“ชอบไอเดียนะ แต่เราว่า ถ้าเราปรับทาเกตเป็นอายุ 23 น่าจะดีกว่า..”
“ทำไมถึง 23 บีว่า..”
“อ้าว บีบี ยังไม่ไปอีกหรอ..”
ขณะที่กำลังคุยงานกับพี่ในทีมการตลาดคนหนึ่ง ก็มีพี่อีกคนมาขัดจังหวะพอดีเป๊ะ
“ห้ะ ไปไหนพี่”
“ก็อีเว้นที่พารากอนไง อีเว้น ด่วนน่ะ เราไปเข้าร่วม ยังไม่รู้หรอ”
อ้าว เห้ย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า
ว่ากันว่า การเริ่มชีวิตหลังเรียนจบ ด้วยการทำงานกับบริษัทสตาร์ทอัพนั้น เป็นอะไรที่หนุนการเรียนรู้ของเราได้ดีมาก กระนั้นก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า มีความทุกข์ทน และวุ่นวายอยู่มากเช่นกัน
เอางี้ดีกว่า ไม่ช้า ไม่นาน น้องๆ ปี4 ที่กำลังปั่นโปรเจ็คจบอยู่ ก็กำลังจะจบการศึกษาแล้ว งั้นบีจะมอบความจริงๆ ที่ดุดันให้ฟัง ในโลกสตาร์ทอัพ มาอ่านกันเถิดดด
สตาร์ทอัพไปไว กว่าใจคิด
ไม่ว่าตอนเช้าคุณจะทำงานอะไรอยู่ แต่ตอนบ่ายคุณอาจเริ่มโปรเจ็คใหม่ได้ทันที หรือที่พลิกล็อคก็คือ ไอ้โปรเจ็คก่อนหน้าที่คุณทำอยู่ อาจจะต้องโยกย้าย หรือสลายไป เมื่อไหร่ก็ได้ ทุกอย่างถูกปรับเปลี่ยนได้เสมอ เพราะงี้ไง ถึงได้บอกว่า “สตาร์ทอัพไปไว กว่าใจคิด”
สตาร์ทอัพคือแหล่งเรียนรู้ชั้นยอด
ลืมไปได้เลย ความรู้เดิมๆ ที่เคยได้มาตอนปี 4 เพราะคุณจะได้ความรู้ใหม่ๆ จนอัดท่วมสมอง ไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน คุณจะได้ทำเกือบทุกอย่างในบริษัท จำความรู้สึกกระตือรือร้น กระหายความรู้ช่วงแรกๆ ให้ดีๆ เพราะสักพักมันจะเริ่มกลายเป็นเหนื่อยแทน (เปล่านะ ไม่ได้ขู่)
อยากเสนออะไร พูดไปได้เลย
ข้อดีของสตาร์ทอัพที่เด่นๆ เห็นจะเป็นเรื่องนี้ หากคุณเห็นว่าบริษัทควรมีโปรเจ็คอะไร ควรพัฒนาตรงไหน ก็เดินตรงไปหา ceo แล้วเสนอได้เลย (สตาร์ทอัพส่วนใหญ่จะเป็นแบบนี้ นอกจากคุณโชคร้ายจริงๆ) และโปรเจ็คต่างๆ ของสตาร์ทอัพจะไปไวมาก คุณเสนอไปวันนี้ พรุ่งนี้อาจจะทำได้เลย ไม่ต้องรอขั้นตอนยุ่งยากเหมือนองค์กรใหญ่ๆ
กิจกรรมเอ้าท์ติ้งจัดเต็ม!
นอกจากประสบการณ์ดีๆ แล้ว เพื่อนร่วมงานดีๆ นี่แหละ สำคัญ!! จากประสบการณ์ของบีที่ทำงานร่วมกับสตาร์ทอัพต่างชาติ ทำให้รู้ว่าการคัดเลือกพนักงานนั้น นอกจากจะคัดเยอะแยะ จนได้คนมีความสามารถแล้ว ทัศนคติก็ต้องดีด้วย และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นคน Gen Y ดังนั้นการสื่อสาร การพูดคุยก็ง่าย สบายใจมาก แถมในบริษัทยังมีกิจกรรมเจ๋งๆ อยู่บ่อยๆ อยากทำกิจกรรมสร้างสัมพันธ์อะไร ก็เสนอได้เลย นับเป็นบรรยากาศการทำงานที่มีความสุขมากๆ
โลกกว้างไกล เมื่อใช้ชีวิตกับสตาร์ทอัพ
คุณอาจรู้สึกเหนื่อยจนร่างแหลกสลายไปในบางครั้ง หรือกระทั่งตื่นเต้นประหม่าในบางหน เพราะคุณอาจได้คุยงานกับคนเก่งๆ มากมาย ที่สร้างเนื้อสร้างตัวได้ไว ไปจนถึงบริษัทใหญ่ๆ ทุกคุณต้องไปคุยงานด้วย
นึกสภาพเด็กจบใหม่หมาดๆ ที่ต้องรับสภาพอะไรแบบนี้สิ หมดแรงกันไปข้าง
แต่ว่าที่สุดแล้ว สิ่งที่คุณจะได้ มันก็คือความรู้และประสบการณ์อันล้ำค่า ที่หาที่อื่นได้ยากมากๆ เช่นกัน
ปังงง!!
กองใบปลิวจากสรวงสวรรค์ถูกวางลงตรงหน้าโต๊ะทำงานบี
“สรุป อีเว้น วันนี้บีต้องไปใช่มั้ยพี่”
“ไปๆ กลับ 2 ทุ่มด้วย เก็บของเลย”
เอาหล่ะ ถึงมันจะเหนื่อย จะโหด แต่มันก็สนุก!!! แถมถ้าจัดสรรชีวิตดีๆ ยังมีหนทางที่จะเก็บเกี่ยวอะไรจากสตาร์ทอัพได้อีกเยอะ ดังนั้น ลองสักครั้ง แล้วจะมันส์กับชีวิตหลังเรียนจบ