นอกจาก ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน (Sylvester Stallone) จะเป็นแรมโบ้ตลอดกาลในดวงใจใครหลาย ๆ คนแล้ว หลายคนก็น่าจะพอทราบว่าตอนนี้เขายังเป็นป๊ะป๋าของบรรดาหนุ่ม ๆ ด้วย เพราะเขาคือพ่อของลูกสาว 3 ใบเถาทั้ง โซเฟีย สตอลโลน (Sophia Stallone), ซิสทีน สตอลโลน (Sistine Stallone) และ สการ์เล็ต สตอลโลน (Scarlet Stallone) ที่รับประกันความสวยเซ็กซี่ระดับหยาดฟ้ามาดิน ที่ไม่ต้องสืบก็รู้ว่าได้มาจากแม่ และภรรยาคนปัจจุบันของสตอลโลนอย่าง เจนนิเฟอร์ ฟลาวิน (Jennifer Flavin)

เมื่อปี 2023 ครอบครัวทั้ง 5 ของสตอลโลนได้ฤกษ์เปิดตัวรายการเรียลลิตี้โชว์ที่มีชื่อว่า ‘The Family Stallone’ ซีรีส์เปิดบ้านสตอลโลนให้แฟนคลับและหนุ่ม ๆ ได้เห็นเรื่องราวในชีวิตประจำวันของครอบครัวแอ็กชันสตาร์ในตำนานในฐานะพ่อ รวมทั้งเรื่องราวของภรรยา และลูกสาวทั้ง 3 คนกันแบบใกล้ชิด ล่าสุด ลูกสาวทั้ง 3 คน โซเฟีย,ซิสทีน และสการ์เล็ต ได้ให้สัมภาษณ์แบบ Exclusive กับเว็บไซต์ New York Post เพื่อโปรโมตซีซัน 2 ของรายการ ที่เริ่มต้นสตรีมบนแพลตฟอร์ม Paramount+ ไปเมื่อเร็ว ๆ นี้

เรื่องราวส่วนหนึ่งที่เธอเปิดเผย และจะถูกบอกเล่าในตอนหนึ่งของรายการในซีซันล่าสุดนี้ด้วยก็คือ เมื่อประมาณ 1 ปีที่แล้ว โซเฟีย พี่สาวคนโตวัย 27 ปี และซิสทีน น้องสาวคนกลางวัย 25 ปี กำลังจะต้องย้ายออกจากบ้านในลอสแองเจลิส ไปใช้ชีวิตอยู่ในกรุงนิวยอร์ก ซึ่งทีมงานก็ตามไปเกาะติดชีวิตพวกเธอในช่วงนั้นด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าความกังวลจนนอนไม่หลับจึงตกมาอยู่กับคุณพ่อที่กังวลว่า แม้นิวยอร์กจะเป็นเมืองใหญ่ แต่ก็มีอัตราการเกิดอาชญากรรมค่อนข้างสูง และเขาเองก็เคยพบเจอประสบการณ์แย่ ๆ ในนิวยอร์ก ก่อนที่เขาจะมีชื่อเสียงด้วยซ้ำ ซึ่งเขาเองก็ไม่อยากให้ลูกต้องเจอเหตุการณ์แบบนั้น

Sylvester Stallone The Family Stallone

“ลูกสาวของผมย้ายไปนิวยอร์ก ซึ่งมันเป็นอะไรที่ทำให้ผมจิตใจบอบช้ำมาก เพราะผมเคยใช้ชีวิตในนิวยอร์กหลายปี มีการปล้น การทำร้ายร่างกายกันทุกวัน อยู่ดี ๆ มีรถวิ่งมาขวาง อยู่ดี ๆ ก็มีคนสาดน้ำกรดใส่ คุณต้องเดินแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ซึ่งผมไม่เคยลืมเรื่องเหล่านั้นเลย” และวิธีการที่จะเสริมภูมิต้านทานให้ลูก ๆ นั่นก็คือ การพาพวกเธอไปเข้าค่ายฝีกการป้องกันตัวกับอดีตทหารหน่วยซีลของกองทัพเรือ เพื่อฝีกให้สาว ๆ รับมือกับเหตุอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นได้นั่นเอง

ตลอด 1 ปีที่พวกเธอใช้ชีวิตในนิวยอร์ก แม้จะไม่เคยพบเจอเหตุอาชญากรรมร้ายแรง แต่พวกเธอก็เคยเจอสภาพแวดล้อมที่ไม่น่าไว้ใจ และพวกเธอเองก็เคยได้รับการฝีกฝนการป้องกันตัวในแบบทหารจากพ่อของเธอมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว โซเฟียเล่าเสริมว่า “มันเป็นกิจวัตรที่เข้มงวดมาก ทุกวันเวลา 6 โมงเช้า เขาจะให้เรากินไข่กับซอสมะเขือเทศเพื่อเพิ่มกล้ามเนื้อ ฉันจึงไม่แปลกใจเลยที่พ่อให้เรามาเจออะไรแบบนี้ เพราะว่าพวกเราโตมากับการเห็นพ่อได้รับการฝีกป้องกันตัวในรูปแบบทหาร”

ซิสทีนยังพูดแซวพ่อว่า “แล้วจากนั้นก็มีการซิตอัป วิดพื้น โหนบาร์ ยกน้ำหนัก พ่อกำลังจะสร้างเด็กที่สมบูรณ์แบบน่ะค่ะ”

