เป็นอีกรีวิวนึงที่ต้องเขียนด้วยความระมัดระวังมาก เพราะจะต้องกล่าวถึงเนื้อเรื่องให้น้อยที่สุด เพราะเป็นหนังที่เส้นเรื่องมีจุดพลิกผันกลับไปกลับมาตลอดเวลา นึกว่าไคลแมกซ์แล้วจบ แต่แล้วก็มีอีกเปลาะให้แก้แล้ว แก้อีก ต่อไปยาว ๆ เอาว่าพลอตสั้น ๆ คือตัวพระเอกของเรื่องคือ หมอฮัน ซูฮยอน น่าจะวัยใกล้ ๆ 60นะ เป็นหมอที่เก่งมากมีน้ำใจ ไปช่วยรักษาคนไข้ในกัมพูชา แล้วคนไข้ชราก็ให้ยาวิเศษกับเขามา 10 เม็ด เมื่อกินแล้วสามารถย้อนไปแก้ไขเรื่องที่ค้างคาใจในอดีตได้ ไปได้ครั้งละ 20 นาที หมอฮันกินเม็ดแรกแล้วเขาก็ย้อนไปเจอตัวเองเมื่อ 30 ปีก่อน ปี 1985 เป็นช่วงที่หมอฮันรักอยู่กับ ยอนอา คนรักที่ใกล้จะร่วมหอลงโรงกัน หมอฮันแก่บอกกับหมอฮันหนุ่มว่า อีกไม่นานยอนอา กำลังจะตายนะ ทั้งคู่ต้องช่วยกันช่วยชีวิตไม่ให้ยอนอาตาย แต่ถ้าเขาช่วยยอนอาได้สำเร็จนั่นก็หมายถึงอีก 1 ชีวิตสำคัญในอนาคตของหมอฮันจะอันตรธานไปเช่นกัน
หนังตั้งโจทย์มาได้ยากดี ชวนให้คนดูคิดตามว่าตัวละครจะแก้ปัญหาอย่างไร แต่พอแก้ได้โจทย์นึง โจทย์ใหม่ก็มาอีก แก้อีกก็มาอีกหลายขั้นมาก ควรดูไปเอาใจช่วยไปไม่ต้องเดาตามเลย หนังมีต้นทุนมาดีเพราะสร้างมาจากนิยายขายดีของ กีโยม มุสโซ นักประพันธ์ชาวฝรั่งเศส นิยายต้นฉบับใช้ชื่อว่า “Seras-tu la? ” เป็นภาษาอังกฤษก็คือ Will You BeThere? ตีพิมพ์ในปี 2006 ตัวนิยายขายดี ขึ้นอันดับต้น ๆ ใน 30 ประเทศ มีผู้สร้างจากหลายประเทศติดต่อขอซื้อลิขสิทธิ์ไปสร้างภาพยนตร์ แต่กีโยม ค่อนข้างหวงนิยายตนเองเลยไปปฎิเสธไปหมด แต่เกิดถูกใจกับทีมงานจากเกาหลีที่ดูมีความมุ่งมั่นตั้งใจเข้าตากีโยม เลยได้รับสิทธิ์ไป
หนังมีจุดที่ผมชื่นชมอยู่มาก อย่างแรกคือการคัดเลือกตัวแสดงที่มาเล่น 2 ช่วงวัย ทั้งตัวหมอฮัน , ยอนอา และแทโจ เพื่อนสนิทของหมอฮัน ที่เลือกมาได้ดีทั้งหน้าตาและบุคลิกที่ดูแล้วใช่ว่านี่คือคนเดียวกันในเวลาห่างกัน 30 ปี นักแสดงก็ทำการบ้านมาดี ด้วยการใช้เวลาคลุกคลีอยู่ด้วยกันเพื่อซักซ้อมท่าทางบุคลิกให้ออกมาเหมือนกัน
