1 ในเคล็ดลับของวิสัยทัศน์อันเฉียบแหลม ที่นำมาสู่ความสำเร็จของหนังแทบทุกเรื่องที่มีเครดิตกำกับและเขียนบทโดย คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) ที่กลายมาเป็น 1 ในสุดยอดผู้กำกับของยุคนี้ นอกจากจะเป็นเรื่องขององค์ประกอบเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น การพึ่งพาคอมพิวเตอร์กราฟิกให้น้อยที่สุด (ส่วนผลงานล่าสุดของเขา ‘Oppenheimer’ (2023) ก็นับได้ว่าแทบจะปราศจาก CGI ไปแล้วก็ว่าได้) รวมทั้งการเล่าเรื่องที่เข้มข้น ด้วยวิธีการเล่าเรื่องและนวัตกรรมใหม่ ๆ ปมปริศนาและเรื่องราวที่คลุมเครือ หรือแม้แต่การแสดงของนักแสดงคุณภาพ ที่พาให้ผู้ชมดื่มด่ำกับประสบการณ์ของหนังได้อย่างไม่ยากเย็น
มนต์เสน่ห์อีกอย่างในแบบฉบับหนังของเสด็จพ่อโนแลนหลาย ๆ เรื่อง และจะเรียกว่าเป็นส่วนผสมหลักที่โนแลนค่อนข้างใส่ใจและซีเรียสกับเรื่องนี้พอสมควรก็ว่าได้ ก็คือมาตรการ หรือกฏเหล็กที่โนแลนใช้สำหรับการควบคุมให้การถ่ายหนังยังคงเป็นไปตามวิถีแบบ Old School อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความคราฟต์อะไรบางอย่างเอาไว้ให้กับตัวหนัง เลยเป็นที่มาที่เรามักจะได้ยินกันว่า โนแลนมักจะไม่ชอบนั่งเก้าอี้ และไม่ชอบดูมอนิเตอร์เหมือนผู้กำกับคนอื่น ๆ แต่จะมีมอนิเตอร์ไร้สายเครื่องเล็ก ๆ เพื่อเอาไว้เช็กเฟรมภาพอย่างเดียวเท่านั้น
รวมทั้งการที่เขามักจะส่งบทให้ด้วยตัวเองโดยไม่ใช้อีเมล การเขียนบทด้วยคอมพิวเตอร์ที่ไม่ต่ออินเทอร์เน็ต รวมทั้งการที่โนแลนเองไม่มีอีเมลส่วนตัว และไม่มีสมาร์ตโฟนใช้ ล่าสุดในการสัมภาษณ์ในรายการ ‘The Late Show with Stephen Colbert’ โนแลนได้อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจวัตรที่เกิดขึ้นในกองถ่ายหนังของเขา ตั้งแต่การส่งบทให้กับนักแสดงด้วยมือตัวเอง ไม่ใช่การส่งไฟล์ผ่านทางอีเมล
“ผมมักจะเป็นคนบินไปหานักแสดง หรือให้พวกเขามาหาผม หรือผมมักจะอยู่ในกองถ่ายในขณะที่พวกเขาอ่านบทครั้งแรก ส่วนใหญ่ก็เพื่อต้องการให้สคริปต์มีความเป็นส่วนตัว ผมไม่ได้ส่งบทให้ทางอีเมล และผมก็พยายามจะรับปฏิกิริยาโต้ตอบ ได้มองตาของคนที่ได้อ่านมัน เพื่อเช็กว่าพวกเขาเข้าใจสิ่งเดียวกับที่ผมเข้าใจหรือไม่ และจะหาจุดที่พอดีลงตัวกันได้ไหม แน่นอนว่ามันกดดันนิดหน่อย แต่คนที่ตระหนักในการที่ผมรับฟังพวกเขา มักจะบอกว่า เราชอบบทนะ มันยอดเยี่ยม ผมอยากจะให้พวกเขาเห็นว่ามันโอเคจริง ๆ นะ”
