รีวิวคอนเสิร์ต ‘Ado THE FIRST WORLD TOUR Wish in Bangkok‘ จากนักร้อง Utaite สาวปริศนา ‘Ado’ Import ตรงจากญี่ปุ่น กับคอนเสิร์ต World Tour นอกประเทศครั้งแรกของเธอ ซึ่งเธอเลือกที่แรกเป็นกรุงเทพฯ ประเทศไทย รวมถึงยังเป็นครั้งแรกของน้อง Ado เอง ที่ได้ออกมานอกประเทศด้วย! คอนเสิร์ตจัดที่ Thunder Dome เมืองทองธานีเมื่อวันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ก็ถือว่าประเทศไทยได้รับเกียรติมากที่ถูกรับเลือกให้เป็นประเทศแรก และกลุ่มแรกในโลกที่ได้ฟังเสียงน้อง Ado ร้องแบบสด ๆ กัน (นอกจากญี่ปุ่น)
สำหรับใครที่อยากรู้จักน้อง Ado มากขึ้น สามารถอ่านประวัติ และที่ไปที่มาของน้องได้ ที่นี่
Quick Note: เนื่องจากขณะโชว์เราจะไม่ได้รับอนุญาตให้สามารถหยิบมือถือ หรือกล้องขึ้นมาถ่ายรูปได้ เหตุเพราะความเป็นส่วนตัวของตัวน้อง Ado เอง เพราะงั้นผมจะพยายามอธิบายให้เห็นภาพ พร้อมแนบภาพประกอบที่มาจากทาง Official และ Footage จากเทปบันทึกสดที่ถูกเผยแพร่ไปแล้ว
โชว์รันยาว ๆ เกือบ 2 ชั่วโมง จัดเต็มทุกเพลง แสง สี เสียง ถึงแม้การเปิดคอนเสิร์ตของนักร้องที่เป็น Utaite มาก่อนในปัจจุบัน และยังไม่เปิดเผยหน้าตา ก็คงยังจะเป็นอะไรที่แปลกใหม่กับคนที่ไม่เคยตามวงการเพลงญี่ปุ่นในไทยอยู่ (ถึงแม้ที่ไทยเอง จะเคยมี The Mask Singer ที่เคยแมสระดับหนึ่งก็ตาม) ซึ่งหากคุณเคยดูคลิปบันทึกสดหลาย ๆ เพลงของ Ado ก็น่าจะนึกภาพออกตามได้อยู่ โดยตัวน้อง Ado จะอยู่เพียงในกรงแสดง ที่มีจอแสดงผล 3 ทิศ ฉายคู่กับจอด้านหลัง ทำให้เราเห็นเพียงเงาของน้อง Ado เพียงเท่านั้น ซึ่งขณะโชว์นอกจากจะร้องเพลงแล้ว และถึงแม้จะเห็นเพียงแค่เงา น้องก็ยังจัดเต็มในเรื่องการเต้นที่ใส่สุดทุกเพลง เพื่อเซอร์วิสให้แฟน ๆ ฟินกับท่าเต้นที่ทั้งเท่ และสวยในเวลาเดียวกัน
ซึ่งระหว่างโชว์ ตัวกรงของน้องจะมีเอฟเฟกต์ และลวดลายแสดงผลไปมาพร้อมกับจอด้านหลังด้วย ซึ่งก็เป็นไปในธีมเดียวกันกับเนื้อเพลงนั่นเอง ก็ถือว่าเป็นการแสดงที่ตั้งใจนำมาทดแทนการที่เราไม่เห็นหน้าตาศิลปิน
ส่วนด้านข้างกรงของน้องก็จะมีนักดนตรีบรรเลงเพลงสดอยู่ด้านข้าง ทั้งมือกลอง มือเบส มือกีต้าร์ มือ Midi ซึ่งก็เป็นอีกส่วนหนึ่งของโชว์ที่ทำได้ดี นักดนตรีก็ใส่เต็มทั้งเพลง ทั้งลีลาการเต้น Vibing กันแบบ 200% เลยทีเดียว ก็ช่วยเติมช่องว่างที่เราไม่เห็นตัวศิลปินไปได้ด้วย
