สวัสดีปีใหม่ผู้อ่านทุกท่านครับและขอบคุณที่ติดตามกันมา เข้าสู่ปีที่ 2 ของแบไต๋ไลฟ์สไตล์แล้วนะครับ กับพื้นที่ภาคบันเทิงในเว็บ beartai.com ที่วันนี้ทีมงานรีวิวหนังของเราขยับขยายขอบเขตของบทความ “รีวิวหนัง” ได้ครอบคลุมทุกค่ายทั้งหนังไทยและเทศได้ “เกือบ” ครบทุกเรื่องที่เข้าฉายในแต่ละสัปดาห์ และมั่นใจว่าปี 2560 หน้าแบไต๋ไลฟ์สไตล์จะมีบทความรีวิวของหนังทุกเรื่องก่อนเข้าฉายในสัปดาห์นั้น ๆ และหวังว่าทรรศนะจากผู้เขียนของแบไต๋ไลฟ์สไตล์จะสามารถเป็นตัวช่วยสำหรับผู้อ่านหลายท่านในการเลือกชมหนังในแต่ละสัปดาห์ได้บ้างนะครับ ตลอด 2 ปีที่ผ่านมาทีมงานเราอ่านคำแนะนำจากผู้อ่านและพยายามปรับปรุงเนื้อหาในบทความอยู่เสมอ โดยเฉพาะเรื่องสปอยล์ที่จะไม่ให้มีมากกว่าที่เห็นกันในตัวอย่างหนังโดยเด็ดขาดแบบไม่ต้องขึ้นคำเตือนกัน เพราะในฐานะคนเขียนก็ไม่ชอบที่จะโดนสปอยล์ก่อนชมเช่นกัน

มั่นใจว่าปี 2560 หน้าแบไต๋ไลฟ์สไตล์จะมีบทความรีวิวของหนังทุกเรื่องก่อนเข้าฉายในสัปดาห์

ปี 2016 มีหนังเข้าฉายหลายร้อยเรื่อง แล้วเราก็คัดออกมาได้ 10 เรื่องที่ทีมงานเราได้ดูกันก่อนวันที่ 15 ธันวาคม นี้ และเห็นพ้องต้องกันที่สุดแล้วทั้งฝั่งที่ชอบและไม่ชอบ มีคละกันไปทั้งหนังคนแสดง และอนิเมชั่น ทั้งฮอลลีวู้ดและหนังไทย บางเรื่องอาจจะตรงใจท่าน หรืออาจจะตรงกันข้ามก็ลองอ่าน ความเห็นสั้น ๆ จากทีมงานดูครับ เผื่อว่าหนังโปรดของทีมงานจะเป็นหนังที่ท่านพลาดไปในปีที่ผ่านมา แล้วจะได้ลองไปหามาชมกัน หรือบางเรื่องอยู่ในลิสต์ที่วางแผนว่าจะชม แต่ไปอยู่ในลิสต์ที่ทีมงานไม่ชอบก็จะได้เผื่อใจไว้ก่อนชมนะครับ

10 หนังโปรดของเหล่าทีมงาน

Your Name

ปกติแล้วงานแอนิเมชันญี่ปุ่นมักจะถูกมองอยู่กลายๆ ว่า เป็นงานที่ดูได้เฉพาะกลุ่ม แต่ใน Your Name เป็นแอนิเมชันที่มีเนื้อหาไม่แบน มีมิติในการเล่าแบบสไตล์หนังญี่ปุ่น งานภาพที่สวยโดดเด่น เนื้อหาเข้าใจง่าย และครอบคลุมกับคนทุกวัยไม่เขินอายที่จะตีตั๋วเข้าไปดูการ์ตูนเรื่องนี้ พล็อตเรื่องที่มีกาลเวลาเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้การตามหาตัวตนของพระนางมีอรรถรส การเดินเรื่องและปิดท้ายในแบบที่ไม่มากไม่น้อย จงใจทิ้งให้คนดูตีความต่อ แต่ส่งผ่านความรู้สึกบางอย่างซึมลึกไปในจิตใจ เป็นความรู้สึกอิ่มเอมยินดีปะปนกับความเศร้านิดๆ อยู่ในที

