เรามักจะคุ้นหน้าคุ้นตากับดาราสาวสวย ดาโกตา จอห์นสัน (Dakota Johnson) ในหนังอินดี้และหนังดราม่า รวมทั้งหนังแนวสยองขวัญเสียเป็นส่วนใหญ่ แต่เธอเองกำลังจะมีผลงานหนังซูเปอร์ฮีโรเรื่องแรกอย่าง ‘Madame Web’ หนังซูเปอร์ฮีโร Marvel ในจักรวาล Spider-Man ของ Sony ที่จะเข้าฉายวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ ซึ่งเป็นผลงานการกำกับของ เอส. เจ. คลาร์กสัน (S. J. Clarkson) ผู้กำกับซีรีส์ Marvel ทั้ง ‘Jessica Jones’ (2015) และ ‘The Defenders’ (2017)

ใน ‘Madame Web’ จอห์นสันรับบทเป็น แคสแซนดรา เว็บบ์ นักฉุกเฉินการแพทย์ ที่ค้นพบว่าตัวเองมีพลังในการมองเห็นอนาคต และพลังนั้นก็พาเธอมาพบกับหญิงสาว 3 คน ที่นำแสดงโดย ซิดนีย์ สวีนนีย์ (Sydney Sweeney), เซเลสต์ โอคอนนอร์ (Celeste O’Connor) และ อิซาเบลา เมอร์เซด (Isabela Merced) ที่จะกลายเป็น Spider-Woman ในอนาคต เธอจึงต้องปกป้องหญิงสาวจากการตามไล่ล่าของวายร้ายพลังแมงมุม เอซีเคียล ซิมส์

จอห์นสันเปิดเผยกับ Entertainment Weekly ว่า เธอได้รับการติดต่อทาบทามให้มารับบทนี้เป็นครั้งแรก หลังจากแสดงหนังดราม่า ‘The Lost Daughter’ (2021) เธอเองยอมรับว่าแอบกังขาไม่น้อยตอนที่ได้รับการติดต่อให้มาแสดงนำในหนังซูเปอร์ฮีโรเป็นครั้งแรกในชีวิต แต่เธอเองก็สนใจในบทบาทนี้มากขึ้น “ฉันได้รับบทหนังเรื่องนี้มา และฉันก็แบบว่า ไม่รู้เลยว่าฉันจะเล่นเป็นซูเปอร์ฮีโรยังไง แต่ฉันเองก็รู้สึกประหลาดใจกับพลังของเธอ ฉันรู้สึกเหมือนว่า ฉันอยากจะเห็นซูเปอร์ฮีโรคนนั้นจริง ๆ นะ ฉันอยากเห็นหญิงสาวที่จิตของเธอมีพลังวิเศษ'”

Dakota Johnson ‘Madame Web’

“ฉันชอบธรรมชาติของจิตใจและสมอง มันไม่ได้ฟังดูหวือหวา แต่มันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในหัวของแคสซี และการที่เธอต้องต่อสู้กับสิ่งนั้น เธอเป็นบ้าหรือเปล่า ? นี่เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า ? เธอกำลังต่อสู้กับสิ่งนั้นในตัวเองและพยายามทำความเข้าใจกับมัน บางครั้งมันก็ยากที่จะเชื่อมโยงกับคนที่ยิงเลเซอร์ออกจากตาได้ สิ่งที่สำคัญมากสำหรับฉันก็คือ การที่เธอมีความเป็นมนุษย์ และมีพื้นฐานอยู่บนความเป็นจริง ชีวิตของเธอเป็นอะไรที่เข้าใจในเรื่องนั้นได้”

“ฉันชอบความคิดของคนที่สามารถมองเห็นอนาคตได้จริง ๆ นะ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถใช้พลังนั้นได้ จนกว่าพวกเขาจะเข้าใจในอดีตของตัวเอง และซาบซึ้งในจุดที่เขาอยู่ได้จริง ๆ ถ้าเราเข้าใจในอดีตของเรา และรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนในปัจจุบัน เราก็จะสามารถสร้างทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับอนาคตได้”