ส่วนตัวผมเป็นแฟนคลับของ Ado เองอยู่แล้ว จึงค่อนข้างเบลนด์และอินไปกับคอนเสิร์ตได้ทันที โชว์มีทั้งหมดประมาณ 21 เพลง (รวม Encore ด้วย 4 เพลง) กระหน่ำต่อเนื่องใส่คนดูแบบแทบไม่พักลูกคอ มีช่วง MC ประมาณ 2 หนเพื่อพักหายใจ และช่วงพักเบรกระหว่างเพลงประมาณเพลงละไม่กี่วินาที ถือว่าน่าทึ่งมากกับความสามารถของเธอ แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเห็นโชว์ของ Ado มาก่อนอาจจะดูแปลกตากันบ้าง กับการที่นักร้องมาถึงไม่พูดไม่จา ไม่เห็นหน้าเห็นตาด้วย กระหน่ำร้องเพลง โชว์พลังลูกคอ และ เรนจ์เสียงอย่างโหดใส่รัว ๆ แบบนี้
Ado เลือกเปิดคอนเสิร์ตด้วยเพลง “New Genesis” จาก ‘Uta’s Songs: One Piece Film Red’ เสร็จแล้วต่อด้วย Useewa! ถือว่าเซอร์ไพรส์มากที่หยิบเพลงนี้มาอยู่ต้นโชว์ เพราะปกติเพลงอร่อย ๆ จะเก็บไว้ปิดท้าย ๆ และเธอก็กระหน่ำใส่แฟนด้วย “Lucky Bruto, Readymade” และ “Rebellion” ซึ่งแต่ละเพลงที่รันมา เป็นเพลงที่ใช้พลังเสียงสูงมาก และในเวอร์ชันคอนเสิร์ตสดจะมีการเติมพลังเสียงลงไปที่มากกว่าเวอร์ชันที่เราฟังจากแผ่นหรือสตรีมมิงอีก มีท่อนว๊าก ท่อนเสียงสูงที่ใส่เต็มให้แฟน ๆ ฟินกันไป ทำให้รู้สึกขนลุกกับความสามารถของเธอ (ขนาดที่ผมเองร้องตามอยู่หน้าเวที แค่ 3 เพลงแรกก็หอบกินแล้ว อายุใกล้เคียงกันแท้ ๆ )
ซึ่งแต่ละเพลงที่รันมาก็จะเป็นเพลง Original ของน้องเองจากอัลบั้ม ‘Kyogen, Uta’s Songs: One Piece Film Red’ และซิลเกิลที่ปล่อยออกมา และเพลงจากอัลบั้มใหม่อย่าง ‘Utattemita’ ที่ทั้งหมดจะเป็นเพลง คัฟเวอร์ ตามความหมายของนักร้อง Utaite ก็ถูกหยิบมาหนึ่งเพลงคือเพลง “Aishite Aishite Aishite” ที่เป็นเพลงโปรดที่สุดของผมของอัลบั้มนี้เลย ก็ถือว่าเป็นที่เซอร์ไพรส์ เพราะเพลงอื่น ๆ น่าจะนำมาร้องไม่ได้ คาดว่าเป็นปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์นั่นเอง ก็ถือว่าน่าเสียดาย เพราะอย่างเพลง “Unravel” และ “Crime and Punishment” ก็เป็นเพลงที่หลายคนอยากฟังในคอนเสิร์ตสักครั้ง รวมถึงเพลงอย่าง “All Night Radio” ที่มี Lyrics MV เป็นรูปภาพผัดไทย ก็ไม่ได้อยู่ในโชว์ครั้งนี้ด้วย ก็เป็นเรื่องเดียวที่รู้สึกเสียดายของโชว์นี้ แต่หลาย ๆ อย่างก็ถือว่าเติมเต็ม และชดเชยในส่วนขาดหายนี้ไปได้อย่างดี
ที่เซอร์ไพรส์ก็คือเพลงอย่าง “Stay With Me” และ “Senbonzakura!” ” ที่ถูกนำมาร้องในโชว์ครั้งนี้ด้วย ซึ่งจริง ๆ ก่อนหน้าคอนจะเริ่ม ก็มีคนหูดีไปได้ยินว่าน้องกำลังซ้อมร้องเพลง “Stay With Me” ของคุณมิกิ มะสึบะระ อยู่ด้านใน ก็ไม่คิดว่าจะถูกนำมาใส่ในโชว์ด้วย และที่น่าจะถูกใจแฟน ๆ “Vocaloid” เด็กยุค 2000 กันอย่างยิ่งก็คือเพลง “Senbonzakura” ที่ถูกนำมาร้องในช่วง Encore ถือว่าเป็นที่เซอร์ไพรส์มาก (โดยส่วนตัวเอง น้อง Ado เป็นคนที่ชื่นชอบเพลง “Vocaloid” อยู่แล้ว และเริ่มต้นคัฟเวอร์เพลง “Vocaloid” มาตั้งแต่แรก)
