สัปดาห์ก่อนเพิ่งมีหนังเทศกาลอย่าง Office Christmas Party ลงโรงไป สัปดาห์นี้มาอีก 1 หนังรับเทศกาลคริสต์มาส เข้าฉายพร้อมกับ Sausage Party แอนิเมชั่นสุดจังไรพอกัน เพราะทั้ง 2 เรื่องเป็นผลงานเขียนบทของ โจนา ฮิลล์ ดาราตลกที่คุ้นหน้าคุ้นตากันมาจาก 21 Jump Street (2012) , 22 Jump Street (2014) 2 เรื่องนี้เขาก็ร่วมเขียนบทด้วยเช่นกัน แล้วทั้ง Why Him และ Sausage Party ก็ได้ เจมส์ ฟรานโค รับบทนำและพากย์เสียงทั้ง 2 เรื่อง
Why Him มาในพลอตที่ชวนให้คิดถึง Meet The Fockers (2004) ลูกสาวพาพ่อแม่ตัวเองมาพักผ่อนที่บ้านของครอบครัวแฟนหนุ่ม ทว่ารอบนี้แฟนหนุ่มเป็นเด็กกำพร้าไม่มีครอบครัวแต่ดันเป็นมหาเศรษฐีที่มีพฤติกรรมสุดระห่ำก็เลยใส่มุกลามกกันได้ไร้ขอบเขต เจมส์ ฟรานโค มารับบทเป็น เลเอิร์ด Laird ชื่อประหลาดมาก เศรษฐีหน้าใหม่วัย 32 ที่รวยมาจากธุรกิจ แอป และ เกม บนมือถือ เลเอิร์ดคบหากับสเตฟานี่นักศึกษาสาววัย 22 มาได้ปีนึง ฝ่ายหญิงก็เลยใช้ช่วงโอกาสคริสต์มาสที่พ่อแม่และน้องชายบินมาเยี่ยม ใช้วิธีการแกมบังคับรับพ่อแม่และน้องจากสนามบินแล้วตรงไปบ้านเลเอิร์ดเลย เลเอิร์ดก็เลยใช้ช่วงเวลาสั้น ๆ พยายามเอาชนะใจพ่อตาแม่ยายในอนาคต เขามีแผนการจะขอสเตฟานี่แต่งงานแต่ก็ยังมีมารยาทที่ต้องได้รับความยินยอมจาก เน็ด พ่อที่หวงลูกสาวมากเสียก่อน
Why Him ยาวเกือบ 2 ชั่วโมง ซึ่งนับว่ายาวกว่าหนังตลกทั่วไปที่มักจะจบภายใน 90 นาที กับพลอตที่เบาบางเพียงเท่านี้จึงรู้สึกได้ว่า Why Him มีน้ำมากกว่าเนื้อ จนช่วงกลาง ๆ เรื่องเนิบนาบไปพอควร จอห์น แฮมเบิร์ก อาจารย์ในชีวิตจริงของเจมส์ ฟรานโค ได้มากำกับลูกศิษย์ตัวเองในเรื่องนี้ จอห์น อยู่ในสายหนังตลกมานานแล้ว ผ่านมาทั้งงานกำกับและเขียนบท เรื่องนี้จอห์น ใช้ไอเดียแปลกใหม่ด้วยการปล่อยให้ นักแสดงประยุกต์บทบาทกันเอาเองตามชอบใจทำให้หนังมีหลาย ๆ ฉากที่ลากยาว ๆ ขยี้มุกกันระนาวได้เสียงหัวเราะกันต่อเนื่อง โดยเฉพาะฉากขุ่นแม่บาร์บเมาเหล้าแล้วเกิดอารมณ์พยายามออดอ้อนสามีให้มีอะไรด้วย ที่เป็นไอเดียของ เมแกน มุลแลลลี่ ผู้รับบทบาร์บคิดฉากนี้ขึ้นมาเอง และฉากเน็ดนั่งชักโครกก็เป็นฉากซกมกที่เรียกเสียงหัวเราะได้ยาว ๆ อีกเช่นกัน และดูเหมือนสูตรสำเร็จที่หลายเรื่องใช้กัน กับการพูดถึงวงดนตรีอมตะที่ตัวละครในเรื่องชื่นชอบ แล้วให้วงนั้นโผล่มาโชว์ตัวในช่วงท้าย