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Your Name

Sing Street

เป็นหนังเพลงที่ไม่มีเส้นเรื่องซับซ้อน ดูง่ายทุกเพศทุกวัย ให้ความสุขและจุดไฟในใจยามก้าวเดินออกมาจากโรง แต่จุดน่าสนใจของมันอยู่ที่ความฉลาดในการเล่าเรื่องง่ายๆ แบบนี้ให้มันมีของ โดยเฉพาะการเลือกใส่ประเด็นมุมมองต่างๆ เข้ามาในหนังให้คนดูรู้สึกอินนั้น ทำได้ลงตัว จังหวะจะโคนยอดเยี่ยม เพลงประกอบเพราะพริ้งติดหู ที่มาที่ไปของเพลงกับแรงบันดาลใจจากตัวเอกของเรื่องมีจุดที่น่าค้นหา เป็นจุดขับเคลื่อนหนังให้ยิ่งน่าดู และที่สำคัญเลยคือ ตัวหนังทำได้ดีมีครบทุกรสและส่วนผสมในการ cast นักแสดงที่รับ-ส่งบทได้กลมกล่อม บวกกับ performance ที่ไหลลื่นของนักแสดง ยิ่งขับให้ Sing Street ตราตรึงใจคนดูส่วนใหญ่ไม่ยาก

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Sing Street

แฟนเดย์

แม้ว่าหากมองย้อนไปเทียบกับงานเก่าของ ผกก. โต้ง บรรจง อย่าง กวนมึนโฮ แล้ว มันอาจยังไปไม่ถึงจุดนั้น แต่ในภาพรวมปฏิเสธไม่ได้ว่าในส่วนของการดีไซน์แคแรคเตอร์ของตัวละคร การเดินเรื่องและไปบรรจบจุด climax แบบดรามาที่ยังทำได้เยี่ยม ผสมผสานกับโทนเรื่องที่ยังรักษาความเป็นหนัง GTH ทำให้สามารถมองข้ามปมบางอย่างที่หนังผูกไว้ไม่สมเหตุสมผลไปได้ไม่ติดขัด ความไม่สมบูรณ์แบบในการทิ้งคำถามไว้ให้คนดูคิด ไปจินตนาการต่อ การขยี้เมสเซจที่บอกเล่าถึงสิ่งที่เป็นไปได้เพียงแค่ในความฝันแบบนั้น มันกลายเป็นเสน่ห์ที่ทำให้คนดูรู้สึกอินไปกับเรื่องได้ตลอดทาง

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ แฟนเดย์

Zootopia

ไม่ใช่กระต่าย ไม่ใช่หมาจิ้งจอก ไม่ใช่สล็อต แต่เป็นม้ามืดสุดๆ ว่าตรงๆไม่มีใครคาดหวังเลยยิ่งหลังความสำเร็จท็อปฮิตของเอลซ่ามาแล้วด้วย แต่แล้วไงล่ะ หนังสนุกเรียกเสียงฮา(ตลก) เสียงฮือ(ลุ้น) เสียงโฮ(ซึ้ง) ยังไม่พอ ยังให้ข้อคิดเกี่ยวกับการเหยียดผิวอีก เกินหน้าเกินเกินตาหน้าความมุ้งมิ้งของตัวละครไปไกล กลายเป็นหนังขวัญใจมหาชนทั้งสายบันเทิง-สายวิจารณ์ไปในที่สุด เชียร์ให้ได้ออสการ์เลยเรื่องนี้

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Zootopia

The Jungle Book

เมาคลีฉบับของผู้กำกับไอออนแมน ที่ใช้ภาพซีจีทั้งเรื่องแต่ไม่มีหลอกตาเลย เนียนมาก สวยมาก เพลินตาสุดๆ และถ้าคิดว่ามีดีแค่พวกภาพ แต่เนื้อเรื่องเดิมๆไม่น่าสนใจล่ะก็ คิดผิดถนัดเลยเพราะหนังมีความเป็นแอ๊กชั่น ดราม่า แอดเวนเจอร์ แถมแฝงปรัชญาให้ฉุกคิดถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกต่างหาก หนังมีความเป็นไลฟ์ออฟไพที่ดูง่ายกว่ามากๆ ถ้ามีรางวัลหนังที่เคยรู้ทั้งเรื่องมาก่อนแล้ว แต่พอดูดันสนุกกว่าที่เคยรู้อีก ก็คงเรื่องนี้ล่ะ

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ The Jungle Book

Fantastic Beasts and Where to Find Them

เรื่องเหนือจินตนาการ งาน Production จัดเต็ม! สนุก ตื่นเต้น ทำ Sound ประกอบให้เรารู้สึกว่าสิงสาราสัตว์เหล่านั้นมีชีวิตในโลกความเป็นจริง ทั้งยังสามารถขยายเรื่องราวจากหนังสือเล่มเล็กบางเฉียบออกมาอลังการใหญ่โตเหนือคำบรรยาย สร้างโลกเสมือนจริงอีกโลกขึ้นมา พาเราลุ้นระทึกกับเหล่าสัตว์แปลก ๆ ทั้งเรื่อง รวมถึงการปรุงยาที่เหล่ามักเกิ้ล (อย่างเรา) หลงใหลรองจากไม้กายสิทธ์ เนื้อเรื่องไม่ได้หวือหวามากเกินกว่าจะเข้าถึง (แอบนึกถึงโทริโกะตอนดูเหมือนกัน) ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีสำหรับคนที่ไม่เคยดู “แฮร์รี่ พอตเตอร์” มาก่อน แสงและภาพทำออกมาได้อลังการตระการตา “เอ็ดดี้” รับบทเป็น “นิวท์” ได้ลงตัวมาก แถมยังพาเราไปเจอวายร้ายผู้เคยถือครองไม้กายสิทธ์เอลเดอร์ คู่กัดตัวฉกาจของ “ดัมเบิ้ลดอร์” สมัยหนุ่ม ๆ รวมทั้งบุคคลที่เคยถูกกล่าวถึงผ่าน ๆ ในหนังสือ แต่ดันโดดเด่นขึ้นมามากในภาพยนตร์ชุดนี้ บอกคำเดียวเหล่ามักเกิ้ลห้ามพลาด !

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Fantastic Beasts and Where to Find Them

The Revenant

หิมะขาวโพลนทั้งเรื่องทำให้คนดูหนาวตัวสั่นไปด้วยกับเหตุการณ์ครั้งนี้ หนังยาวสองชั่วโมงไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับการเดินเรื่องเข้มข้นน่าติดตาม “ลีโอนาโด” ทำให้เราเข้าใจความกดดันของการเอาตัวรอด ทุกอย่างต้องกินได้ ต้องฆ่าได้ ต้องใช้ประโยชน์ได้ กฎของห่วงโซ่อาหารผู้ที่จะอยู่รอดคือจุดสูงสุดเท่านั้น ฉากต่อสู้ที่ดุดัน หนักแน่น เข้าถึงอารมณ์ The Revenant ทำให้อยากโหวตรางวัลออสการ์นักแสดงสมทบให้หมี เนื้อหาในหนังวางตัวละครและปมของพ่อลูกให้ต่างจากเรื่องจริง ทำให้เราได้ลุ้นมากกว่าการมานั่งดูเรื่องเดิม ๆ ตามเนื้อที่รู้อยู่แล้ว การเสียเงินในโรงครั้งนี้คุ้มค่ายิ่งนัก เราจะลืมไปเลยว่า “ลีโอนาโด” เคยรับบท ‘Gastby’ ผู้แสนมั่งคั่งมาก่อน

Green Room

ยกให้เป็นตัวแทนนิยามของคำว่า Thriller หนังชื่อ “ห้องเขียว” คุมโทนสีเขียวที่ไม่มีสิ่งข้องเกี่ยวกับการรักษ์โลก เป็นครั้งแรกที่รู้สึกหม่นหมอง สยองขวัญเพราะสีเขียว ถ้าถามว่าปีนี้หนังเรื่องไหนดูแล้วลุ้นตัวเกร็งที่สุดก็ต้อง ‘Green Room’ นี่แหละ คนละแนวกับคนโรคจิตใน SAW คนละเรื่องกับหนังแนว Haunt กลับออกแนวหนังเรียลที่ดึงคนดูไปร่วมได้ง่าย ๆ เสียมากกว่า เวลาถึงฉากที่นักแสดงแขนเกือบขาดร่อแร่ เห็นชั้นไขมันแบบเหวอะหวะ เห็นหมากัดคนแบบไร้ความปราณี ทำเอาผวาเวลาเจอหมาดุไปพักนึงเหมือนกัน ในโรงได้ยินเสียงผู้ชายร้อง เห้ย ๆ หลายครั้งมาก ตอนดูเผลอจิกเนื้อตัวเองไปเพราะลุ้นมากไม่รู้ตัวจนเป็นรอยเลย บทวางมาดีมีหักหลบเปลี่ยนแผนตลอดเวลา ตอนแรกอาจน่าเบื่อ แต่รับรองไม่เกิน 15 นาที ทุกอย่างจะค่อย ๆ อึมครึม หาทางออกไม่ได้ แอบช่วยตัวละครวางแผนอยู่ในใจ เหงื่อออก คอเกร็ง ขากระตุกกับจังหวะที่ไม่บอกกล่าวท่ามกลางอากาศหนาวในโรงแน่ ๆ คอนเฟิร์ม !

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Green Room

ลูกทุ่งซิกเนเจอร์

ถ้าพิจารณาเฉพาะเรื่องย่อยแต่ละเรื่อง บางเรื่องยังขาดเสน่ห์และเส้นเรื่องยังอ่อนเบาอยู่มาก แต่เมื่อมาอยู่ร่วมกันกลับทำให้หนังดูน่าสนใจมากขึ้น ชื่นชมเจตนารมณ์ของผู้สร้างครับ กับการมองเห็นคุณค่าของเพลงลูกทุ่งอมตะเหล่านี้ หลายเพลงเอากลับมาทำใหม่ได้อย่างน่าสนใจ ดูจบนี่เอา “บอกรักฝากใจ” มาเปิดฟังอีกหลายรอบเลย ชอบการตัดต่อสลับไปมาหลาย ๆ เรื่องได้มีจังหวะจะโคนไม่พาให้สับสนโดยที่แต่ละเรื่องไม่ต้องมาบรรจบกันแต่อย่างใด ชอบการดึงเอาดาราทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่มาผสมรวมกันอยู่ในเรื่องเดียว และด้วยความที่หน้าหนังเน้นขายเพลงลูกทุ่งเก่า ๆ ในยุคนี้ก็เลยขาดแรงดึงดูดจากผู้ชมไป แต่เมื่อได้ดูก็รู้สึกได้ว่าตัวหนังมีความน่ารักอยู่มาก เสียดายที่หนังทำรายได้ไม่ดีนัก

I Am Hero

2559 เป็นปีที่หนังซอมบี้ออกมามาก และหนังที่สร้างจากมังงะก็หลายเรื่องด้วย และส่วนใหญ่แย่ I A m Hero เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่สร้างจากมังงะ แล้วไม่โดนแฟนมังงะด่า เพราะหนังทำออกมาได้สนุก แม้เรื่องนี้จะไม่โด่งดังเป็นที่รู้จักกันมากนัก แม้ผมไม่เคยอ่านมังงะเรื่องนี้แต่ก็ได้หามาดูย้อนหลัง ก็ชื่นชมที่ผู้กำกับเคารพการ์ตูนต้นฉบับดีนะ ฉากสำคัญก็ทำตามหนังสือการ์ตูนช็อตต่อช็อตเลย เป็นการตีความซอมบี้ที่สอดแทรกรายละเอียดลงไปให้แตกต่างได้และน่าติดตาม โดยเฉพาะการคงความสามารถพิเศษตอนเป็นคนของซอมบี้แต่ละตัวไว้ และดึงจุดนี้มาใช้ในฉากไคลแมกซ์ได้อย่างน่าเซอร์ไพรส์ และก็ชอบพัฒนาการของตัวพระเอกแบบค่อยเป็นค่อยไป จากคนที่ดูไม่น่าจะรอดได้กลับกลายเป็นคนเข้มแข็งได้เมื่อสถานการณ์บังคับ ยังหวังว่าจะมีภาคต่ออยู่นะ

