นาตาลี พอร์ตแมน (Natalie Portman) นักแสดงหญิงที่มีผลงานการแสดงมาตั้งแต่เริ่มแตกเนื้อสาว จนตอนนี้เธอทำงานในวงการบันเทิงมาแล้วกว่า 30 ปี ซึ่งก็เป็นตัวบอกกลาย ๆ ว่าเธอเองยังคงเป็นนักแสดงคุณภาพอีกคนของวงการที่ยังคงมีผลงานมาจนถึงปัจจุบัน ก่อนหน้านั้นเธอก็เพิ่งจะกลับไปรับบท เจน ฟอสเตอร์ หรือไมตีธอร์ (Mighty Thor) ใน ‘Thor: Love and Thunder’ (2022)
และปีที่แล้ว เธอมีผลงานการแสดงหนังเรื่องล่าสุดก็คือ ‘May December’ (2023) หนังดราม่าประเด็นเข้ม ที่เธอต้องรับบทเป็นนักแสดงสาวที่กำลังเตรียมตัวแสดงหนังอินดี้ที่ดัดแปลงมาจากเรื่องจริงของหญิงสาวคนหนึ่งที่โดนจับในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเด็กชายวัย 13 ปี เธอจึงต้องดั้นด้นไปสัมภาษณ์กับบุคคลจริง ๆ ที่จะเข้าฉายในไทยวันที่ 14 มีนาคมนี้
ล่าสุด เธอได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ได้ขึ้นปกนิตยสาร Vanity Fair ฉบับล่าสุด และได้มีโอกาสนั่งโต๊ะให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิตของเธอ รวมทั้งมุมมองเกี่ยวกับวงการฮอลลีวูดในปัจจุบัน ซึ่งนักแสดงเจ้าของรางวัลออสการ์จาก ‘Black Swan’ (2010) ได้แชร์มุมมองของเธอที่มีต่อวงการฮอลลีวูดปัจจุบัน ที่เธอมองว่าภาพยนตร์ ที่เคยเป็น 1 ในรูปแบบความบันเทิงหลักของผู้คน กำลังค่อย ๆ เข้าสู่จุดเสื่อมถอยลงเรื่อย ๆ
สิ่งที่มันน่าสนใจก็คือ การที่ภาพยนตร์ในฐานะของรูปแบบความบันเทิงหลักถูกลดความสำคัญลง ตอนนี้มันให้ความรู้สึกที่มีความเฉพาะทางมากขึ้น หากคุณไปถามใครสักคนเกี่ยวกับคนรุ่นเดียวกับลูก ๆ ของฉันเกี่ยวกับดาราภาพยนตร์ พวกเขาจะไม่รู้จักใครเลย ในขณะที่เมื่อเทียบกันยูทูบเบอร์ใน YouTube หรือใครก็ตาม
“มันมีการปลดปล่อยที่เป็นอิสระมากขึ้นกว่าเดิม งานศิลปะของคุณไม่จำเป็นต้องเป็นงานที่ทุกคนชื่นชอบก็ได้ คุณสามารถสำรวจสิ่งที่คุณคิดว่าน่าสนใจได้จริง ๆ มันเป็นเรื่องของความหลงใหลมากกว่าการทำมาค้าขาย และมันก็น่าสนใจเช่นกัน ตรงที่เราต้องระวังไม่ให้มันกลายเป็นของที่ดูสูงส่ง เพราะฉันมองว่า ศิลปะรูปแบบต่าง ๆ ทั้งหมดนั้นเมื่อมันเริ่มจะได้รับความนิยมน้อยลง คุณก็ต้องเริ่มคิดใหม่แล้วว่า โอเค แล้วทีนี้เราจะทำสิ่งนี้เพื่อใครอีก ? “