บทเลเอิร์ด ของเจมส์ ฟรานโค เรียกได้ว่าเป็นหัวใจสำคัญของเรื่องนี้เลย ด้วยบุคลิกเลเอิร์ดที่สร้างสรรค์ออกมาได้หลุดโลกมาก ลามก พูดจาหยาบคายติด F*** ทุกคำและบทสนทนาก็วนเวียนอยู่กับเรื่องเซ็กส์ตลอด เขาใช้เงินแบบมหาเศรษฐีเป็นว่าเล่น ด้วยบุคลิกสุดเพี้ยนของเลเอิร์ดทำให้หนังมีช่องทางในการสอดแทรกมุกเข้าไปได้มาก ทั้งรสนิยมทางด้านงานศิลป์ที่เขาสะสม เมนูอาหารประหลาด ๆ และได้กุสตาฟ ผู้จัดการส่วนตัวคนสนิทที่ทำหน้าที่คอยรับส่งมุกกันได้ดี อีกตัวที่ต้องพูดถึงคือ “จัสติน” โปรแกรมเลขาส่วนตัวอัจฉริยะที่อยู่ในทุกซอกทุกมุมของบ้าน ได้แคลี่ คูโอโค ดาราจากซีรีส์ Bigbang Theory มาให้เสียงเป็น จัสตินทำหน้าที่เรียกเสียงหัวเราะได้ทุกครั้งที่ออกมา ไบรอัน แครนสตัน ดารารุ่นใหญ่ที่มาดังเอาตอนแก่เพราะบทนำใน Breaking Bad ซีรีส์สุดฮิต มารับบท “เน็ด” คุณพ่อที่รักและหวงลูกสาวมาก ลีลาการแสดงออกทางสีหน้าชวนให้นึกถึง โรเบิร์ต เดอนีโร มาก ถ้าหนังเรื่องนี้สร้างก่อนหน้านี้สัก 10 ปี ก็คงได้เดอนีโร มารับบทเป็นแน่ ส่วนบทสเตฟฟานี่ ลูกสาวคนสวยก็ได้ โซอี้ ดัทช์ มารับบทเธออายุ 22 เท่ากับบทสเตฟฟานี่เลย โซอี้เป็นดาราสาวที่หน้าตาน่ารักเข้าวงการมาหลายปีแล้ว ได้บทนำใน Vampire Academy (2014) มาแล้วแต่โชคร้ายที่หนังแป้ก ก็เอาใจช่วยไปนะอายุยังน้อย ยังมีโอกาสอีกมาก
ด้วยความที่เป็นหนังเทศกาล จะให้ขำกันแบบไร้สาระก็ไม่เหมาะ Why Him จึงมีสาระข้อคิดสอดแทรกอยู่มาก ทั้งเรื่องความรักความเข้าใจระหว่างพ่อและลูกสาว การที่ต้องเปิดใจพิจารณามนุษย์ประหลาด ๆ อย่างเลเอิร์ด ที่สุดท้ายเขาก็มีส่วนดีแสดงให้เห็น และการอ้างถึงสถานการณ์จริงของเศรษฐกิจปัจจุบัน การล่มสลายของอุตสาหกรรมเก่าอย่างโรงพิมพ์ และการเข้ามาแทนที่ของธุรกิจสิ่งพิมพ์ออนไลน์ ที่เน็ดจำเป็นต้องเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของเด็กรุ่นใหม่และปรับตัวตามสถานการณ์โลก ก็ถือว่าเป็นหนังตลกส่งท้ายปีที่มีสาระสอดแทรกเกินคาด เพียงแต่ว่าทั้งหมดทั้งหลายดำเนินอยู่บนเส้นเรื่องที่เขียนไว้บาง ๆ เปิดช่องไว้ตรงนั้นนิดตรงนี้หน่อยให้สอดแทรกสาระพันมุกลงไปได้เท่านั้น ได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นหนังที่เรียกเสียงหัวเราะได้มากเรื่องหนึ่ง แต่ก็ไม่ถึงขั้นน่าจดจำ และไม่ถึงขั้นที่จะบอกว่า”ไม่ควรพลาด” มองแต่ละเรื่องที่เข้าโปรแกรมฉายขณะนี้โรงหนังช่วงนี้คงมีแต่ F**** เต็มโรงหนังไปหมดเนอะ