‘The Sympathizer’ ผลงานออริจินัลลิมิเต็ดซีรีส์เรื่องใหม่จาก HBO ที่เพิ่งฉายตอนแรกไปเมื่อวันที่ 15 เมษายนที่ผ่านมา ซีรีส์แนวระทึกขวัญและการเสียดสีข้ามวัฒนธรรมเรื่องนี้ เป็นผลงานดัดแปลงจากนวนิยายในชื่อเดียวกันของ เวียต ธาน เหวียน (Viet Thanh Nguyen)
และได้เหล่าผู้สร้างมากฝีมือมาดูแล ไม่ว่าจะเป็น พัคชานอุค (Park Chan-wook) ผู้อำนวยการสร้าง ผู้เขียนบท และผู้กำกับซีรีส์ตอนที่ 1-3, ดอน แม็กเคลลาร์ (Don McKellar) ผู้อำนวยการสร้างและผู้เขียนบท, ซูซาน ดาวนีย์ (Susan Downey) ผู้อำนวยการสร้าง จากทีม Downey, นิฟ ฟิชแมน (Niv Fichman) จาก Rhombus Media พร้อมทีมงานอีกมากมาย ซึ่งซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานการสร้างสรรค์ร่วมกันของ HBO, A24 และ Rhombus Media ร่วมกับ Moho Film และ Cinetic Media นำแสดงโดย นักแสดงมากความสามารถ ทั้งนักแสดงฮอลลีวูดและเวียดนาม (ติดตามบทสัมภาษณ์ของนักแสดงซีรีส์ ‘The Sympathizer’ ได้เร็ว ๆ นี้)
BT BUZZ ได้มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษกับทีมงานผู้สร้างซีรีส์ ‘The Sympathizer’ ของ HBO อย่าง พัคชานอุค, ดอน แม็กเคลลาร์, ซูซาน ดาวนีย์ และ นิฟ ฟิชแมน ถึงเบื้องหลังการทำงานที่น่าสนใจของซีรีส์เรื่องนี้
ทำไมผู้กำกับ พัคชานอุค ถึงเลือกกำกับซีรีส์เพียงแค่ 3 ตอนแรกเท่านั้น และมีวิธีการคัดเลือกตอน (Episodes) ที่สนใจกำกับอย่างไร?
พัคชานอุค: นอกจากผมจะรับหน้าที่เขียนบท ผมยังเป็นโชว์รันเนอร์ของซีรีส์เรื่องนี้ด้วย ผมจึงต้องดูแลกระบวนการและภาพรวมทั้งหมด ผมจึงไม่สามารถกำกับได้ทั้ง 7 ตอน แม้จริง ๆ แล้ว ผมจะอยากทำแบบนั้นมากก็ตาม แต่ผมก็ต้องกลั้นน้ำตาเอาไว้ เพราะสถานการณ์มันบีบบังคับไม่ให้ผมทำอย่างนั้น มาในส่วนของการกำกับ ที่ผมเลือกกำกับซีรีส์ 3 ตอนแรก เพราะผมคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์แก่ผู้ชมในการตั้งตัวช่วงเริ่มแรก ไม่ใช่แค่สำหรับผู้ชมเท่านั้น แต่สำหรับนักแสดง ทีมงาน และผู้กำกับคนอื่นที่ต้องมากำกับซีรีส์ 4 ตอนสุดท้ายต่อจากผมด้วย
คุณคิดเห็นอย่างไรที่นิยายเรื่องนี้แต่งโดย นักเขียนชาวเวียดนามอเมริกัน และกำกับโดย ผู้กำกับชาวเกาหลี?
พัคชานอุค: ผมไม่ได้คิดว่า ถ้านิยายเรื่องนี้เขียนโดยนักเขียนชาวเวียดนาม จำเป็นจะต้องกำกับโดยผู้กำกับชาวเวียดนาม หรือถ้าเขียนโดยชาวเวียดนามอเมริกัน ก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะต้องกำกับโดยคนอเมริกัน อย่าง ‘Piano Sonata’ ที่แต่งโดย เบโธเฟน (Beethoven) ยังสามารถบรรเลงออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม และอาจเยี่ยมกว่าการบรรเลงโดยนักเปียโนชาวอิตาลีด้วยซ้ำ ดังนั้นผมคิดว่าไม่ว่าคุณจะมาจากที่ไหนหรือประเทศอะไรก็ไม่สำคัญ
จริงอยู่ที่ซีรีส์เรื่องนี้เกี่ยวกับเวียดนามและอเมริกา แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือมันยังเกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมฝั่งตะวันออกและตะวันตก ว่ามีความคล้ายและแตกต่างกันอย่างไร ดังนั้นผมคิดว่าการมาจากฝั่งตะวันออก หรือมาจากเอเชียในฐานะผู้กำกับ ผมจึงคิดว่าผมอยู่ในตำแหน่งที่ถูกที่ควรแล้วที่จะกำกับซีรีส์เรื่องนี้
ซูซาน ดาวนีย์ รีวิวการทำงานกับ ‘สามี’ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ ในซีรีส์เรื่องนี้ แตกต่างจากโปรเจกต์อื่นอย่างไร?
ซูซาน: ฉันว่าจริง ๆ มันไม่ค่อยแตกต่างจากโปรเจกต์อื่นขนาดนั้นหรอก เพราะว่าพวกเรามักจะจัดการด้วยวิธีที่เหมือน ๆ กัน ไม่ว่า ดาวนีย์ จูเนียร์ จะเป็นตัวเต็งที่อยู่ในลิสต์หรือจะเป็นนักแสดงสมทบ พวกเราก็ทำงานกันเต็มที่ และดูแลประคบประหงมมันอย่างดีเหมือนกับเป็นลูกของเรา พวกเราต้องการสนับสนุนทุกคนให้ดีที่สุดเท่าที่พวกเราจะสามารถทำได้ ทั้งคนที่อยู่เบื้องหน้าและเบื้องหลัง
พวกเรารักการทำงานครีเอทีฟร่วมกัน และสำหรับซีรีส์เรื่องนี้ฉันรู้สึกว่ามันคือโอกาสใหม่สำหรับพวกเรา ที่ได้มาเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องราวจากมุมมองของคนอื่น ฉันคิดว่ามันเป็นสิ่งที่เราตื่นเต้นที่ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ได้เปิดหู เปิดตา และเปิดใจ ไปกับประสบการณ์ใหม่ ๆ ที่แตกต่างกันกับกลุ่มคนทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง เราได้ทำงานร่วมกับกลุ่มคนจากทั่วทุกมุมโลก ตั้งแต่ เกาหลี, เวียดนาม, ลอนดอน, อเมริกา, ออสเตรเลีย และฉันรู้ว่าโรเบิร์ตสนุกมาก ๆ กับการแสดง
ฟิชแมน: ผมรู้สึกประทับใจมากกับการได้มีส่วนร่วม ซูซานเป็นเหมือนคู่หูผมในการสร้างสรรค์ผลงานอย่างแท้จริง และโรเบิร์ตก็เป็นโปรดิวเซอร์ตัวจริงในโชว์นี้ด้วย เขาคอยเฝ้าดูทุก ๆ อย่าง สนับสนุนทุกคนอย่างเต็มที่ เขาอ่านหมดทุกอย่าง และนำไปปรับใช้กับตัวละครที่เล่น และแสดงมันออกมาได้โคตรสุดยอดอย่างที่คุณได้เห็น
ทำไมคุณถึงตัดสินใจให้ โรเบิร์ต ดาวนีย์ จูเนียร์ (Robert Downey Jr.) แสดงหลายบทบาทในซีรีส์เรื่องนี้?
แม็กเคลลาร์: ผมกับพัคชานอุคได้คุยกันถึงตัวละครที่มีอยู่ซ้ำ ๆ ในชีวิตของผู้กอง (Captain, ตัวละครหลักของเรื่อง นำแสดงโดย ฮวา เซวียนเต (Hoa Xuande)) พวกเราคุยกันถึงลักษณะและรูปแบบของความสัมพันธ์ที่พวกเขามีคล้าย ๆ กันกับผู้กอง ตัวละครทุกตัวที่ล้วนแล้วแต่เป็น ‘ที่ปรึกษา’ ที่ไม่น่าเชื่อถือ และพวกเขาก็เป็นพวกชอบวางมาดหน่อย ๆ
อยู่มาวันหนึ่งพัคชานอุคก็มาคุยกับผม พร้อมไอเดียที่ว่า “ถ้าเราคัดเลือกนักแสดงแค่คนเดียวล่ะ อย่าง ปีเตอร์ เซลเลอร์ส (Peter Sellers) ใน ‘Dr. Strangelove’ (1964) และผมก็ชอบไอเดียนี้มาก” และหลังจากนั้นพวกเราก็ไปเล่าให้กับ เวียต ธาน เหวียน (Viet Thanh Nguyen, ผู้แต่งนวนิยาย) ฟัง และเขาก็โอเคกับมันมาก ๆ เพียงแค่เขารู้สึกกังวลเรื่องการปรับเปลี่ยนโทนเดิมจากนิยาย
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่โชคดีมาก ๆ ที่ ดาวนีย์ จูเนียร์ ตอบตกลงมาเล่นด้วย เขาชอบความคิดนี้เหมือนกัน ซึ่งเขาอยู่ในท็อปลิสต์ของเรา และเป็นนักแสดงเพียงไม่กี่คนที่จะทำมันได้และทำมันออกมาแบบสมเหตุสมผล เขาสนใจในทันทีและเขาก็จริงจังกับบทมาก ๆ
การคัดเลือกนักแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ส่วนมากเป็น ‘คนเวียดนาม’ ใช่หรือไม่?
ฟิชแมน: ย้อนกลับไปก่อนพวกเราจะเริ่มทำซีรีส์เรื่องนี้ มีคำถามเกี่ยวกับการคัดเลือกนักแสดงภายในเรื่อง ซึ่งพวกเราคัดเลือกเฉพาะ ‘ชาวเวียดนาม’ แบบแท้ ๆ ซึ่งพวกเขาก็มีภาษาถิ่นที่แตกต่างกัน บ้างก็เรื่องของจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกัน ซึ่งพวกเราก็ต้องค่อย ๆ ปรับตัว นอกจากนี้ยังนำไปสู่การคัดเลือกตัวละครภายในเรื่องที่มีความท้าทาย และพวกเราก็ต้องเฟ้นหานักแสดงจากทั่วโลก โดยการมองหาคนในหลาย ๆ ประเทศที่มีชาวเวียดนามพลัดถิ่นอยู่ อย่างอเมริกา, แคนาดา, ออสเตรเลีย, ยุโรป, เยอรมนี, สาธารณรัฐเช็ก, กรุงปราก และแน่นอนในเวียดนาม
โดยนักแสดงเหล่านี้จะต้องพูดภาษาเวียดนามและพูดภาษาอังกฤษได้เป็นส่วนใหญ่ และจะมีคนส่วนน้อยที่จะมารับบทเฉพาะ พวกเราทุกคนนั้นได้อยู่ร่วมกันและใช้เวลามากกว่าหนึ่งปีในการทำสิ่งที่น่าเหลือเชื่อ และกลุ่มคนที่สุดยอดเหล่านี้ กำลังจะเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกแล้ว
หลังจากที่ เวียต ธาน เหวียน ได้ดูซีรีส์เรื่องนี้ เขารู้สึกอย่างไรบ้าง?
แม็กเคลลาร์: ตอนนั้นผมรู้สึกกังวลมาก เพราะเวียตกับผมทำงานและคุยกันมาตั้งแต่เริ่มโปรเจกต์นี้ เขารู้สึกตื่นเต้นและได้มีส่วนร่วมกับซีรีส์เรื่องนี้ ผมเป็นคนตัดสินใจร่วมกับเขาในการทำซีรีส์เพียง 7 ตอน แทนที่จะเป็น 8 ตอน เขามีส่วนร่วมมาก ๆ แต่เขาไม่อยากเขียนบท ถึงอย่างนั้นผมก็ยังส่งดราฟต์บทให้เขาดูทุก ๆ ตอน ซึ่งเขาให้ความช่วยเหลือได้ดีมาก
แต่เมื่อพวกเราเริ่มตัดต่อแล้ว ผมกลับรู้สึกกลัวที่จะให้เขาดู แต่ท้ายที่สุดเขาก็รักซีรีส์เรื่องนี้ และเขารู้สึกตื่นเต้นมาก ๆ เมื่อได้ชมมัน เขารู้สึกเซอร์ไพรส์และเคยเขียนจดหมายมาให้ผม ผมจึงโล่งใจมากที่ในที่สุดเขาก็ได้เห็นมัน และผมก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่เขาได้เห็นหนังสือของเขาในโชว์นี้ ซึ่งเขาสุดยอดมาก ๆ และผมก็รู้สึกโล่งใจมาก
รับชมซีรีส์ ‘The Sympathizer’ ได้แล้ววันนี้ ทาง HBO GO