สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติได้ยื่นหนังสือเข้าร้องเรียนกับทาง กสทช. ให้ทำการไล่กวาดล้างเว็บไซต์ดูหนังออนไลน์เบื้องต้น 36 เว็บไซต์ โดยให้เริ่มดำเนินการทันที หลังจากมีการฟ้องร้องจากบรรดาเจ้าของลิขสิทธิ์เข้ามาแล้ว ซึ่งนอกจากจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์แพร่ภาพโดยไม่ได้รับอนุญาตแล้วยังเป็นแหล่งรวมโฆษณาอบายมุขมากมายที่เป็นบ่อนทำลายสังคม
นายพรชัย ว่องศรีอุดมพร กรรมการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติฯ เปิดเผยว่า ทุกวันนี้มีช่องทางให้ผู้คนเข้าไปดูหนังออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ต่างๆ เป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นหนังโป๊เปลือย รวมทั้งการพนันต่างๆ ซึ่งมีทั้งฟรีและแบบคิดค่าสมาชิก เปิดให้โหลดฟรีรวมแล้วเกินกว่า 2 ล้านเรื่อง ยังไม่รวมกับตัวโฆษณาบนเว็บที่มีเนื้อหาลามกหรือชวนเล่นการพนันอีกมากมาย ที่ผุดขึ้นมาให้คลิกก่อนเข้าชมเนื้อหา
ทางด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ก็ระบุว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธิ์อยู่แล้ว และได้แนะนำให้ทางสมาพันธ์ฯ ไปแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ และนำหลักฐานการแจ้งความนั้นมาให้ กสทช. เพื่อจะดำเนินการแจ้งกับผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือ ISP ไปแจ้งต่อไปยังเว็บไซต์ที่ละเมิดนำเนื้อหาดังกล่าวออกจากเว็บอีกที ซึ่งจากเอกสารที่นำมาแจ้งความให้ กสทช. นั้นล่าสุดมีจำนวน 36 เว็บไซต์ที่มีการฟ้องร้องจากเจ้าของลิขสิทธิ์เข้ามา
ทั้งนี้ ผู้ถูกละเมิดลิขสิทธิ์ได้ระบุว่าการมาของเว็บหนังออนไลน์ละเมิดลิขสิทธิ์นั้นมีส่วนสำคัญที่ทำให้หนังที่นำเข้ามาฉายนั้นสร้างรายได้ไม่เป็นไปตามเป้า ทำให้บั่นทอนแรงจูงใจที่จะลงทุนนำหนังดีๆ เข้ามาฉาย รวมทั้งคนทำหนังเองที่ไม่อยากจะสร้างสรรค์งานดีๆ ออกมา ซึ่งหวังว่านี่จะเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่ดีของการจัดระเบียบสื่อออนไลน์อย่างจริงจัง
ปัจจุบันมีคนไทยที่ใช้อินเทอร์เน็ตได้เข้าไปดูหนังออนไลน์ละเมิดลิขสิทธิ์ราว 30% หรือคิดเป็น 7 ล้านคน โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวในหลากหลายมุมมอง พร้อมทั้งมีการตั้งคำถามถึงการแก้ปัญหาที่ถูกมองว่าเป็นการ ‘เกาไม่ถูกที่คัน’ หรือไม่ โดยเฉพาะในมุมของคนดูหนังออนไลน์นั้น ได้โยนคำถามย้อนกลับไปยังผู้ประกอบการโรงภาพยนตร์ว่า หนังในโรงนั้นมีคุณภาพ มีความหลากหลาย และมีความยุติธรรมในการจัดรอบฉายมากพอหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น หนังคุณภาพดีหลายเรื่องนำเข้ามาฉายไม่กี่สัปดาห์ก็ถูกถอดออก หรือจำกัดโรง จำกัดรอบฉาย ขณะที่หนังคุณภาพไม่ดีกลับมีรอบฉายมากมาย รวมทั้งยังอยู่ในโรงภาพยนตร์นานเป็นเดือนด้วยซ้ำ
อีกประเด็นหนึ่ง ที่ยังเป็นช่องโหว่สำคัญที่ทำให้คนอีกมากมายเลือกใช้บริการหนังออนไลน์ละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านี้คือ พวกเขาไม่สามารถหาหนังเก่าที่ออกจากโรงไปแล้วมาดูได้ เพราะทุกวันนี้ร้านให้เช่าหนังก็ล้มหายตายจากไปกันหมด นอกจากนี้ ราคาของการตีตั๋วเข้าไปดูหนังในโรงนับเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่พวกเขามองว่ามีราคาแพงเกินไปอยู่ดี แม้จะมีโปรโมชันหนังราคาถูกวันพุธก็ตาม รวมทั้งความหลากหลายในตัวหนังที่นำเข้ามาฉายนั้นยังมีน้อย ซึ่งผู้ประกอบการส่วนใหญ่คิดถึงผลกำไรที่จะได้จากการซื้อลิขสิทธิ์หนังเข้ามา คอหนังที่ชอบหาหนังแปลก ๆ ใหม่ ๆ นอกกระแสดู ก็มีตัวเลือกไม่มากนัก และแม้คนส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับการไล่ปราบปรามเว็บเถื่อนละเมิดลิขสิทธิ์เหล่านั้น แต่ก็ต้องการความชัดเจนจากรัฐบาล ซึ่งมีโจทย์สำคัญคือทำอย่างไรให้ทุกคนยินดีหันมาดูหนังลิขสิทธิ์ถูกกฏหมายได้จริงๆ