เป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วที่ เจเรมี เรนเนอร์ (Jeremy Renner) นักแสดงวัย 53 ปี ที่เรารู้จักกันจากบทบาท คลินต์ บาร์ตัน (Clint Barton) หรือ ฮอว์กอาย (Hawkeye) ของจักรวาล MCU ที่ต้องฟาดเคราะห์รับเทศกาลปีใหม่ หลังประสบอุบัติเหตุโดนรถไถหิมะทับ จนทำเอาแฟน ๆ และคนรอบข้างต่างก็วิตกกังวลกันไม่น้อย จนกระทั่ง 1 ปีถัดมา หลังจากที่เขาเข้ารับการผ่าตัด และทำกายภาพบำบัด

ในที่สุดก็มีข่าวดี เรนเนอร์ก็สามารถกลับมาฟื้นตัวเป็นปกติได้อีกครั้ง แม้จะยังไม่เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ก็ถือว่าผ่านวิกฤติมาได้อย่างสวยงาม และที่เป็นข่าวดีก็คือ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เขาเองเพื่งจะเริ่มกลับไปทำงานการแสดงในซีรีส์อาชญากรรมทริลเลอร์ ‘Mayor of Kingstown’ ซีซัน 3 ของ Paramount+ แต่ก่อนที่จะได้ชมผลงานการแสดงของเขา ล่าสุด เรนเนอร์ได้ไปร่วมเป็นพรีเซนเตอร์แสดงโฆษณานมอัลมอนด์ยี่ห้อ ‘Silk’

ที่เขาได้มีโอกาสโชว์ความฟิดปั๋งอีกครั้ง พร้อมกับการปรากฏตัวคู่กันครั้งแรกในงานโฆษณาร่วมกับ เอวา (Ava) ลูกสาววัย 10 ขวบของเรนเนอร์ ที่ใครได้ดูก็คงไม่เชื่อว่า ฉากแอ็กชันทำอาหารเช้าจากนมอัลมอนด์แบบบู๊ ๆ ร้องเพลง “I Feel Good” ของ เจมส์ บราวน์ (James Brown) พร้อมกับโชว์หั่นสตรอว์เบอร์รีกลางอากาศอย่างกับซามูไร โชว์ลูกเตะหมุนฝา กระโดดขึ้นเคาน์เตอร์แล้วหมุนตัวเต้น แถมยังโชว์ขว้างด้ามช้อนเจาะกล่องให้นมไหลเข้าชามซีเรียลได้อย่างพอดิบพอดี พร้อมกับปิดท้ายด้วยประโยคเท่ ๆ “พ่อแค่กลับมาทำภารกิจน่ะ…”

ซึ่งบรรดาซีนแอ็กชันทั้งหมดในโฆษณาที่เห็นนั้น เป็นการแสดงที่เรนเนอร์ทุ่มเทเล่นเองล้วน ๆ โดยไม่ใช้การแสดงใด ๆ แต่ถึงกระนั้น ในระหว่างการซ้อมต่อหน้าผู้กำกับ เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะแสดงงานแอ็กชันผาดโผนได้แค่ไหน ทีมงานจึงต้องเตรียมทีมสตันท์แมนเอาไว้สำรอง แต่สุดท้ายเขาก็ตัดสินใจแสดงด้วยตัวเอง

“ผมไม่แน่ใจว่าผมจะสามารถทำอะไรกับร่างกายได้แค่ไหน ณ จุดนั้น พวกเขาเองก็มีนักแสดงสตันท์ที่เตรียมพร้อมเอาไว้ ไม่มีทางที่ผมจะกระโดดขึ้นบนเคาน์เตอร์แล้วเต้นอะไรพวกนี้ได้ แต่ผมก็เตะด้วยลำแข้ง ขว้างกล่อง มันเป็นอะไรที่ดูเหมือนผมจะทำไม่ได้เลย ไม่มีทาง แล้วจู่ ๆ ผมก็เข้าใจเทคนิค และเมื่อผมถ่ายจริง อะดรีนาลีนมันพุ่งพล่าน ใช้เวลาถ่ายแค่ไม่กี่เทค ทุกคนในกองกรี๊ดกันลั่นเลย”

“ผมดีใจมาก ๆ ที่ผมยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้ ผมได้ใช้เวลาดูแลสุขภาพของตัวเอง ผมยังไม่เชื่อว่ามันเกิดขึ้นจริงด้วยซ้ำ มีบางเหตุการณ์สำคัญที่ทำให้ผมรู้สึกมั่นใจ และนี่ก็เป็นเหตุการณ์หนึ่ง ผมไม่เคยลองหรือพยายามทำท่าแบบนั้น หรือเต้นไปรอบ ๆ เหมือนเจมส์ บราวน์ บนโต๊ะเคาน์เตอร์เลย ผมลองทำทุกอย่าง และวันรุ่งขึ้นผมก็รู้สึกดี ไม่ได้เจ็บปวดมาก ผมดีใจที่ได้ทดสอบก่อนถ่ายจริง แต่เอาเข้าจริงผมก็ยังลังเลอยู่ไม่น้อย”