ก่อนหน้านี้ จอห์นสันเคยแสดงหนังแอ็กชันมาบ้างแล้วใน ’21 Jump Street’ (2012) และ ‘Need for Speed’ (2014) แต่นี่คือการแสดงหนังแอ็กชันซูเปอร์ฮีโรเรื่องแรก ทำให้เธอต้องแสดงฉากต่าง ๆ ด้วยเทคนิคพิเศษ ทั้งการใช้ Blue Screen และ CGI เป็นครั้งแรกด้วยเช่นกัน เธอยังอธิบายว่า ทีมงานจะต้องถ่ายทำฉากเดียวกันในเวอร์ชันที่แตกต่างกันออกไปซ้ำแล้วซ้ำเล่า เธอเองเลยมักจะสับสนว่า ฉากไหนเกิดขึ้นจริง หรือฉากไหนเป็นนิมิตในหัวของแคสซีและนั่นก็ทำให้เธอเครียดไม่น้อย

Sydney Sweeney,Celeste O'Connor,Isabela Merced,Dakota Johnson, Madame Web

“ฉันไม่เคยเล่นหนังที่ต้องแสดงบน Blue Screen มาก่อนเลย แล้วพอจะต้องมีการระเบิดปลอม ๆ ขึ้นมา ก็จะมีทีมงานคอยตะโกนว่า ‘ระเบิด!’ แล้วฉันก็ต้องทำท่าเหมือนมีการระเบิด ซึ่งมันทำให้ฉันถึงกับเครียดไปเลย ฉันไม่รู้ว่ามันจะออกมาดีหรือเปล่า ฉันว่าฉันน่าจะทำออกมาได้ดีนะ! แต่ยังไงฉันก็เชื่อใจในคลาร์กสัน เธอเป็นคนที่ทำงานหนักมาก และตั้งแต่เริ่มต้น เธอก็ไม่ได้ละสายตาจากหนังเรื่องนี้เลย”

นอกจากการแสดงบน Blue Screen ครั้งแรก จอห์นสันยังเล่าความประทับใจในการทำงาน โดยเฉพาะการถ่ายฉากผาดโผน เธอเล่าถึงวันที่เธอชอบที่สุดวันหนึ่งในกองถ่าย ก็คือวันที่เธอต้องถ่ายฉากขับรถผาดโผน ในฉากนั้น ทีมสตันต์ต้องขับรถแท็กซี่พุ่งชนเข้าไปยังร้านอาหาร

“ฉันเลยไม่ได้ข้บรถพุ่งเข้าไปในร้านอาหารเลย ซึ่งมันน่าเสียดายมาก ๆ ฉันอยากลองทำจริง ๆ นะ แต่ฉันคิดว่าพวกเขาคงไม่อยากให้นักแสดงนำต้องตกอยู่ในอันตราย เว้นแต่ว่าคุณจะเป็น ทอม ครูซ (Tom Cruise) น่ะนะ” (หัวเราะ)

“ฉันว่าฉันคงต้องลองขับรถผาดโผนในสักวันหนึ่งแน่ ๆ และฉันคิดว่าคงจะทำได้ดีมากแน่ ๆ ฉันหมายถึงว่า ฉันน่าจะทำอะไรที่บ้าระห่ำได้ด้วยรถยนต์ ฉันขับรถพยาบาล ฉันขับแท็กซี่ ฉันขับรถในหนังเรื่องนี้ทุกชนิดเลย ยกเว้นขับรถลอยตัวพุ่งตัวออกมาจากอาคาร แต่นอกจากนั้น ระวังตัวไว้ให้ดีเชียวนะ ทอม ครูซ” (หัวเราะ)


ที่มา: Entertainment Weekly, Variety

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส