ในงานเปิดตัวสตรีมมิง Max เมื่อเดือนที่ผ่านมา ได้มีการเปิดตัวแพลตฟอร์มพร้อมกับสตรีมผลงานใหม่ ๆ ทั้งซีรีส์และโชว์ต่าง ๆ หลายรายการด้วยเช่นกัน หนึ่งในนั้นคือ ‘Harry Potter: Wizards of Baking’ รายการที่จะเชิญคู่หูนักอบขนมมืออาชีพมาสร้างสรรค์การทำขนมตามโจทย์ต่าง ๆ และออกแบบให้เข้ากับธีมของ ‘Harry Potter’ ณ สถานที่ที่ใช้ถ่ายทำภาพยนตร์ ‘Harry Potter’ จริง ดำเนินรายการโดยคู่แฝด เฟร็ด และ จอร์จ วีสลีย์ อย่าง เจมส์ และ โอลิเวอร์ เฟลป์ส 

โดยทีม BT BUZZ มีโอกาสได้ร่วมสัมภาษณ์พวกเขาทั้งสองคนถึงรายการใหม่ และชวนคุยย้อนถึงช่วงเวลาที่น่าจดจำจากการแสดงเป็นคู่แฝด เฟร็ด และ จอร์จ วีสลีย์ ในแฟรนไชส์ ‘Harry Potter’

ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ คุณอยากรับบทเป็นใครใน ‘Harry Potter’ ?

โอลิเวอร์ : ถ้าตอบคำถามตอนนี้ ผมคงตอบว่าเล่นเป็น ‘จอร์จ’ เหมือนเดิม เพราะในการอ่านนิยาย ตัวละครเฟร็ดและจอร์จเป็นตัวละครที่เราคิดถึงและเชื่อมโยงได้มากที่สุดจากการเป็นคู่แฝด 

เจมส์ : ผมก็คงจะตอบคำตอบเหมือนกัน แต่ผมคงอยากจะเปลี่ยนทรงผม เพราะบางครั้งทรงผมมันก็ดูแปลก ๆ 

การแสดงเป็น เฟร็ด และ จอร์จ วีสลีย์ ใน ‘Harry Potter’ มีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพของคุณในชีวิตจริงหรือไม่ ?

เจมส์ : ใช่ครับ มันมีผล เพราะจริง ๆ แล้วผมเป็นเด็กที่ค่อนข้างขี้อาย แต่พอผมได้เล่นบทที่ตัวละครนั้นเป็นคนที่ชอบเป็นจุดสนใจ ชอบเป็นตัวตลกของกลุ่ม มันทำให้ผมต้องปรับตัวและทำสิ่งที่ผมไม่เคยทำ แต่พอได้ทำไปแล้วมันก็สนุกดี และมันช่วยทำให้ผมมีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มขึ้นอย่างมาก และผมก็บอกต่อกับคนอื่นว่าถ้าคุณรู้สึกกลัวอะไรบางอย่าง วิธีง่าย ๆ ก็คือให้ลองเผชิญหน้ากับมันดู คุณอาจจะสนุกกับมันก็ได้ 

โอลิเวอร์ : เริ่มตั้งแต่ตอนที่เราอายุ 14 ปี ในช่วงที่ถ่ายทำ ตอนนั้นเรายังอยู่ในช่วงของการเรียนรู้และทำความรู้จักตัวเอง ผมเลยคิดว่าบทที่เราเล่นนั้นมันส่งผลกับบุคลิกของเราในบางจุด

ประสบการณ์ใดจากแฟรนไชส์ ‘Harry Potter’ ที่พวกคุณจำได้ไม่ลืม ?

โอลิเวอร์ : หนึ่งในความทรงจำที่โดดเด่นที่สุดสำหรับผม คือตอนที่พวกเราได้ไปงานพรีเมียร์ของหนังภาคสุดท้าย (Harry Potter and the Deathly Hallows: Part 2) ที่มีคนหลายหมื่นคนมาร่วมงาน ตอนที่พวกเราอยู่ด้านบนของหอศิลป์ภาพเหมือนแห่งชาติ (National Portrait Gallery) และมองออกไปเห็นผู้คนมากมาย มันทำให้รู้สึกอบอุ่นมาก ๆ ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของผลงานแฟรนไชส์ที่ยิ่งใหญ่และเหตุการณ์ในครั้งนั้น 

เจมส์ : สำหรับผมคือหนังภาคที่ 4 (Harry Potter and the Goblet of Fire) มันเป็นอะไรที่เจ๋งมากที่เราได้เรียนรู้และฝึกการเต้นลีลาศ (Ballroom dance) ซึ่งผมไม่เคยคิดเลยว่าจะได้ทำ แต่มันสนุกมาก ๆ และทำให้เราได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง หนังเรื่องนี้มันคืองานที่ดีที่สุดที่ผมเคยทำมาเลย

ทำไมทั้งคู่ถึงตัดสินใจร่วมโปรเจกต์ ‘Harry Potter: Wizards of Baking’ ?

เจมส์ : รายการประเภทนี้เป็นแนวที่ผมชอบดูกับภรรยาในช่วงคริสต์มาส โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้ของปีอยู่แล้ว ย้อนกลับไปตอนที่ทีมงานติดต่อผมมาเมื่อประมาณ 3 เดือนก่อนการถ่ายทำ โดยมีการถามพวกเราว่าสนใจที่จะเป็นพิธีกรของรายการไหม ซึ่งมันเป็นสิ่งที่พวกเราต้องการทำมาตลอดโดยเฉพาะงานในระดับนี้ ดังนั้นพวกเราจึงตอบตกลงแบบทันที 

โดยในรายการได้มีการใช้วิธีใหม่ ๆ ในการถ่ายทำ ย้อนไปในวันแรกของรายการได้มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันหลากหลายทีมมาก ๆ และในกองถ่ายของพวกเรามีกล้องมากถึง 14 ตัว เพื่อใช้ในการถ่ายทำ เมื่อเทียบกับการถ่ายหนังที่จะมีกล้องแค่ 3 ตัวในแต่ละฉาก ซึ่งการมีกล้องมากถึง 14 ตัวนั้น ทำให้พวกเรารู้สึกกดดันมาก ๆ 

โอลิเวอร์ : โปรดักชันของรายการมันใหญ่อลังการมากจริง ๆ 

ถ้าคุณต้องเลือก ‘ขนมหวาน’ เพียงอย่างเดียวที่จะทานไปตลอดชีวิต จะเลือกเมนูใดและเพราะเหตุใด ?

โอลิเวอร์ : ถ้าเป็นเมนูที่อยู่ในรายการ มีเมนูหนึ่งที่ผมจำได้คือ ‘แอปเปิลครัมเบิล’

เจมส์ : ในตอนแรกของรายการ มีผู้เข้าแข่งขันทำขนมเป็นดีไซน์ของแมงมุมขยับได้ ซึ่งมันเป็นช็อกโกแลตที่มีลักษณะคล้ายเนยถั่ว และเมื่อคุณกัดเข้าไปแล้วมันจะมีรสชาติของเนยถั่วกับช็อกโกแลตที่อร่อยมาก ๆ ผมเลยทานไปเยอะเลย แต่ถ้าเป็นในชีวิตจริง ผมคงเลือกพายที่มีไอศกรีมถั่วแมคคาเดเมียและช็อกโกแลต มันดีมากและทำได้ง่ายด้วย

แพลนวันหยุดช่วงคริสต์มาสของคุณเป็นอย่างไร ? 

โอลิเวอร์ : คริสต์มาสปีนี้ผมมีแพลนที่จะทำขนม ซึ่งครอบครัวของภรรยาผมจะมาที่บ้านในวันคริสต์มาส ดังนั้นสิ่งที่พวกเราจะทำคือไก่งวงและพุดดิง ส่วนขนมหวานเราจะทำพัฟโลวาและต่อด้วยเมนูอื่น ๆ และสิ่งที่พวกเราชอบทำอีกคือการที่เราได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและเพื่อน ๆ ด้วย ซึ่งหลาย ๆ คนในช่วงคริสต์มาสพวกเขาก็อาจหยิบหนังเรื่อง ‘Harry Potter’ มาดูด้วยนั่นเอง