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ I Am Hero

10 หนัง ทีมงาน-ไม่ปลื้ม-

The Purge 3

ภาคแรกน่าตื่นเต้น ตกใจ ลุ้นตัวเกร็ง ว่าจะโดนเข้ามาฟันหัวแบะตอนไหน ช่วยใครมาทำไม แล้วจะโดนบุกเข้าบ้านไหมนะ แต่ยิ่งทำภาค 2 แล้ว ต่อด้วยภาค 3 คือไม่ได้มีอะไรเพิ่มเติมจากเดิมเลยแม้แต่น้อย ยังดีที่ภาค 2 มีฉากเกมโชว์เพิ่มขึ้นมาคราวนี้เหมือนเรื่องพยายามหาปมผูกให้มีดราม่าการเมืองและสีผิวในภาค 3 แต่ก็ไม่สามารถจูงให้เรารู้สึกอยากติดตามได้ ตัวเอกของเรื่องก็ยังเป็นผู้ต่อต้านการละเว้นครั้งนี้เหมือนเดิม ไม่มีการหักหลังที่คาดไม่ถึง แถมภาคนี้ก็ไม่ได้มีฉากตามล่าแบบใหม่ ๆ อย่างที่หวังเอาไว้ ยิงก็แค่ยิง แค่มุดหลบ หลบในบ้าน หลบในห้อง ไร้ซึ่งการวางแผนที่ทำให้ว้าว ไม่มีความอึดอัดระหว่างดู เหงื่อไม่ออก มือไม่ชา ขาไม่เกร็ง ไม่ตกใจ แถมเดาง่ายอีกด้วย บอกง่าย ๆ ว่า ดูภาค 1 สนุกสุดแล้ว

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ The Purge

BFG

ชอบ “มาร์ค ไรแลนซ์” แสดงเป็นยักษ์ได้อบอุ่น นุ่มนวล อ่อนโยน สุด ๆ ภาพสวยมาก ๆ จนไม่รู้จะชมยังไง องค์ประกอบดี เพลงเพราะ แสงสวยฉากทุกอย่างเพอร์เฟคต์มาเต็มที่สุด เนื้อเรื่องเข้าใจง่ายมาก ยิ้มตาม มีมุกตลกแทรกบาง ๆ แต่ไม่มีอะไรให้น่าติดตามทั้งนั้น ความจริงเป็นนิทานก่อนนอนดีที่สุด เพราะเล่าไม่ถึงสิบนาทีก็จบ ยอมใจทีมสร้างเรื่องนี้มากที่สามารถยืดออกมาให้เราได้ดูกันเป็นชั่วโมง เด็กน่ารักดี แต่พอฟังเสียงโทนเดียวไม่มีอารมณ์ขึ้นลงนาน ๆ แล้วเบื่อ รวมถึงเรื่องที่เนิบมากมาก ๆ จนรู้สึกว่าถ้านั่งดูที่บ้านคงกด skip ข้ามไปบางส่วนแน่ ๆ แถมหลับไปกลางเรื่องต้องถามคนข้าง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตื่นมาเจอฉากไร้เหตุผลว่าตัดสินใจจะไปพบพระราชินีปุ๊บ แล้วเข้าไปถึงพระราชวังได้ยังไง ไม่แสดงวิธีการเดินทางใด ๆ ทั้งสิ้น แต่อาจเป็นเพราะหวังกับชื่อ ‘สปีลเบิร์ก’ มากไป จากผลงานทุกเรื่องที่เคยติดตามมาเลยทำให้เกิดความรู้สึกแบบนี้ก็เป็นได้