เคล็ดลับอีกอย่างของโนแลนเกี่ยวกับบทก็คือ การรักษาความลับ ใน ‘Oppenheimer’ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) ผู้รับบทรัฐมนตรี ลูอิส สเตราส์ (Lewis Strauss) ได้รับบทที่โนแลนส่งให้กับมือ ซึ่งตอนนั้น ดาวนีย์ จูเนียร์เล่าว่า เขาได้บทที่พิมพ์ด้วยหมึกสีแดงบนกระดาษสีดำ เพื่อป้องกันการถ่ายสำเนา และเพื่อรักษาความลับไม่ให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องอ่านได้โดยง่าย ซึ่งแม้จะอ่านยากขนาดนี้ แต่ด้วยเสน่ห์ของเนื้อเรื่องก็ทำให้นักแสดงซูเปอร์สตาร์ตอบรับร่วมแสดงได้อย่างง่ายดาย
กฏอีกอย่างที่หลายคนทราบก็คือ โนแลนเป็นผู้กำกับที่ไม่ใช่สมาร์ตโฟน เขาเองมักจะให้ผู้ช่วยเป็นคนใช้อีเมลในการติดต่องานต่าง ๆ และพรินต์เนื้อหาในอีเมลบนกระดาษให้เขาอ่านแทน ส่วนโทรศัพท์ส่วนตัวที่เขาใช้คือโทรศัพท์ฟีเจอร์โฟนราคาถูก ๆ และเป็นระบบเติมเงิน จน สตีเฟน โคลแบร์ (Stephen Colbert) ยังแซวว่าเขาใช้โทรศัพท์ใช้แล้วทิ้ง แบบที่เห็นในหนังอาชญากรรม หรือหนังจารกรรม เพื่อป้องกันการสะกดรอยตามหรือเปล่า
“ผมไม่มีอีเมลเลยครับ ผมไม่เคยใช้อีเมลเลย และผมก็ไม่มีสมาร์ตโฟนด้วย แต่ผมมักจะพกโทรศัพท์แบบเติมเงินไปด้วย แบบว่าเป็นโทรศัพท์โง่ ๆ เลยนะครับ”
โคลแบร์: “มันคงเป็นโทรศัพท์ใช้แล้วทิ้งสินะครับ นี่คุณทำงานกับแก๊งค้ายาเสพติดหรือเปล่าเนี่ย…”
โนแลน: “ผมว่าน่าจะได้แรงบันดาลใจจากซีรีส์ ‘The Wire’ (2002–2008) แหงเลย”
นอกจากนี้ โนแลนเองยังไม่อนุญาตให้นักแสดงใช้โทรศัพท์มือถือ เพื่อไม่ให้นักแสดงเหล่านั้นถูกรบกวนสมาธิระหว่างถ่ายทำ นอกจากนี้เขายังพยายามไม่ให้นักแสดงสวมรองเท้าบูตหนังสั้น ๆ ที่เรียกว่า Ugg (เอิ๊ก) เพื่อให้นักแสดงสามารถตั้งมั่นอยู่กับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในเรื่องราวที่เกิดขึ้นตามบท ไม่ใช่สิ่งที่อยู่หลังกล้องที่คอยดึงดูดความสนใจให้เสียสมาธิได้ตลอดเวลา
“แม้ว่าเราจะมีส่วนร่วมในกระบวนการไร้สาระต่าง ๆ นานาที่อยู่หน้ากล้อง แต่อย่าลืมว่าหลังกำแพงนั้นมันมีแสงไฟ มีคนถือไมโครโฟน และโน่นนี่ และผมก็กำลังต้องการขอให้นักแสดงโฟกัสไปที่ความเป็นจริง ดังนั้น สิ่งที่ทุกคนจะทำได้ก็คือ การใส่รองเท้าให้ถูกต้อง การไม่เปลี่ยนกางเกง ทั้งหมดนั้นเพื่อผม และเพื่อนักแสดงด้วย ผมอยู่ในนั้นกับพวกเขา พยายามตั้งสมาธิ พยายามมองเห็นความเป็นจริงของมัน ดังนั้นอะไรก็ตามที่เราสามารถทำได้เพื่อรักษาความเป็นจริงนั้นไว้ เราจะพยายามรักษาขอบเขตนั้นเอาไว้ให้เหมือนเดิม”
ที่มา: Entertainment Weekly
พิสูจน์อักษร : สุชยา เกษจำรัส