เจมส์ : สำหรับคริสต์มาสของผม เนื่องจากภรรยาของผมมาจากฟินแลนด์ ดังนั้นคริสต์มาสอีฟ (Christmas Eve) ถือเป็นวันที่สำคัญมากในครอบครัวเรา และพวกเราจะทำกิจกรรมครอบครัวกันในคืนนั้น และพอเช้าวันคริสต์มาสผมก็จะพาน้องหมาออกไปเดินเล่น จากนั้นก็ใช้เวลากับครอบครัวและมีเวลาดี ๆ ร่วมกัน เพราะมันเป็นวันที่คุณไม่ต้องทำงาน และก็ได้ใช้เวลากับเพื่อนและครอบครัวอย่างเต็มที่แทน 

‘Harry Potter’ สร้างความเปลี่ยนแปลงในชีวิตของคุณอย่างไรบ้าง ?

เจมส์ : แน่นอนว่า ‘Harry Potter’ เปิดโอกาสหลาย ๆ อย่างในชีวิตให้กับผม เกินกว่าที่ผมคิดเอาไว้มาก มันเป็นจุดเริ่มต้นและงานแรกของอาชีพเรา ผมยังจำได้เลยว่าตอนที่ไปงานพรีเมียร์หนังครั้งแรก มันเป็นประสบการณ์ที่ผมไม่เคยเจอมาก่อน ซึ่งมันบ้ามาก ๆ ผมจำได้ว่ามีคนบอกผมว่า “จำโมเมนต์นี้ไว้นะ นี่มันเหมือนกับการได้รถโรลส์รอยซ์คันแรกในชีวิต คือมันไม่ใช่ทุก ๆ ครั้ง และหนังทุก ๆ เรื่องที่จะได้รับผลตอบรับแบบนี้” ตอนที่ถ่ายทำหนัง เราได้เรียนรู้จากนักแสดงที่มีประสบการณ์มากมาย ทั้งเรื่องการแสดงและการปฏิบัติตัวในกองถ่าย การตรงต่อเวลา การเคารพทุก ๆ คน ไม่ว่าจะเป็น ตากล้อง ทีมเสียง ทุก ๆ คนต่างมีหน้าที่ของตัวเองและเราก็เคารพในสิ่งที่พวกเขาทำ ซึ่งผมก็ยังนำสิ่งเหล่านี้ไปใช้กับงานที่เราทำเสมอ

โอลิเวอร์ : ในส่วนของผม ผมอยากพูดถึงการทำงานในกองถ่าย ‘Harry Potter’ ด้วยเหมือนกัน ทุก ๆ คนนั้นทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดีที่สุด ตอนที่เราถ่ายทำ ‘Harry Potter’ 2 ภาคแรก เราได้เรียนรู้จากนักแสดงรุ่นพี่อย่างมาก มันเป็นการพัฒนาและการเติบโตที่มีอิทธิพลต่อเรามากจริง ๆ และมันคือประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมมาก

หากคุณสามารถพูดกับ เฟร็ด และ จอร์จ วีสลีย์ ได้ ในปี 2024 จะบอกพวกเขาว่าอะไร ?

โอลิเวอร์ : “ไปเปลี่ยนทรงผมเถอะ !” จริง ๆ แล้วการได้เล่นเป็นตัวละครนี้มันเยี่ยมมาก แต่สิ่งเดียวที่ผมจะไม่คิดถึงเลยคงเป็นการย้อมผมทุก ๆ 3 สัปดาห์ให้เป็นสีส้มสด ซึ่งมันก็สนุกดี แต่ที่สำคัญคือพวกเราได้เรียนรู้จากการถ่ายทำว่าตัวละครของเราเป็นที่รักของแฟน ๆ มากแค่ไหน 

เจมส์ : การได้เล่นเป็นตัวละครนี้มันทำให้เราได้สนุกไปกับมัน ผมไม่เคยรู้สึกว่าจะมีวันไหนที่เหนื่อยและท้อมากเกินไปเลยเมื่อเทียบกับงานอื่น ๆ มันมีความสุขมากจริง ๆ ที่ได้บอกว่าครั้งหนึ่งพวกเราเคยรับบทเป็น เฟร็ด และ จอร์จ วีสลีย์ 

รับชม ‘Harry Potter: Wizards of Baking’ ได้ทาง Max