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ BFG

Batman V Superman

หนังเหมือนเอาทุเรียนที่เป็นราชาของผลไม้ V มังคุดที่เป็นราชินีของผลไม้ แล้วก็ใส่ผลไม้ที่ดูน่าจะอร่อยทั้งหลาย แล้วปั่นรวมกัน วาดหวังว่ามันจะต้องอร่อยสุดๆ เพราะใช้แต่วัตถุดิบขั้นเทพ แต่คนทำลืมไปว่าไม่จำเป็นต้องปั่นแค่แกะมาจัดวางใส่จานสวยๆดีๆเท่ๆแบบมีหลักการงามๆมันก็เกินพอแล้ว ใครสงสัยว่าหนังดีร้ายยังไง ลองเอาผลไม้ที่ว่ามาไปปั่นผสมกันแล้วลองเอามาดื่มดูนะครับ นั่นล่ะหนังเรื่องนี้เลย ซึ่งบางคนก็อร่อยนะ (ฮา)

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Batman V Superman

Independence Day 2

ผ่านมา 20 ปีจากภาคแรก หนังพัฒนาไปไกล ไกลมากๆ ทั้งฆ่าดาราแม่เหล็กทั้งหลาย เน้นขายซีจีที่อลังการงานสร้าง เผยเนื้อหาที่ทะเยอทะยานกว่าเดิมมากๆ มีเผ่าต่างดาวอื่นมาช่วยสู้ด้วยนะ แต่ส่วนที่ไปไกลกว่าภาคแรกมากที่สุด คือจากที่ตรรกะออกทะเลกลายไปสู่การออกทางช้างเผือกไปเลย ภาพยานแม่ของพวกต่างดาวที่ใหญ่ขนาดชนโลกทีเดียวก็แตก แต่ดันปล่อยลูกกระจ๊อกลงมาทำสงคราม แล้วก็แพ้ตามคาด คือภาพสะท้อนที่ชัดที่สุดของหนังแล้วล่ะ

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Independence Day 2

ขุนพันธ์

ก่อนดูหนัง ด้วยชื่อผู้กำกับ ด้วยชื่อค่ายใหญ่สุดของไทยด้วยเนื้อเรื่องที่คนไทยรู้จักดี มีฉากแอ๊กชั่นเข้มๆ ขายได้แน่ๆ ดาราก็ระดับท็อปของชาติ ขุนพันธุ์การันตีความสำเร็จของตัวเองไปกว่าครึ่งตัวแล้ว ก่อนฉายกระแสดีมาก มากจริงๆ แต่นั่นคือเรื่องก่อนดูหนังไง หนังล้มเหลวทั้งการสร้างตัวละคร การเล่าเรื่อง ทั้งซีจีและแอ๊กชั่น ที่สำคัญยังดั๊นจะมีภาคสองอี๊ก (เสียงสูง) หนังคงประสบความสำเร็จไปแล้วถ้าจะมีแค่เทรลเลอร์ไม่ต้องมีตัวเต็มออกมาฉายจริงน่ะนะ (ฮา)

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ ขุนพันธ์

Gods of Egypt

จากหน้าหนังเราก็จินตนาการไปถึงหนังไซไฟขายทวยเทพ ที่มาพร้อมกับทัพนักแสดงแม่เหล็กอย่าง เจอร์ราร์ด บัตเลอร์ รวมทั้ง สาวอกสะบึม คอร์ทนีย์ อีตัน กับชุดแต่งองค์ทรงเครื่องและซีจีที่ดูอลังการตามงบฯ สร้าง อย่างไรก็ตาม พล็อตเรื่องต่าง ๆ รวมทั้งแคแร็คเตอร์แบนราบในเรื่องกลับเป็นจุดน่าผิดหวังของหนังเรื่องนี้ ซึ่งหนังเดินทางมายังไม่ถึงครึ่งเรื่องเราก็พอเดาบทสรุปได้ง่ายๆ รวมทั้งการตัดสินใจกระทำของตัวละครที่ขัดแย้งกับนิสัยของตัวเองดื้อๆ ในฉากสำคัญอย่างกับเป็นคนละคน ก่อนหน้านี้ เหตุผลที่มาที่ไปของแต่ละฉากมันยังซัพพอร์ตไม่ถึง ไม่ทำให้เชื่อ การพยายามสอดแทรกแง่คิดต่าง ๆ มันดูยัดเยียด ไม่ลงตัว สิ่งเดียวที่คนดูอาจนึกถึงคือฉากบู๊แอ็คชันที่ใส่กันชนิดไม่ทิ้งช่วงให้คนดูได้หาวเลย