อนา เดอ อาร์มัส (Ana de Armas) นักแสดงสาวสวยลูกครึ่งคิวบา-สเปน ก็เคยพูดถึงประเด็นนี้กับทาง Vanity Fair เช่นกัน เพราะเธอเองเป็นคนที่ไม่มีความสนใจ และแทบไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดียเหมือนกับ Influencer คนอื่น ๆ เพราะเธอมองว่า โซเชียลมีเดียคือสิ่งที่ทำให้ความลึกลับของคนดัง ความเป็นบุคคลที่อยู่เฉพาะแต่ในหน้าจอนั้นหายไปจนหมด ทำให้คนรุ่นใหม่ไม่ได้รู้สึกถึงเสน่ห์และความหมายของ ‘ความเป็นดาราภาพยนตร์’ เหมือนอย่างในอดีตอีกต่อไป
ฉันรู้สึกว่า เพราะโซเชียลมีเดีย มันทำให้คนรุ่นใหม่ไม่มีแนวคิดความลึกลับของคนดังอีกต่อไปแล้วค่ะ เพราะโซเชียลมีเดียมีข้อมูลอยู่มากมายที่ถูกแชร์ต่อ ๆ กันเยอะแยะไปหมด แนวคิดของดาราภาพยนตร์คือ บุคคลที่คุณไม่อาจสัมผัสได้ ที่อยู่ในหน้าจอเท่านั้น ซึ่งความลึกลับนั้นมันหายไปแล้ว ส่วนใหญ่เราทำเพื่อตัวเราเองทั้งนั้น คงไม่มีใครเก็บความลับอะไรของใครได้อีกต่อไปแล้ว
พอร์ตแมน อดีตนักแสดงเด็กที่เข้าสู่วงการด้วยการเป็นนางแบบเด็กตั้งแต่วัย 10 ขวบ และเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่ออายุได้ 13 ปี จากการรับบทเป็นมาทิลดา เด็กสาวข้างห้องที่ได้รับการฝีกจากลีออง นักฆ่ามาดขรึม เพื่อให้เธอกลายเป็นเพชฌฆาตกลับไปแก้แค้นคนที่สังหารครอบของเธอใน ‘Léon: The Professional’ (1994) ยังได้กล่าวถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในยุคที่ภาพยนตร์ถูกลดความสำคัญ
แน่นอนว่ามันเป็นสิ่งที่มีทั้งด้านดี ในแง่ที่ภาพยนตร์เองก็ต้องปรับตัวมากขึ้นเพื่อรองรับกับกระแสและความสนใจที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันมันก็มีอีกด้านหนึ่ง เพราะตอนนี้คนรุ่นใหม่ดูจะรู้จักยูทูบเบอร์ หรือใครก็ตามที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ มากกว่ารู้จักชื่อของดาราภาพยนตร์เสียอีก
“อีกอย่างที่น่าทึ่งเหมือนกันก็คือ เพราะการมีความพยายามทำให้ความคิดสร้างสรรค์มีความเท่าเทียมถึงกัน ไม่มีกรอบไม่มีกำแพงอีกต่อไป ทุกคนสามารถสร้างสรรค์สิ่งต่าง ๆ ด้วยพรสวรรค์อันน่าทึ่งขึ้นมาได้ และการเข้าถึงก็ง่ายอย่างน่าเหลือเชื่อ ถ้าคุณอาศัยอยู่ในเมืองเล็ก ๆ คุณคงไม่สามารถเข้าถึงหนังอาร์ตดี ๆ แบบตอนนี้ได้เลย”
“ตอนนี้ ถ้าคุณเข้าถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้ คุณก็สามารถเข้าถึงอะไรก็ได้ มันเป็นอะไรที่ประหลาดบ้าบออยู่นะ ที่ในเวลาเดียวกัน มีคนที่ได้ดูหนังอาร์ตแปลก ๆ มากขึ้น เพราะการที่พวกเขาเข้าถึงสิ่งต่าง ๆ ได้มากขึ้น ซึ่งของอะไรแบบนี้มันก็เป็นเหมือนกับเหรียญ 2 ด้านน่ะค่ะ”
ที่มา: Vanity Fair, The Hollywood Reporter
***