ปิดฉากลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับงานประกาศรางวัลออสการ์ (Academy Awards) ครั้งที่ 96 ประจำปี 2024 ที่จัดขึ้นเมื่อค่ำคืนของวันที่ 10 มีนาคม (ตามเวลาท้องถิ่น) หรือเวลาประมาณเช้าตรู่ 06.00 น. ของวันที่ 11 มีนาคม ตามเวลาประเทศไทย

ซึ่งภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในงานค่ำคืนนี้ก็คือ ‘Oppenheimer’ ผลงานหนังชีวประวัติสุด Epic ที่สามารถกวาดรางวัลไปได้มากที่สุดในค่ำคืนนี้ถึง 7 รางวัล ไล่ไปตั้งแต่รางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมของ คิลเลียน เมอร์ฟี (Cillian Murphy) รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยมของ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) รางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมของ คริสโตเฟอร์ โนแลน (Christopher Nolan) รวมทั้งรางวัลตัดต่อ, ถ่ายภาพ, ดนตรีประกอบ และรางวัลใหญ่ที่สุดของงานอย่างรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

โดยในระหว่างการประกาศรางวัลรางวัลสุดท้ายของงาน โดยในระหว่างการประกาศ อัล ปาชิโน (Al Pacino) นักแสดงรุ่นเก๋าเจ้าของรางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยมจาก ‘Scent of a Woman’ (1992) ที่ได้รับเกียรติให้ขึ้นมาประกาศรางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยม

ตามกำหนดการเดิม เขาจะต้องขึ้นมาประกาศรางวัลนี้คู่กับนักแสดงรุ่นใหญ่อีกคนอย่าง มิเชล ไฟเฟอร์ (Michelle Pfeiffer) ซึ่งจะเป็นการ Reunion ของทั้งคู่จากหนังอาชญากรรมเรื่อง ‘Scarface’ (1983) แต่เสียดายที่ไฟเฟอร์ไม่ได้มาร่วมงานในครั้งนี้ด้วยเหตุส่วนตัวที่เกี่ยวกับครอบครัว

Al Pacino Oscars 2024

แต่ไฮไลต์ในงานไม่ได้มีอยู่แค่นั้น เพราะในระหว่างที่ปาชิโนถือซองรายชื่อผู้ได้รับรางวัล แต่แทนที่เขาจะทำตามธรรมเนียม ด้วยการปล่อยคิว VTR รายชื่อภาพยนตร์ที่ได้เข้าชิงในสาขานี้ทั้ง 10 เรื่อง ปาชิโนกลับข้ามช็อตด้วยการเปิดซองแล้วประกาศชื่อ ‘Oppenheimer’ ที่เป็นผู้ชนะนรางวัลนี้อย่างรวดเร็ว

“และแล้วก็ถึงเวลาสำหรับรางวัลสุดท้ายของค่ำคืนนี้ และเป็นเกียรติของผมอย่างมากที่ได้ประกาศ ในครั้งนี้มีภาพยนตร์ยอดเยี่ยมถึง 10 เรื่องด้วยกันที่ได้รับการเสนอเข้าชิง แต่จะมีเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่จะได้รับรางวัลในสาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และผมกำลังจะเปิดซองนะ…ตาผมเหลือบไปเห็น ‘Oppenheimer’… ใช่ ใช่…”

ก่อนที่กล้องจะตัดไปยังภาพของโนแลน เอ็มมา โธมัส (Emma Thomas) โปรดิวเซอร์ภาพยนตร์ และภรรยาของโนแลน รวมทั้งเหล่านักแสดงและทีมงาน กำลังลุกขึ้นจากที่นั่งเพื่อขึ้นไปร่วมรับรางวัลบนเวที พร้อมกับเพลงที่บรรเลงขึ้น และเสียงปรบมือจากแขกในงานแบบเบา ๆ ที่ดูไม่ค่อยแน่ใจว่านี่คือการประกาศแบบเอาจริง ๆ แล้วหรือยัง

หลังจากงานเสร็จสิ้น ผู้ชมที่ชมการประกาศรางวัลผ่านการถ่ายทอดสดต่างแสดงความคิดเห็นต่อการประกาศรางวัลของปาชิโน บ้างก็มองว่าเขาผิดคิวจนทำให้การประกาศดูแปลก ๆ บ้างก็แสดงความคิดเห็นว่า การผิดคิวทำให้ลำดับขั้นตอนบนเวทีดูวุ่นวายสับสนเล็กน้อย ในขณะที่บางคนก็มองเป็นเรื่องขำ ๆ ที่ทำให้พิธีไม่เคร่งเครียดจนเกินไป และหลายคนก็มองว่า ปาชิโนกล้าหาญด้วยการทิ้งท้ายงานด้วยแหวกขนบธรรมเนียมเดิม ๆ ของการประกาศรางวัลออสการ์ที่เคยมีมา ก่อนจะปิดจบไปแบบพีก ๆ