1 มกราคม 2023 ในระหว่างที่เรนเนอร์ใช้รถกวาดหิมะเพื่อเปิดทางให้กับรถบรรทุกของหลานชาย เรนเนอร์ใช้โซ่คล้องรถบรรทุกเอาไว้และดึงออกมาจากกองหิมะ แต่แล้วรถกวาดหิมะก็เริ่มไหลไปที่รถของหลานชาย เรนเนอร์จึงพยายามปีนขึ้นไปหยุดรถ แต่กลับพลาดท่า ทำให้เขาตกลงมาจากรถ และถูกรถกวาดหิมะทับร่างจนได้รับบาดเจ็บ ต้องเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินในห้อง ICU โดยด่วน ตอนนั้นอาการของเขาอยู่ในระดับวิกฤติ จากการที่มีกระดูกหักทั่วร่างกาย ทั้งกระดูกซี่โครง หน้าแข้ง ข้อเท้าซ้าย กระดูกไหปลาร้าและไหล่หัก และบริเวณอื่น ๆ รวมแล้วกว่า 30 จุด

หลังการผ่าตัด เรนเนอร์ต้องเข้ารับการรักษา พักฟื้น และทำกายภาพบำบัดในโรงพยาบาลนานกว่า 2 สัปดาห์ ก่อนจะกลับไปรักษาตัวและทำกายภาพบำบัดต่อที่บ้าน และใช้ไม้เท้าในการพยุงตัว ระหว่างนั้น เรนเนอร์พยายามทุกวิถีทางในการรักษาตัวเองให้กลับมาเป็นปกติให้ได้ เพราะเขาเองกลัวว่า หากตัวเขาเองเป็นอะไรไป ลูกสาว ครอบครัวอาจเดือดร้อน รวมทั้งหลานชายที่เห็นเหตุการณ์ในวันนั้น ก็อาจจะรู้สึกไม่ดีก็ได้

1 ปีถัดมา เขาก็สามารถกลับมาเดินได้ตามปกติ แม้จะยังไม่เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้เขาเองเผยว่าร่างกายกลับมาฟื้นตัวได้มากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์แล้ว และแม้จะมีปัญหาจุกจิกในร่างกายของเขาบ้าง แต่เขาเองเลือกที่จะทำงานเพื่อดูแลปัญหาเหล่านี้ต่อไปโดยไม่กังวลอะไร

“คุณรู้ไหม ร่างกายของผมมักจะมีอาการสะดุด ๆ หรือแฮงเสมอเลยนะ ผมมีไทเทเนียมอยู่ในตัวมากมาย กรามของผมก็ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว ฟันของผมไม่เรียงตัวกันเลย แต่ใครจะสนล่ะ ผมไม่สนใจสิ่งเหล่านี้หรอก”

Jeremy Renner

เรนเนอร์ยังเผยถึงความตั้งใจของเขาว่า อีกสักประมาณ 6 เดือน เขาก็น่าจะเริ่มแข็งแรงมากขึ้น ถึงเวลานั้นเขาอาจจะเริ่มกลับมาวิ่งได้มากขึ้น และพัฒนาร่างกายให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม โดยมีเอวา และ ซอนนี ปาเชโก (Sonni Pacheco) อดีตภรรยาของเขาคอยอยู่เคียงข้าง นอกจากนี้เขาเองเผยว่า กำลังจะเขียนหนังสือ และทำอัลบั้มเพลงเพื่อบันทึกช่วงเวลานี้ของเขาเองเก็บไว้เป็นความทรงจำด้วย

“มันเหมือนเป็นสัญญาณแห่งความหวังสำหรับผม และลูกสาวของผม และนี่คือบทใหม่ในการเดินทางของเราร่วมกันในการเติบโตและใช้ชีวิต ผมได้รับแรงบันดาลใจมากมายจากครอบครัวของผม และจากเหตุการณ์สำคัญต่างที่เกิดขึ้นในระหว่างที่ผมพักฟื้น มันเหมือนเป็นยาระบายสำหรับผม ผมเขียนตอนแรกถึงตัวเองแล้ว ผมก็จะทำเพื่อลูกสาวผมด้วย รวมถึงเรื่องดนตรีก็ช่วยบำบัดจิตใจผมได้ ผมจึงภูมิใจกับมันมาก”

“ผมคิดว่า อุปสรรคเดียวในชีวิตของคนเราก็คือตัวเราเอง ดังนั้น คุณต้องคอยหลีกทางให้ตัวเองแสดงสิ่งที่คุณต้องการในชีวิตออกมาได้ มันอาจจะเป็นอะไรก็ได้ อาจหมายถึงการเติบโต หรือสุขภาพ ความอุดมสมบูรณ์ หรืออาจจะเป็นความสุขของคุณก็ได้”


ที่มา: CNN, People, Variety

พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส