ริดลีย์ สก็อตต์ (Ridley Scott) ผู้กำกับเรื่อง ‘Gladiator II’ ได้ไปร่วมรายการ Directors Roundtable ของ The Hollywood Reporter รายการที่จับผู้กำกับมากฝีมือซึ่งมีผลงานเด่นในปีนั้น ๆ มานั่งสนทนาร่วมกันในประเด็นต่าง ๆ โดยผู้ร่วมรายการในปีนี้มีทั้ง เดอนี วีลเนิฟว์ (Denis Villeneuve), แบรดี คอร์เบ็ต (Brady Corbet), กอราลี ฟาร์ฌาต์ (Coralie Fargeat), ราเมลล์ รอสส์ (RaMell Ross) และ เอ็ดเวิร์ด เบอร์เกอร์ (Edward Berger)


โดยในช่วงหนึ่งของรายการนี้ สก็อตต์ได้เล่าถึงเรื่องราวของเขาสมัยที่ทำหนังเรื่องแรกอย่าง ‘The Duellists’ (1977) ให้แต่ละคนฟังว่าเมื่อก่อนนั้นมีการคอร์รัปชันเกิดขึ้นในวงการภาพยนตร์ โดยเขาเล่าว่า

พวกคุณอยากฟังเรื่องราวเกี่ยวกับเทศกาลหนังเมืองคานส์ไหม ? ตอนนั้นผมทำหนังเรื่องแรกในงบประมาณ 8 แสนเหรียญ (27 ล้านบาท) ชื่อ ‘The Duellists’ อยู่ แล้วตอนนั้น เดวิด พัตต์นัม (David Puttnam) ที่เป็นโปรดิวเซอร์ ก็เดินมาบอกกับผมว่าเขาต้องการให้หนังของเราเป็นตัวแทนไปเทศกาลหนังเมืองคานส์ของประเทศอังกฤษ ผมก็แบบ ‘ว้าว เยี่ยมเลย’

ภาพจาก ‘The Duellists’ (1977)

ตอนที่ผมอยู่ในงาน ก็มีชายคนหนึ่งซึ่งเป็นคณะกรรมการของงานและหนึ่งในผู้กำกับเบอร์ใหญ่ของอเมริกา เดินเข้ามาคุยกับผมว่า ‘ผมโคตรรักหนังของคุณเลยนะ แต่ปัญหาคือทางคณะกรรมการเราได้รับเงินใต้โต๊ะจำนวน 5 หมื่นเหรียญ (1,700,000 บาท) มา เพื่อให้ลงคะแนนให้กับหนังเรื่องอื่นน่ะสิ’ โดยเขาพูดต่อว่า ‘ผมจะสร้างรางวัลให้คุณเอง’ (โดยสก็อตต์ได้รางวัลภาพยนตร์หนังเรื่องแรกยอดเยี่ยมจากเวทีนี้ไป) แต่ผมไม่ได้รางวัลปาล์มทองคำนะ

ภาพจาก ‘The Duellists’ (1977)

ที่มันตลกก็คือ คนที่ได้รางวัลปาล์มทองคำไป ดันไม่ใช่คนที่ยัดเงินให้กับพวกเขาน่ะสิ รางวัลนี้มันกลับไปตกอยู่ในมือของสองพี่น้องทาวีอานี (Taviani Brothers) จากหนังเรื่อง ‘Padre Padrone’ (1977) แทน ซึ่งแน่นอนว่าพวกเขาสมควรได้รับรางวัลนี้ เพราะหนังของพวกเขามันเจ๋งจริง ๆ และผมก็ได้แต่คิดว่า ‘ในวงการระดับนี้ แ-่งยังมีการคอร์รัปชันอีก’


ถึงแม้ว่าในครั้งนั้นสก็อตต์จะไม่ได้รับรางวัลปาล์มทองคำไป แต่ในเวลาต่อมาเขายังคงพัฒนาผลงานมาอย่างต่อเนื่อง จนสามารถคว้ารางวัลจากเวทีอื่น ๆ ไปได้ เช่น ‘Gladiator’ (2000) ซึ่งคว้ารางวัลภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานออสการ์ ครั้งที่ 73 มาได้ จนกลายเป็นหนังระดับขึ้นหิ้งของเขาไป