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Gods of Egypt

พริกแกง

เป็นหนังไทยที่มาพร้อมหน้าหนังเกรดพรีเมียมที่ดูน่าสนใจมาก และเกิดความคาดหวังว่าอาจมี potential จะเป็นหนังสัญชาติไทยแห่งปีเรื่องหนึ่งเลย อย่างไรก็ตาม เมื่อเปิดดูสิ่งที่สอดไส้ไว้ กลับคลำเจอจุดบอดใหญ่ที่ ผกก. ไม่สามารถทำให้พริกแกงมี ‘ตัวตน’ ได้ โดยเฉพาะส่วนที่เป็นหนังขายเสน่ห์จากการปรุงอาหารนั้น กลับขาดรายละเอียดที่หนังอาหารควรจะมีอย่างไม่น่าเชื่อ นอกจากนี้ การปะติดปะต่อเนื้อเรื่อง การลำดับความสำคัญในสิ่งที่จะสื่อออกมานั้นล้มเหลว ตั้งแต่การเขียนบท การกำกับเรื่อง มันเป็นเหมือนกระจกสะท้อนให้เห็นถึงมุมมอง ความรู้ ความเข้าใจในวิชาชีพการทำหนังของ ผกก.เรื่องนี้ได้เลย หนังทิ้งคำถามที่ยังไม่ได้ตอบไว้มากมาย ความพยายามจะจุดกระแสความเป็นไทยแต่กลับมีเส้นเรื่องรองรับที่เบาหวิว ไร้ทิศทางชัดเจน อารมณ์มันก็เลยไม่ถึงสักอย่าง แม้ได้นักแสดงรุ่นเก๋าระดับชั้นครูมาเล่นก็เท่านั้น เพราะอยู่ในมือของกลุ่มคนที่ดึงศักยภาพไม่เป็น

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ พริกแกง

Teenage Mutant Ninja Turtle 2

ไม่รู้สึกประทับใจตั้งแต่เวอร์ชั่น 90s แล้ว ผ่านมา 20 กว่าปีกับเวอร์ชั่นปัจจุบัน ก็ยังสัมผัสไม่ได้กับเสน่ห์ของฮีโร่ทีมนี้เลย ไม่เห็นการปรุงแต่งภาพลักษณ์ของเต่าทั้ง 4 ที่ไม่รู้จะเรียกว่าซูเปอร์ฮีโร่ได้หรือเปล่านะ สิ่งเดียวที่เห็นพัฒนาการก็คือซีจีในหนังเท่านั้น “เต่านินจา” ดูจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่ที่เหมาะสำหรับเด็กมากที่สุดแล้ว เส้นเรื่องเรียบง่ายเหมือนดูการ์ตูนทีวีตอนเช้าไม่มีอะไรเกินคาดเดา และนี่คงเป็นเหตุผลที่ “เต่านินจา” ถึงไปไม่ได้ไกลเท่าหนังของมาร์เวล , ดีซี หรือแม้กระทั่งฮาสโบร สิ่งที่น่าดูที่สุดใน “เต่านินจา” เวอร์ชั่นนี้น่าจะเป็น เมแกน ฟอกซ์ แหละครับ

