเองพูดเกินจริงเกี่ยวกับการมีส่วนร่วมในหนังเรื่องนี้ และรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เธอเองก็ยังยืนยันว่า เธอมีส่วนร่วมใน ‘The Boy And The Heron’ จริง ๆ แต่ไม่ได้วาดภาพมากถึง 25,000 เฟรมด้วยมือตามที่กล่าวอ้าง แต่วาดไปเพียงแค่ 200 เฟรมเท่านั้น
เรื่องทุกอย่างปิดจบด้วยจดหมายแถลงการณ์ ที่เฟอร์นันเดซได้เผยแพร่ต่อสื่อเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวเมื่อวันที่ 22 มกราคมที่ผ่านมา ซึ่งเธอได้ยอมรับสารภาพว่า เธอไม่ได้มีส่วนร่วมใด ๆ กับหนัง ‘The Boy and the Heron’ รวมทั้ง Studio Ghibli และมิยาซากิตามที่เธอกล่าวอ้างแต่อย่างใด
“ฉันขอบอกกล่าวต่อสาธารณชน สื่อ เพื่อน และครอบครัวของฉันว่า ฉันไม่เคยมีส่วนร่วมในการวาดภาพประกอบและการออกแบบ ในภาพยนตร์เรื่อง ‘The Boy and the Heron’ ที่กำกับโดย ฮายาโอะ มิยาซากิ แต่อย่างใด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น เป็นผลพวงจากการกระทำที่ไม่สุจริตที่ฉันเพิ่งตระหนักได้ และต้องขออภัยด้วยความรัก และความชื่นชมในงานด้านภาพประกอบ และอาชีพกราฟิกดีไซเนอร์ของฉัน ทำให้ฉันแสดงความคิดเห็นต่อกลุ่มคนว่าฉันมีส่วนร่วมในการทำงานเป็นนักวาดในบางฉาก”
“ฉันรู้ว่านี่เป็นความผิดพลาด สื่อออนไลน์ต่าง ๆ ติดต่อฉัน และจากนั้น ทุกอย่างก็กลายเป็นกระแสไวรัล มันเป็นสถานการณ์ที่เกินความคาดหมายของฉันอย่างมาก และทำให้ฉันตกตะลึง ต่อหน้าสื่อระดับประเทศ อินฟลูเอนเซอร์ และเพื่อนร่วมงานของฉัน ฉันทราบดีว่ามันเป็นสถานการณ์ที่ไม่อาจควบคุมได้ และเป็นการยากมากกว่าเดิม ที่จะเพิกถอนความคิดเห็นของฉัน ที่จะส่งผลเสียต่อเพื่อน ครอบครัว เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย เพื่อนร่วมงาน และสังคมโดยรวม”
“วันนี้ หลังจากการใคร่ครวญ และขอคำแนะนำอย่างถี่ถ้วนแล้ว ฉันดึงความกล้าภายในของฉัน ออกมาพูดกับคุณว่า ถึงเวลาแล้วที่ความจริงจะถูกเปิดเผย ซึ่งทุกคนสมควรได้รับรู้ เพราะความจริงจะทำให้เราเป็นอิสระ ฉันได้ตระหนักว่า ประสบการณ์ครั้งนี้จะมีผลกระทบกับทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสื่อไม่ได้ดำเนินการในการตรวจสอบแหล่งที่มาอย่างเข้มงวด ซึ่งทำให้ฉันประหลาดใจมาก ฉันไม่แข็งแกร่งพอที่จะเพิกเฉย และรู้สึกว่า ฉันต้องทำอะไรสักอย่าง ต่อสิ่งที่ฉันได้มีส่วนร่วมต้องดำเนินเรื่องราวที่ฉันได้มีส่วนร่วมเอาไว้”
“ฉันขอกล่าวย้ำว่าฉันขอโทษ และรู้สึกผิด รวมทั้งขอบคุณการสนับสนุนจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ต เจ้านาย เพื่อน ครอบครัว และบริษัทที่ฉันเกี่ยวข้องด้วย พวกเขาได้ให้การสนับสนุนด้านศีลธรรม และความเข้มแข็งกับฉันมา ณ โอกาสนี้ ซึ่งฉันรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างยิ่ง ฉันอยากจะเผยแพร่เรื่องราวที่เป็นความจริง แต่ทุกวันนี้ เราตื่นขึ้นมาในประเทศที่มีเรื่องราวสำคัญ ที่ส่งผลต่อความซื่อสัตย์ และชีวิตประจำวันของชาวโคลอมเบียทุกคน แต่เรื่องราวเหล่านี้กลับไม่เป็นไวรัล”
“ฉันต้องขอโทษนับพันครั้ง สำหรับทุกสิ่งที่เกิดขึ้น จากนี้ต่อไป ฉันจะทำงานหนักเพื่อให้ฉันมีความสามารถในระดับมืออาชีพ ในฐานะนักออกแบบ ฉันเชื่อว่านี่เป็นสูตรที่ต้องปฏิบัติตาม ห่างไกลจากเรื่องขัดแย้งต่าง ๆ ด้วยความภักดี, ความเรียบง่าย, ความอ่อนน้อมถ่อมตน, ความมีน้ำใจ และความรักในอาชีพของฉัน”
ขอขอบคุณสำหรับการรับฟัง, เจอรัลดีน เฟอร์นันเดซ
ที่มา: CBR, Cartoon Brew
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส