เชื่อว่าในอนาคตภายภาคหน้า เส้นทางชีวิตการแสดงของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) น่าจะยังพุ่งขึ้นต่อไปแบบไม่มีอะไรมาทำให้สะดุดอีก เพราะแม้ว่าเขาจะวางมือจากการรับบทเป็น โทนี สตาร์ก (Tony Stark) หรือ ไอรอนแมน (Iron Man) ซูเปอร์ฮีโรของ MCU ที่ทำให้คนทั้งโลกรู้จักและกลับมายอมรับในตัวเขา ก่อนจะเริ่มมีผลงานในหนังเรื่องอื่น ๆ ที่ทำให้เขากลายมาเป็นนักแสดงนักแสดงมากประสบการณ์เบอร์ต้น ๆ ของฮอลลีวูด

ล่าสุด ในการรับบทเป็น ลูอิส สเตราส์ (Lewis Strauss) จากหนัง ‘Oppenheimer’ (2023) ก็เพิ่งได้รับรางวัลนักแสดงภาพยนตร์สมทบชายยอดเยี่ยม จากเวทีลูกโลกทองคำ และรางวัล Critics’ Choice Award จากสาขาเดียวกันมาหมาด ๆ และเป็นอีก 1 ตัวเก็งเข้าชิงรางวัลในสาขานักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์ ที่กำลังจะประกาศผลในเดือนมีนาคมนี้อีกด้วย

ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้ไปร่วมให้สัมภาษณ์กับ วูปปี โกลด์เบิร์ก (Whoopi Goldberg) และผู้ดำเนินรายการคนอื่น ๆ ในรายการ ‘The View’ ของทางสถานทีโทรทัศน์ ABC เกี่ยวกับประเด็นต่าง ๆ ตั้งแต่การย้อนความทรงจำและความประทับใจของเขาและโกลด์เบิร์ก ที่เคยร่วมแสดงหนังตลก ‘Soapdish’ (1991) รวมทั้งการได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งล่าสุด ที่นับเป็นครั้งที่ 3 ในชีวิตของเขา

Robert Downey Jr. Chaplin

และย้อนไปถึงเรื่องราวเมื่อคราวที่ดาวนีย์ จูเนียร์มีโอกาสรับบทเป็น ชาร์ลี แชปปลิน (Charlie Chaplin) ดาวตลกในตำนาน จากหนัง Biopic ‘Chaplin’ (1992) ที่เขาทุ่มทุนฝีกฝนในการสวมวิญญาณเป็นนักแสดงตลก จนทำให้การแสดงของเขาเริ่มแจ้งเกิด จากการเลียนแบบท่าทางของแชปปลินที่เหมือนตัวจริงอย่างกับมาแสดงเอง และส่งให้ได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยม รางวัลออสการ์เป็นครั้งแรก เมื่อตอนที่เขามีอายุครบ 27 ปี

แม้การชวดรางวัลออสการ์ของดาวนีย์ จูเนียร์ ในครั้งนั้นจะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง และอาจจะถือเป็นสิ่งที่เจ็บปวดในฐานะนักแสดง แต่เขาเองก็ยังรู้สึกดี และรู้สึกขอบคุณจากการพลาดรางวัลออสการ์ตัวนั้นไป เพราะถ้าหากเขาได้รับรางวัลใหญ่ติดมือกลับบ้านตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เข้าชิง ชีวิตบนเส้นทางบันเทิงของเขาอาจไม่ได้เป็นแบบที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นได้

“ตอนนั้นผมยังเด็ก และยังบ้าคลั่งมาก (ถ้าเกิดได้รางวัลออสการ์ในตอนนั้น) มันคงทำให้ผมรู้สึกว่าผมมาถูกทางแล้ว”

หลังจากพลาดรางวัลให้กับ อัล ปาชิโน (Al Pacino) จากหนังเรื่อง ‘Scent of a Woman’ (1992) ดาวนีย์ จูเนียร์ ยังคงมีผลงานการแสดงอยู่เรื่อง ๆ แต่สุดท้าย ชีวิตในวัยย่างเข้าเลข 3 จะค่อย ๆ ถอยหลังตกเหวลึกจากพิษภัยของยาเสพติดจนเกือบขึ้นมาไม่ได้ ปี 1996 เป็นปีที่สื่อประโคมข่าวว่าเขาเริ่มเข้าไปพัวพันกับยาเสพติดหลายชนิด