Abattoir

สารภาพว่าดูแผ่นนะครับ แล้วก็คิดว่าถ้าดูในโรงนี่ไม่มั่นใจเลยว่าจะอยู่ได้จนจบเรื่อง เป็นอีกหนึ่งหนังที่มีพล็อตน่าสนใจนะ แต่ทั้งบทและผู้กำกับไม่แข็งพอที่จะขยายเรื่องราวให้ออกมาได้สนุกและน่าติดตาม หนังใช้ดาราโนเนมล้วน ๆ จุดเดียวที่เอามาโฆษณาขายได้คือชื่อของ ดาเรน ลินน์ บูสแมน ผู้กำกับ saw 2-3-4 กลายออกมาเป็นหนังสยองขวัญผสมแฟนตาซีที่ดูงง ๆ และที่สำคัญปีศาจตัวร้ายไม่น่ากลัวเลย ทั้งเรื่องมีการพูดเอ่ยถึงชื่อเจเบไดห์ มาตลอดถึงกิตติศัพท์เป็นการปูทางมาได้น่าสนใจ สร้างความอยากรู้ว่าเขาคือตัวอะไร คนหรือปีศาจ ก็หวังว่าเมื่อปรากฎตัวออกมาจะทำให้หนังน่ากลัวมากขึ้น แต่ตรงกันข้าม เจเบไดห์ ไม่ได้สร้างบรรยากาศน่ากลัวได้เลย แต่ทำให้หนังดูสับสนงงงวยมากขึ้น อย่าได้พลาดไปดูเชียวนะครับ

Skiptrace

ระหว่างดูอุทานว่า นี่มันหนังอะไร เฉินหลงขาลงนี่พาคุณภาพหนังลงมาขนาดนี้เชียวหรือ พล็อตหนังมีแค่เนี้ยจริง ๆ เหรอ ตำรวจจับผู้ร้ายเดินทางข้ามชายแดนแล้วก็เล่นแมวจับหนูพากันหนีการตามล่าจากโจรอีกแก๊ง ผ่านไปหมู่บ้านนู้นนี้นั้น ไม่มีฉากสตันท์ที่ชวนหวือหวาอีกแล้วเพราะสังขารแกไม่ไหวแล้ว และก็ไม่มีฉากที่ฮาได้เสียงดัง ๆ ที่น่าตกใจสุดไม่น่าเชื่อว่านี่คือหนังของ เรนนี่ ฮาร์ลิน ผู้กำกับหนังแอ็คชั่นระดับตำนานที่เคยทำหนังสนุก ๆ มาทั้ง Die hard 2 , Cutthroat Island , Deep Blue Sea ไม่รู้ว่ากว่าเฉินหลงจะรีไทร์เราจะได้เห็นเฉินหลงประกบคู่กับดาราคนไหนอีก หลังจากคริส ทัคเกอร์ มาถึง โอเว็น วิลสัน มาถึงรายล่าสุดอย่างจอห์นนี่ น็อกซ์วิลล์ ที่ไม่สามารถสร้างเสน่ห์น่าจดจำได้อย่างที่ Rush Hour เคยทำไว้ได้ ล่าสุดเฉิน หลง แกก็กลับไปหากินกับของเก่าสานต่อภาคใหม่ทั้ง Rush Hour4 และ ShangHai Dawn ยังจะไหวอีกเร้อ?

อ่านรีวิวฉบับเต็มของ Skiptrace

 

หมดแล้วครับ 20 เรื่อง อาจจะมีหลายเรื่องที่ตรงใจผู้อ่านบ้างนะครับ ตรงไม่ตรงก็ไม่แปลก เพราะการดูหนังเป็นเรื่องของรสนิยมของแต่ละคน บางเรื่องทีมงานยังชอบไม่ตรงกันเลยครับ เราเป็นทีมงานที่รักในการดูหนังและมีทักษะในการเขียนได้ใช้พื้นที่ตรงนี้มาแสดงทรรศนะต่อหนังเรื่องนั้น ๆ เพื่อให้ผู้อ่านได้รับฟังและพิจารณาก่อนเลือกดูแต่ละเรื่อง หรือดูแล้วก็ได้อ่านความเห็นอีกแง่มุมจากทีมงาน ได้รับรู้ข้อมูลที่น่าสนใจในหนังเรื่องนั้น ๆ ขอบคุณที่ติดตามกันมาในปี 2559 พบกันใหม่ในลิสต์ 10 หนังปี 2560 ครับ