ด้านตัวเส้นเรื่องก็เดินหน้าไปได้อย่างสนุกน่าติดตาม เพราะมีเรื่องความเป็นความตายมาเป็นเงื่อนไข แต่ก็ยังมีมุกที่ทำงานได้ผลมาแซมอยู่เนือง ๆ ชอบวิธีการสื่อสารของหมอฮันจากอดีตถึงหมอฮันอนาคตที่คิดวิธีได้ฉลาดและน่าขัน แม้ว่าเรื่องราวความรักที่เล่นกับการเดินทางข้ามเวลาจะไม่ใช่ของแปลกใหม่ในหนังเกาหลี เพราะมีหนังขึ้นหิ้งอย่าง Il Mare (200) และ Ditto (2000) ที่อยู่ในความทรงจำคนดูอยู่แล้ว แต่ Will You BeThere? ก็ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ทำออกมาในจุดที่ใกล้เคียง 2 เรื่องก่อนหน้าอย่างน่าพึงพอใจแม้ไม่น่าจะถูกพูดถึงในระยะยาวเท่า แต่ Will You Be There ก็มีจุดเด่นที่ไม่น้อยหน้าก็คือความพลิกผันของเส้นเรื่อง ที่พลิกไปมาหลายตลบ เกินคาดเดา เป็นดราม่าเกาหลีที่ไม่อืดและชวนติดตามได้ตลอด 110 นาที และไม่ต้องห่วงนะครับ หนังไม่เศร้าไม่มีฉากขยี้จิตใจถึงขั้นต้องเตรียมซับน้ำตาในโรง ส่วนหนึ่งก็เพราะหนังเน้นหนักไปกับตัวหมอฮันทั้งในอดีตและปัจจุบันมากกว่าเรื่องความรักของหมอฮันและยอนอา ซ้ำยังต้องกระจายบทให้กับตัวละครอื่นอีกมากมาย
อีกจุดที่ประทับใจเป็นการส่วนตัวคือ แซ ซอจิน นางเอกหน้าใหม่แจ้งเกิดมาจากซีรีส์ Over the Rainbow ซอจินสวยมากในหลาย ๆ มุม แต่ฝีมือการแสดงยังไม่เห็นเท่าไหร่นะ เพราะบทไม่ได้เปิดโอกาสให้เธอโชว์อะไรมากนัก ทีผิดคาดมากคือตัว คิม ยุนซอค ใครที่เคยดูหนังเกาหลีบ่อย ๆ จะต้องคุ้นหน้าเขาแน่นอน เพราะส่วนใหญ่คิม จะเล่นแต่หนังแอ็คชั่นโหดเดือด เรื่องนี้เปลี่ยนลุคมาเล่นหนังดราม่าโรแมนติกซะงั้น ส่วนหนึ่งที่ต้องคู่กับหนังโรแมนติกก็คืองานภาพสวย ๆ เรื่องนี้ก็สวยครับ ชอบมุมหน้าบ้านหมอฮันมาก เป็นบ้านที่น่ารักมีต้นไม้ออกดอกสวย ๆ ตู้ไปรษณีย์เล็ก ๆ น่ารักให้อารมณ์เป็นบ้านยุโรปเสียมากกว่า ช่วงต้นเรื่องก็มาถ่ายทำในประเทศไทยด้วยแต่สมมติว่าเป็นกัมพูชาเพราะขออนุญาตนานมาก ก็หามุมสูงเห็นแม่น้ำเป็นเส้นสวย ๆ ไหลผ่านป่าทึบ ไม่รู้อยู่ส่วนไหนของประเทศ สวยมาก
Will You BeThere? ออกฉายในประเทศเมื่อธันวาคมปีที่แล้ว ทำรายได้ไม่สวยงามนัก แต่ไม่ถึงกับเจ็บตัวเพราะหนังน่าจะขายสิทธิ์ให้กับต่างประเทศได้อีกหลายประเทศที่มีแฟน ๆ ติดตามนิยายต้นฉบับเรื่องนี้อยู่ หนังสนุก น่ารัก อบอุ่นแต่ไม่เศร้า เหมาะที่จะจูงมือแฟนเข้าไปดูวาเลนไทน์นี้ หนังเปิดรอบพิเศษ 13-15 กุมภาพันธ์ ฉายจริง 16 กุมภาพันธ์ครับ