ในงาน Golden Globes 2025 เดมี มัวร์ (Demi Moore) เจ้าของบท อลิซาเบธ สปาร์กเกิล (Elisabeth Sparkle) จากหนังเรื่อง ‘The Substance’ ได้รับรางวัลนักแสดงภาพยนตร์หญิงยอดเยี่ยม ประเภทตลก/มิวสิคัล

มัวร์ ในหนัง ‘The Substance’

มัวร์โลดแล่นอยู่ในฮอลลีวูดมายาวนานกว่า 45 ปี และนี่คือครั้งแรกที่เธอได้รับรางวัลจากการเป็นนักแสดง เธอกล่าวบนเวทีขณะขึ้นรับรางวัลว่า

เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ฉันเคยถูกโปรดิวเซอร์คนหนึ่งพูดว่า ฉันเป็น นักแสดงป็อปคอร์น (Popcorn Actress) ซึ่งในตอนนั้นมันทำให้ฉันรู้สึกว่ารางวัลนี้เป็นสิ่งที่ฉันไม่สมควรได้รับมัน ฉันสามารถแสดงภาพยนตร์ให้ประสบความสำเร็จและทำเงินได้มหาศาล แต่ฉันกลับไม่ได้รับการยอมรับ จนฉันเชื่อไปแล้วว่าฉันไม่สมควรได้รับมัน มันกัดกินฉันเป็นเวลานานมาก จนบางทีฉันก็คิดว่านี่อาจเป็นฉันในแบบที่ดีที่สุดแล้วก็ได้ และพอถึงจุดที่ต่ำที่สุดแล้ว จู่ ๆ ก็มีบทภาพยนตร์ที่ทั้งวิเศษ กล้าหาญ แหวกแนว และบ้าระห่ำสุด ๆ โผล่ขึ้นมาอยู่บนโต๊ะของฉัน และนั่นคือหนังเรื่อง ‘The Substance’

จักรวาลบอกกับฉันว่า ‘เธอยังไม่ถึงจุดสิ้นสุด’ และฉันต้องขอบคุณ กอราลี (กอราลี ฟาร์ฌาต์ – Coralie Fargeat) เป็นอย่างมาก ที่ไว้วางใจฉันให้เข้ามารับบทนี้ พร้อมทั้งยังได้เล่นคู่กับ มาร์กาเร็ต (มาร์กาเร็ต ควอลลีย์ – Margaret Qualley) ซึ่งเธอเป็นเหมือนอีกครึ่งหนึ่งของฉัน ถ้าไม่มีเธอคอยดูแลฉัน ฉันไม่สามารถทำมันได้สำเร็จแน่ รวมทั้งทุกคนที่อยู่เคียงข้างฉันมาโดยตลอด 30 ปี ที่คอยอยู่เคียงข้างฉันและเชื่อใจฉันในวันที่ฉันไม่เชื่อในตัวเอง

ในช่วงที่เราคิดว่า เราไม่ฉลาดพอ สวยพอ ผอมพอ ประสบความสำเร็จมากพอ หรือมีพื้นฐานที่ไม่มากพอ แต่เคยมีผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับฉันว่า ‘จงรู้ไว้ว่า เราไม่มีวันรู้สึกว่าตัวเองดีพอหรอก แต่คุณสามารถรู้ซึ้งถึงคุณค่าในตัวเองได้ เพียงแค่คุณวางไม้บรรทัดที่วัดนั่นลง’ ดังนั้นในวันนี้ฉันจึงอยากที่จะเฉลิมฉลองให้กับเครื่องหมายความสมบูรณ์ของฉัน ฉันถูกผลักดันด้วยความรักและสำหรับของขวัญชิ้นนี้ที่ได้มาจากการทำสิ่งที่ฉันรัก จะคงคอยย้ำเตือนว่าฉันได้เป็นส่วนหนึ่งกับมันแล้ว ขอบคุณค่ะ

จากคำที่มัวร์ได้กล่าวบนเวทีนั้น ทำให้หลาย ๆ คนอาจสงสัยไปตาม ๆ กันว่า Popcorn Actress หรือ นักแสดงป็อปคอร์น จริง ๆ แล้วคำนี้หมายถึงอะไร ? Popcorn Actress ใช้เปรียบเทียบนักแสดงที่เล่นหนังที่ประสบความสำเร็จ และสามารถสร้างรายได้มหาศาล แต่ฝีมือการแสดงของนักแสดงคนนั้นกลับไม่ได้รับการยอมรับ

ย้อนกลับไปในช่วงยุค 90s ถือเป็นยุคทองของเธออย่างแท้จริง มีผลงานที่โด่งดังมากมาย อาทิ ‘Ghost’ (1990), ‘A Few Good Men’ (1992), ‘Indecent Proposal’ (1993) รวมถึง ‘Striptease’ (1996) ผลงานที่ทำให้เธอกลายเป็นหนึ่งในนักแสดงหญิงที่มีค่าตัวสูงมากที่สุดถึง 12.5 ล้านเหรียญ หรือประมาณ 431 ล้านบาท

มัวร์ ในหนัง ‘G.I. Jane’

แต่หลังจาก ‘G.I. Jane’ (1997) กระแสของมัวร์ก็เริ่มอยู่ในช่วงขาลง ถึงขั้นที่ช่วงหนึ่งเธอเคยได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัล Razzie Awards มาแล้วถึง 6 ครั้ง และได้รับรางวัลสาขานักแสดงนำหญิงยอดแย่ไป 2 ครั้ง นอกจากนี้เธอยังเคยได้เข้าชิง The Stinkers Bad Movie Awards อีก 3 ครั้ง ทำให้ในปี 1997 มัวร์ได้ตัดสินใจที่จะหายไปจากวงการ หยุดการแสดงและกลับไปเลี้ยงลูกสาวทั้ง 3 คน (ลูกสาวกับอดีตสามี บรูซ วิลลิส – Bruce Willis)

มัวร์กลับมารับงานแสดงอีกครั้ง ช่วงยุค 2000s เช่น ‘Charlie’s Angels: Full Throttle’ (2003), ‘Mr. Brooks’ (2007), ‘Margin call’ (2011), ‘Love Sonia’ (2018) แต่ผลงานที่ทำให้เธอลบภาพการเป็น Popcorn Actress ได้แบบหมดจด คือหนังเรื่อง ‘The Substance’ (2024) ที่ประสบความสำเร็จทั้งด้านรายได้และคำวิจารณ์ จนทำให้เธอสามารถคว้ารางวัลนักแสดงภาพยนตร์หญิงยอดเยี่ยมนี้มาได้ และส่งผลให้ในอนาคตเธออาจมีสิทธิ์ลุ้นเข้าชิงรางวัล Oscars 2025 ก็เป็นได้ แต่อย่างไรก็ตาม นี่ถือเป็นหนึ่งในการพิสูจน์ตัวเองของมัวร์แล้วว่า เธอนั้นอาจไม่ได้เป็นแค่ ‘นักแสดงป็อปคอร์น’ อีกต่อไป