การฝีกฝนเริ่มต้นด้วยการที่พ่อของพวกเธอสมมติจำลองเหตุการณ์การถูกลักพาตัว ด้วยการให้โซเฟียถูกปิดตา และให้ซิสทีนขับรถไปยังค่ายฝีก เพื่อฝีกให้พวกเธอตรวจจับสภาพแวดล้อมได้ในกรณีที่ถูกลักพาตัว จนเมื่อถึงค่ายฝีก เธอได้เข้ารับการฝีกกับ ไมก์ โอดาวน์ (Mike O’Dowd) อดีตหน่วยซีลของกองทัพเรือ และทีมครูฝีกที่เป็นทั้งอดีตหน่วยซีลและนาวิกโยธินของกองทัพ เริ่มแรก พวกเธอได้รับการฝีกซ้อมแบบง่าย ๆ ด้วยการฝึกชกมวยกับเป้าชก ซึ่งทั้งคู่ไม่ได้แค่ฝึกเล่น ๆ แค่พอเอาภาพ แต่ต้องเข้ารับการฝีกจริง ๆ ด้วยการอยู่ในป่าที่เป็นสถานที่ฝีกอยู่นานถึง 6 ชั่วโมง

ซิสทีนเล่าถึงความยากลำบาก “มันยากแบบไม่น่าเชื่อเลยค่ะ เราใช้เวลาอยู่ในป่านั่นประมาณ 6 ชั่วโมงได้ พี่โซเฟียกับฉันโดนคนพวกนั้นส่งเสียงโห่ร้องด้วย พวกเขาจริงจังกันมากเลยค่ะ”

นอกจากนี้ พวกเธอยังได้รับการฝีกฝนเทคนิคการป้องกันตัว รวมทั้งยังฝีกฝนความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ ด้วยภารกิจหลากหลายแบบ ทั้งการค้นหากุญแจในอ่างที่เต็มไปด้วยน้ำแข็ง เพื่อฝีกการใช้ไหวพริบในสถานการณ์ที่กดดัน รวมทั้งภารกิจที่อ้างอิงมาจากหนังยอดฮิตของพ่อ ทั้งการเดินขึ้นยอดเขาโดยมีตัวถ่วงน้ำหนัก 60 ปอนด์ (27 กิโลกรัม) ถ่วงเอาไว้ แบบเดียวกับที่พ่อของเธอแสดงใน ‘Rocky IV’ (1985) และภารกิจการไล่จับไก่ในเล้า แบบเดียวกับการฝีกซ้อมของร็อกกีใน ‘Rocky II’ (1979)

ซึ่งไม่ใช่แค่อ้างอิงมาจากหนังเอาขำ ๆ เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของการฝีกฝนทักษะความเร็วที่หน่วยซีลใช้ในการฝีกจริง ๆ แต่ที่ลำบากนิดหน่อยก็เพราะว่า โซเฟียกับซิสทีนดันทะเลาะกันเพราะกลัวไก่ ซิสทีนเล่าว่าเธอเป็นคนที่กลัวนกมาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ทั้งคู่ก็สามารถไล่ต้อนไก่เข้ามุมและจับได้สำเร็จ หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจทั้งหมด พ่อของพวกเธอก็ตั้งสมญานามให้กับทั้งคู่ว่า แรมโบลินาส (Rambolinas)

ในขณะที่สการ์เล็ต น้องสาวคนเล็กวัย 21 ปี ที่ไม่ได้รับการฝีก เพราะเธออยู่ที่ไมอามี และเธอก็มักจะเดินทางไปเยี่ยมพี่ ๆ ที่นิวยอร์กนาน ๆ ครั้ง เธอเล่าว่าครั้งแรกที่เธออยู่นิวยอร์ก เธอพบเห็นหนูตัวขนาดเท่าลูกหมาตัวเล็ก ๆ วิ่งมา “เรากรี๊ดกันแล้วก็วิ่งหนีเลยค่ะ หนูนิวยอร์กนั่นคงจะได้กลิ่นสาวลอสแองเจลิสจากพวกเรา” ซิสทีนเล่าติดตลก

Sylvester Stallone The Family Stallone

และแม้ว่าโซเฟียและซิสทีน จะอยู่นิวยอร์กมาครบ 1 ปีแล้ว แต่พ่อและแม่ของเธอก็ไม่ได้ห่วงลูกสาวทั้ง 3 น้อยลง พวกเธอแอบเมาท์ว่า แม่ของเธอมักจะใช้แอปติดตามตำแหน่งเพื่อคอยเช็กว่าพวกเธออยู่ไหน “แม่ของฉันมักจะติดตามพวกเราบนแอป Find My Friends มันทำให้แม่รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน” โซเฟียเล่า ส่วนสการ์เล็ตเล่าเสริมว่า “ตอนนี้ฉันปิดของฉันไปแล้วล่ะ”

“ฉันไม่คิดเลยค่ะว่าพวกเขาจะเป็นห่วงน้อยลง เขาเป็นเหมือนคุณพ่อหัวโบราณที่หวงลูกสาวมากจนเกินไป” ซิสทีนเล่าเสริม

ปัจจุบัน ซิลเวสเตอร์และเจนนิเฟอร์ พ่อและแม่ของพวกเธอย้ายไปอยู่ที่เขตปาล์มบีช รัฐฟลอริดา พวกเขาจึงติดต่อกันผ่านทางแชตข้อความของครอบครัวเป็นส่วนใหญ่ แม่ของพวกเธอเป็นคนที่ส่งข้อความเข้าแชตของครอบครัวมากที่สุด สการ์เล็ตเล่าว่า “แม่มักจะชอบส่งรูปอาหารเย็นของเธอมาให้เราทุกคืนเลยค่ะ”

ซิสทีนเล่าเสริม “รวมถึงรูปถ่ายของพ่อตอนนอนบนโซฟากับแมวด้วย บางทีมันก็ขึ้นไปนอนอยู่บนหัวของเขาเลย แมวมันชอบย่องเข้าหาพ่อตอนที่มันจะหลับน่ะค่ะ”


ที่มา: New York Post, Insider

***