โดยเพลงที่น่าประทับใจมากก็คงจะหนีไม่พ้น “Tot Musica” ที่เป็นหนึ่งในเพลงที่ใช้พลังเสียงสูงมาก รวมถึง Aishite Aishite Aishite ซึ่งน่าจะเป็นครั้งแรกที่ได้มีการถูกนำมาร้องสดในคอนเสิร์ต ก็เป็นอีกหนึ่งเพลงที่ทำคนหูเคลือบทองกันไปตาม ๆ กัน และแน่นอนว่าที่สุดของทั้งคอนเสิร์ตนี้ ก็คือเพลง “Show” เพลงจากการ collab ของสวนสนุก Universal Studio Japan ช่วง Halloween ที่ผ่านมา ก็ถือว่าสมใจ “Ready For My Show” ร้องเล่น เต้นกระโดด ตาม ๆ กันมันส์มาก ถือว่าเป็นไฮไลต์ของโชว์นี้เลย
ช่วง Encore จบลงด้วยเพลงสุดอร่อยอย่าง Odo ถือว่าปิดโชว์ไปอย่างน่าประทับใจ โดย Odo เป็นเพลงที่มีบีตสนุก น่ากระโดดเต้นตามทุกช่วง และแน่นอนว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่โปรดิวซ์โดย Giga-P นั่นเอง อร่อยทุกเพลง ซึ่งเพลงอย่างเพลง Show เองก็โปรดิวซ์โดย Giga-P / Teddyloid ด้วยเหมือนกัน
ฉันได้ไปลองทานผัดไทยมาแล้วค่ะ อร่อยมาก! ขอบคุณมากนะคะ ที่รู้จักเพลงญี่ปุ่น รู้จักเพลง Vocaloid และชื่นชอบเพลงญี่ปุ่น ฉันมีความสุขมากที่ทุกคนดูสนุกกับโชว์ของฉัน นี่เป็นโชว์นอกประเทศครั้งแรกของฉัน รวมถึงเป็นการออกนอกประเทศครั้งแรกของฉันด้วย ประเทศไทยเป็นประเทศที่ดูสนุกมาก อาหารอร่อย เมืองดูสนุกน่าเที่ยว ขอบคุณที่มาสนุกกับฉันในค่ำคืนนี้ และพบกันอีกครั้งนะคะ
Ado กล่าวบนเวที
ช่วงท้ายน้อง Ado ก็ได้ขึ้นมา MC อีกรอบ กล่าวขอบคุณทุกคนในงาน อธิบายความหมายของชื่อ Utattemita ขอบคุณที่รู้จักเพลงญี่ปุ่น รู้จักเพลง “Vocaloid” รู้จักวัฒนธรรมญี่ปุ่น ซึ่ง ณ ตอนพูดก็มีซับไทยขึ้นให้ด้วยบนจอ และก็โบกมือลาทุกคน และลงจากเวทีไปอย่างสง่างาม ถือว่าปิดท้ายโชว์ได้ประทับใจ สมใจอยากแฟน ๆ กลับบ้านไปคงไปฟังเพลงที่อัดผ่าน YouTube หรือสตรีมมิงกันไม่อิ่มเหมือนแบบในคอนแน่นอน
สุดท้ายนี้การแสดงคอนเสิร์ตของนักร้อง Utaite ก็ถือว่ายังเป็นอะไรที่แปลกใหม่สำหรับชาวไทยอยู่สำหรับคนส่วนใหญ่ แต่มันก็เป็นที่พิสูจน์ได้จริง ๆ ว่าโชว์ที่ไม่เห็นหน้าเห็นตาคนร้อง ยังมีอะไรอย่างอื่นมากมายทำให้เราสนุก และทำให้เราโยกหัวตามกับโชว์ไปได้จนเหมือนว่าแค่กระพริบตาโชว์ก็จบแล้ว ด้วยความสามารถในการร้องเพลงที่น่าทึ่งของน้อง Ado เอง และสกิลในการร้องที่มี Vocal Range กว้างมาก เสียง และสไตล์การร้องที่เป็นเอกลักษณ์ เพลงที่ติดหู ก็ทำให้ Ado สามารถมัดใจ และรวบความสนใจของทุกคนให้เหมือนอยู่ในภวังค์ได้อยู่หมัดทั้งโชว์ สมกับที่ถูกยกย่องให้เป็นศิลปินใหม่มาแรงแห่งยุคใหม่ของวงการเพลง J-POP
สุดท้ายนี้ขอขอบคุณ Universal Music และทาง Avalon Live ผู้จัดคอนเสิร์ตในครั้งนี้ด้วย ที่ทำให้โชว์นี้เกิดขึ้นได้ หวังว่าจะได้พบกันอีกในปีหน้า!
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส