ในระยะสั้นคงเป็นไปได้ยากที่หนังซูเปอร์ฮีโรจะพลิกกลับมาประสบความสำเร็จเทียบเท่ากับในอดีตได้ เอาแค่หนังซูเปอร์ฮีโรเรื่องล่าสุดที่เพิ่งเข้าฉายอย่าง ‘Madame Web’ ก็ประสบปัญหาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก รวมทั้งรายได้ที่ย่ำแย่ที่สุดเรื่องหนึ่งของบ้าน Sony เลยก็ว่าได้ คงต้องไปรอดูกันอีกทีว่า ‘Deadpool & Wolverine’ จากบ้าน Marvel Studios และ ‘Superman’ (ที่ลดรูปมาจาก ‘Superman: Legacy’) หนังเปิดจักรวาล DCU จะกลายเป็นความหวังในการพลิกฟื้นหนังซูเปอร์ฮีโรในรอบ 1-2 ปีข้างหน้านี้ได้หรือไม่

แต่กว่าจะไปถึงตรงนั้น การถกเถียงกันในเรื่องของความล้มเหลว รวมทั้งความเบื่อของคนดูที่มีต่อหนังซูเปอร์ฮีโรนั้นยังคงดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมาเราจึงได้เห็นผู้กำกับหนังรุ่นใหญ่หลายคนออกมาแสดงทรรศนะแบบเผ็ดร้อน ในขณะที่นักแสดงเจ้าของคาแรกเตอร์ซูเปอร์ฮีโรหลาย ๆ คนก็เคยออกมาปกป้องหนังฮีโรด้วยเช่นกัน

ล่าสุด คริส อีแวนส์ (Chris Evans) เจ้าของทบาท สตีฟ โรเจอร์ส (Steve Rogers) หรือกัปตันอเมริกา (Captain America) คนแรกของจักรวาล MCU มายาวนานนับทศวรรษ และอดีตเจ้าของบท ฮิวแมน ทอร์ช (Human Torch) จากหนัง ‘Fantastic Four’ เวอร์ชันแรกของ 20th Century Fox ก็เป็นนักแสดงอีกคนที่ออกมาแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังซูเปอร์ฮีโร ในวงสนทนาของเทศกาล Emerald City Comic Con 2024 ด้วยเช่นกัน

Chris Evans and Chris Hemsworth in The Avengers (2012)

“ผมคิดว่าโดยทั่วไปแล้ว ภาพยนตร์จากหนังสือคอมิกมักจะไม่ค่อยได้รับเครดิตสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ผมคิดว่าหนังเหล่านั้นควรจะได้รับสิ่งนี้นะครับ เพราะหนังเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นหนังฟอร์มยักษ์กันทั้งนั้น มีพ่อครัวแม่ครัวที่ทำงานอยู่ในครัวเยอะมาก นั่นแหละที่เป็นหลักฐานเชิงประจักษ์ว่า มันไม่ใช่ของที่จะทำออกมากันได้ง่าย ๆ ถ้ามันทำง่าย คงมีหนังดี ๆ ออกมาเยอะกว่านี้มาก”

“คือผมไม่ได้ต้องการจะแซะใครนะครับ! ผมเองก็เป็นส่วนหนึ่งของความผิดพลาดพวกนั้น มันเกิดขึ้นมาแล้ว และการทำหนังมันเป็นอะไรที่ยากจริง ๆ การมีแม่ครัวในครัวมากขึ้นก็ไม่ได้แปลว่าจะช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น ผมไม่ได้ต้องการจะชูหนังบางเรื่องในแคตตาล็อกของ Marvel นะครับ แต่ผมคิดว่ามันก็มีหนังบางเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก ๆ ไม่ต่างอะไรกับหนังดี ๆ ที่มีความเป็นอิสระและเป็นอัตวิสัยเหล่านั้น ซึ่งผมคิดว่า (หนังซูเปอร์ฮีโร) ควรจะได้รับเครดิตมากขึ้นกว่านี้อีกสักหน่อย”

อีแวนส์ปรากฏคัวครั้งแรกในบทบาทกัปตันอเมริกาครั้งแรกใน ‘Captain America: The First Avenger’ (2012) และหลังจากนั้น เขาก็ปรากฏอยู่ในหนังของ MCU ต่อมาอีกหลายเรื่อง จนกระทั่งสิ้นสุดการเดินทางใน ‘Avengers: Endgame’ (2019) ที่ส่งมอบโล่ให้กัปตันอเมริกาคนที่ 2 แซม วิลสัน หรือ ฟอลคอน ที่รับบทโดย แอนโธนี แมกคี (Anthony Mackie) และมีบทบาทในทีวีซีรีส์ ‘Falcon and the Winter Soldier’ (2021) ของ Disney+ และหนัง ‘Captain America: Brave New World’ ที่จะเข้าฉายในปี 2025

Don Cheadle, Robert Downey Jr., Bradley Cooper, Chris Evans, Sean Gunn, Mark Ruffalo, Chris Hemsworth, and Chadwick Boseman in Avengers Endgame (2019)

และเมื่อถามถึงภาพยนตร์ Captain America ที่เขาชื่นชอบมากที่สุด อีแวนส์เล่าว่า เขาชื่นชอบ ‘Captain America: The Winter Soldier’ (2014) หนังเดี่ยวเรื่องที่ 2 ของกัปตันอเมริกา ผลงานกำกับโดยพี่น้องรุสโซ (Russo Brothers) ทั้งโจเซฟ รุสโซ (Joseph Russo) และ แอนโธนี รุสโซ (Anthony Russo) ซึ่งเป็นหนังของ MCU ที่ประทับใจเขามากที่สุด

“มันเป็นหนัง Marvel ที่ผมมีส่วนร่วม และผมชื่นชอบเป็นการส่วนตัวครับ ไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวหนังเท่านั้น แต่เป็นประสบการณ์ด้วย ในหนังเรื่องแรก ผมรู้สึกประหม่ามาก ๆ ผมรู้ตัวว่าผมกำลังก้าวเข้าสู่สิ่งที่เป็นผลจากการทำอะไรเซฟ ๆ เพราะกลัวว่าจะล้มเหลว แต่พอมาถึง ‘Winter Solider’ เรากำลังเล่นเพื่อชัยชนะ เป็นหนังเรื่องแรกของผมกับพี่น้องรุสโซ และเราพยายามจะเสี่ยงมากขึ้น ตัวละครที่มีมิติมากขึ้น มันเป็น 1 ในประสบการณ์ที่น่าพึงพอใจมากที่สุดกว่าที่ผมเคยมีในการแสดงหนัง Marvel เรื่องไหน ๆ “

ในงาน C2E2 เมื่อปี 2023 อีแวนส์ได้กล่าวถึงการสิ้นสุดบทบาทกัปตันอเมริกาที่ติดตัวเขามานานนับทศวรรษ แม้ว่านี่จะเป็นการสิ้นสุดการเดินทางของเขากับบทบาทนี้อย่างสวยงาม แต่เขาเองก็เชื่อว่ายังมีเรื่องราวอีกมากมายให้เล่า สำหรับเขาจึงยังไม่ถึงเวลาที่จะกล่าวคำบอกลาบทบาทนี้ไปอย่างสิ้นเชิง

“มันเป็นอะไรที่ยากมากนะครับ ผมชื่นชอบในบทบาทนี้อย่างมาก (กัปตันอเมริกา) นั้นมีความหมายต่อผมอย่างมาก และมีความหมายสำหรับผมจริง ๆ ผมคิดว่า สตีฟ โรเจอร์ส ยังมีเรื่องราวให้เล่าต่อไปอีกแน่นอน แต่ในขณะเดียวกัน มันก็เป็นสิ่งเล็ก ๆ ที่มีค่ามาก ๆ สำหรับผม ผมได้เป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่พิเศษ ในช่วงเวลาที่พิเศษ แต่ในทางหนึ่ง มันก็เป็นการปิดจบที่สวยงามด้วยเช่นกัน”

“ตราบใดที่ผมยังมีความเชื่อมโยงกับบทบาทนั้น และยังชอบที่จะเล่าเรื่องราวเหล่านั้น และทำงานร่วมกับคนเหล่านั้น ณ ตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้รู้สึกว่าถึงเวลานั้นจริง ๆ หรอกครับ”