ในปีนั้น เขาถูกจับกุมหลายครั้งในข้อหาที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ตั้งแต่โคเคน เฮโรอีน และกัญชา คดีที่โด่งดังที่สุดของเขาในตอนนั้นก็คือ เขาถูกจับกุมบนซันเซ็ตบูเลอร์วาร์ด ลอสแองเจลิส หลังจากเปลือยกายขับรถปอร์เช พร้อมทั้งพกพายาเสพติดและอาวุธปืน เขาถูกตัดสินให้ติดทัณฑ์บน 3 ปี ก่อนจะถูกสั่งจำคุกเพราะฝ่าฝืนข้อบังคับทัณฑ์บน เขายังคงถูกจับกุมอีกหลายครั้ง ก่อนจะได้รับการปล่อยตัว

ชีวิตที่ดำดิ่งลงเหวทำให้เขาแทบจะหมดอนาคต แต่สุดท้าย เขาเองก็ปินขึ้นจากหุบเหว เริ่มหันหลังให้ยาเสพติดอย่างถาวร ก่อนจะได้รับโอกาสจาก เมล กิบสัน (Mel Gibson) ที่วางตัวเองเป็นประกัน ให้เขาได้กลับมาเล่นหนังอินดี้ฟอร์มเล็ก ๆ ทั้ง ‘The Singing Detective’ (2003) และ ‘Kiss Kiss Bang Bang’ (2005) ค่อย ๆ กลับเข้ามาในวงของฮอลลีวูดทีละน้อย

จนกระทั่ง Marvel Studios ที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งเพื่อทำหนังของตัวเอง กำลังจะเริ่มต้นโปรเจกต์หนัง ‘Iron Man’ ซึ่งดาวนีย์ จูเนียร์ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งในบทบาทนี้ แม้คณะกรรมการของบริษัทจะมองว่าเป็นเรื่องเสี่ยง ที่จะมอบอนาคตและบทบาทนี้ให้กับนักแสดงที่เคยมีอดีตเป็นคนติดยาเสพติด แต่คนหนึ่งที่เชื่อมั่นในตัวเขาก็คือ เดวิด ไมเซล (David Maisel) อดีตประธานของ Marvel Studios ในเวลานั้นที่มองว่าเขาเหมาะสมกับบทบาทนี้ รวมทั้งตัวของ จอน ฟาฟโรว์ (Jon Favreau) ผู้กำกับ ที่มองว่าเขาเหมาะสมกับบทบาทนี้ จนในที่สุด ‘Iron Man’ (2008) ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม และทำให้ Marvel Studios โด่งดังได้ในที่สุด

Robert Downey Jr. Chaplin

ดาวนีย์ จูเนียร์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ครั้งที่ 2 จากหนังตลกจิกกัดวงการฮอลลีวูด ล้อหนังสงคราม ‘Tropic Thunder’ (2008) ผลงานการกำกับ ร่วมเขียนบท และร่วมแสดงของ เบน สติลเลอร์ (Ben Stiller) ที่ส่งให้เขาได้เข้าชิงรางวัลนักแสดงสมทบชายเป็นครั้งแรก แต่สุดท้ายรางวัลนี้ก็ตกเป็นของ ฮีธ เลดเจอร์ (Heath Ledger) ผู้ล่วงลับ หลังจากการแสดงเป็นโจ๊กเกอร์ใน ‘The Dark Knight’ (2008)

ไมเซล อดีตประธานของ Marvel Studios ก่อนจะส่งต่อให้กับ เควิน ไฟกี (Kevin Feige) ในยุคหลังจากการเข้าซื้อของ Disney เคยกล่าวถึงดาวนีย์ จูเนียร์ ในช่วงแรกที่เขาต้องต่อสู้เพื่อให้คณะกรรมการเชื่อมั่นว่า นักแสดงหนุ่มผู้มีอดีตคนนี้จะสามารถรับบทบาทเป็น โทนี สตาร์ก ได้อย่างยอดเยี่ยม และสร้างชื่อมาจนถึงทุกวันนี้ได้จริง ๆ

“คณะกรรมการของผมคิดว่า ผมคงบ้าไปแล้วที่จะมอบอนาคตของบริษัทให้ตกอยู่ในมือของคนติดยา แต่ผมเป็นคนบอกให้พวกเขาเข้าใจว่า เขา (ดาวนีย์ จูเนียร์) เก่งมากแค่ไหนสำหรับบทบาทนี้ เราทุกคนมั่นใจว่าเขาสะอาด และจะสะอาดไปตลอด”


ที่มา: Variety, Variety(2), Insider

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส