อีกไม่ถึง 2 สัปดาห์ก็จะถึงฤดูกาลแห่งการประกาศผลรางวัลออสการ์ที่หลายคนรอคอย และจะได้รู้กันว่าหนังเรื่องไหน หรือนักแสดงคนใด ที่เป็นที่ถูกอกถูกใจของคณะกรรมการในด้านต่าง ๆ โดยเฉพาะหนังหลายเรื่องที่เก็งกันไว้ในสาขาใหญ่ ๆ หนึ่งในนั้นก็มีหนังเรื่อง ‘Barbie’ (2023) ที่แม้ว่าช่วงหลัง ๆ จะพ่ายให้กับรางวัลจากเวทีที่เป็นตัวเก็งของออสการ์ ทั้งรางวัล BAFTA และ SAG Awards ที่มีเข้าชิงแต่ชวดทุกรางวัล คงต้องมารอดูกันอีกทีว่าหนังปรัชญาสีชมพูเรื่องนี้จะไปถึงฝั่งฝันรางวัลออสการ์ได้หรือไม่
แน่นอนว่า สิ่งที่หลายคนไม่ลืมเกี่ยวกับหนังเรื่องนี้ก็คือบรรดาสีสันที่หนังเรื่องนี้เอามาใส่เอาไว้ได้อย่างแพรวพราว หนึ่งในนั้นก็คือฉากทะเลของบาร์บี้แลนด์ ที่มีบาร์บี้นางเงือก ที่รับบทโดย ดูอา ลิปา (Dua Lipa) และนายเงือก เคนเมด (Kenmaid) ที่รับบทโดยแอ็กชันสตาร์กล้ามล่ำ จอห์น ซีนา (John Cena) ที่เรียกเสียงฮือฮาตั้งแต่เปิดตัว และสร้างสีสันได้อย่างน่าจดจำสุด ๆ แม้จะโผล่มาในหนังแค่ไม่กี่วินาที
แต่เบื้องหลังของการมาปรากฏตัวของเขาก็ไม่ใช่สิ่งที่มาแบบบังเอิญ เอเจนซีต้นสังกัดของเขากลับไม่เห็นด้วย และไม่อยากให้เขาไปปรากฏตัวในบทบาทขโมยซีนสุดฮาอะไรทำนองนี้ เพราะมันเป็นอะไรที่ช่างไม่เหมาะกับภาพแอ็กชันสตาร์ (ลองนึกถึงภาพเขาตอนเป็นนักมวยปล้ำ WWE หรือในหนัง ‘Fast X’ (2023) หรือไม่ก็ซีรีส์ ‘Peacemaker’) อย่างแรง และอาจจส่งผลต่อหน้าที่การงานในอนาคตของเขาเองได้ ในขณะที่ซีนาได้เปิดเผยเรื่องนี้กับรายการวิทยุ ‘The Howard Stern Show’ ว่า นี่คือการตัดสินใจอยากร่วมแสดงในบทบาทเล็ก ๆ ด้วยตัวของเขาเอง
“ผมไม่ได้มีทีมใหญ่โตอะไรเลยครับ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมซาบซึ้งกับพวกเขามาก ๆ ผมไม่ได้มีแผนกประชาสัมพันธ์อะไรขนาดนั้น ผมมีแค่ผู้จัดการ มีแค่ผมกับเขาที่ทำงานแยกกันเป็น 2 ส่วน ซึ่งเอเจนซีเขาก็คงทำหน้าที่เขาในการออกไปหางาน แล้วก็คอยบอกในสิ่งที่เขารู้”
“และสิ่งที่เขาบอกก็คือ ‘ด้วยเอกลักษณ์ของคุณที่เป็นแบบนี้ ถ้ามันมีแนวโน้มไปในทิศทางนี้ ก็ควรที่จะมุ่งไปในทิศทางนี้สิ’ แต่ว่าผมไม่ใช่สินค้าข้าวของนี่ครับ ผมก็เป็นคน ๆ หนึ่งนะ และผมก็ทำงานโดยเชื่อมั่นว่า ทุก ๆ สิ่งที่เปิดรับผมเข้ามามันก็คือโอกาสทั้งนั้นล่ะครับ”
ก่อนหน้านี้ในงานแถลงข่าวรอบปฐมทัศน์ของหนังจารกรรม ‘Argylle’ ที่ซีนาได้ไปร่วมเป็นบทสมทบ เขาได้มีโอกาสพูดถึงเพื่อนของเขาทั้งร็อบบี และ เกรตา เกอร์วิก (Greta Gerwig) ผู้กำกับและเขียนบทร่วม ที่พลาดการได้เข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาใหญ่ ๆ จนกลายเป็นกระแสตกอกตกใจอยู่ช่วงหนึ่งเลยทีเดียว
“ผมพยายามจะเดินไปตามแนวทางที่ว่า ‘มีอะไรที่ผมจะสามารถควบคุมได้บ้าง’ และผมคงไม่สามารถไปเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นได้ ผมแค่อยากบอกให้มาร์โกต์ เพื่อนของผม รวมทั้งเกรตา ให้รู้ว่ารางวัลไม่ใช่ตัวชี้วัดความสำเร็จเพียงอย่างเดียว การที่พวกเธอได้ทำหนังที่ประสบความสำเร็จมหาศาลในธุรกิจ และเปลี่ยนแปลงชีวิตคนในกระบวนการเหล่านี้ได้อย่างมากมาย ผมคิดว่านี่แหละคือความสำเร็จอย่างหนึ่ง”
ซีนาเล่าต่อถึงการถ่ายทำฉาก Kenmaid ที่ตอนนั้นเขาเองก็กำลังถ่ายหนัง ‘Fast X’ ไปด้วยพร้อมกัน
“ผมได้อ่านบทของหนังเรื่องนี้แล้ว และผมเองก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะได้เข้าไปอยู่ในหนัง มาร์โกต์ ร็อบบี (Margot Robbie – นักแสดงนำและโปรดิวเซอร์) บอกกับผมว่า ‘เราจะปั้นให้คุณกลายเป็นนายเงือกนะ แล้วคุณจะต้องมาเข้ากองครึ่งวัน’ ผมก็เลยตอบว่า ‘ได้สิครับ’ แต่จากมุมมองของเอเจนซีที่มองผมก็คือ ‘มันเป็นอะไรที่ไม่เหมาะกับคุณเลย’ ซึ่งผมก็เข้าใจดีครับ ซึ่งจริง ๆ แล้วก็ต้องให้เครดิตกับเอเจนซีด้วยนะครับ ที่พวกเขายอมตกลงจนได้”
“ตอนนั้นผมบอกว่า ‘ไม่ ผมอยากจะเล่น’ พอเขาเริ่มใจอ่อน สิ่งที่พวกเขาทำได้ก็คือไม่ได้เข้ามาเป็นคนตัดสินใจเลือก แต่สิ่งที่พวกเขาทำได้คือให้คำแนะนำ และคำแนะนำของเขาก็คือ ‘เฮ้ นาย อันนี้ซีเรียสนะ หนังที่ไม่ได้ฟอร์มยักษ์แบบนี้มันอาจจะทำให้นายหลุดจากการเป็นนักแสดงแถวหน้าไปเลยก็ได้นะ’ ซึ่งผมก็เข้าใจทุกอย่างดี
“ผมเป็นคนที่ทำงานภายใต้แนวคิดของการทำงานให้ดีมาตลอด ผมเชื่อมั่นว่า ถ้าผมทำงานให้ออกมาดี มันจะทำให้คุณได้รับโอกาสใหม่ ๆ อยู่เสมอ”
ที่มา: Entertainment Weekly, People
***