หนังเกาหลีใต้ทำเงินสูงสุดอันดับ 6 ในปี 2016 ครองอันดับ 1 อยู่ 2 สัปดาห์ติด ลาโรงด้วยตัวเลข 51 ล้านเหรียญในประเทศ กลายเป็นหนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลอันดับที่ 32 ปัจจุบันหนังขายให้ตลาดต่างประเทศไปได้แล้ว 32 ประเทศรวมในไทยด้วย Master เป็นหนังรวมดาราเกาหลีแถวหน้าอย่าง อี บุงฮุน ที่หันไปเอาดีในฮอลลีวู้ด เราได้เห็นหน้าเขาใน Terminator: Genisys (2015) , Red 2 (2013) , G.I. Joe: Retaliation(2012) แล้วก็กลับมาเล่นหนังเกาหลีใต้ก็เรื่องนี้ล่ะ อีกคนก็คือ คัง ดงวอน พระเอกมาแรงที่ปี 2016 มีหนังฮิตถึง 2 เรื่องคือเรื่องนี้และ A Violent Prosecutor ที่ทำเงินสูงสุดในอันดับ 2 ของปี 2016 แต่ไม่มีใครซื้อมาฉายนะ
หน้าหนังแม้จะดูว่าเป็นหนังแอ็คชั่นจริงจัง โดยเฉพาะชื่อไทยของหนังที่ไม่เกี่ยวอะไรกะเนื้อเรื่องสักนิดเลย แม้จะเป็นหนังตำรวจจับผู้ร้ายแต่ก็ไม่ได้เน้นสาดกระสุนกันจริงจัง กลับไปเน้นหนักเรื่องการตามสืบสวนไล่ล่า และลงลึกในขั้นตอนการตามหาหลักฐานมามัดตัวประธานจิน เจ้าของ วัน เน็ตเวิร์ค เครือข่ายแชร์ลูกโซ่ยักษ์ใหญ่ในเกาหลีใต้ ที่มีสมาชิกนับหมื่น แต่เบื้องหลังของประธานจินคือจอมต้มตุ๋นระดับโลก
แผนร้ายของประธานจินอยู่ในสายตาของหน่วยปราบปรามอาชญากรรมทางการเงินที่ต้องการหลักฐานเด็ดมามัดตัวประธานจินและเปิดโปงแผนการชั่วร้ายของเขา แม้หนังจะยาวถึง 2 ชั่วโมงครึ่งแต่กับระยะเวลาขนาดนี้หนังอัดแน่นได้ผิดคาด เดินเรื่องได้เร็วไม่มีเวลาอ้อยอิ่งเพียงสักนาที เริ่มมา 5 นาทีแรก หนังก็แนะนำตัวละครหลักครบถ้วน ผู้กองคิม ลักพาตัวปาร์ค จางกุน มือขวาของประธานคิม มาบีบบังคับให้เป็นสายตำรวจแลกกับโทษสถานเบา เนื้อหาครึ่งแรกได้ลุ้นไปกับการตัดสินใจของปาร์ค ว่าจะยอมสวามิภักดิ์กับประธานคิมต่อไปดี หรือจะยอมตามน้ำไปกับแผนการของผู้กองคิม บทหนังเล่นกับการคาดเดาของคนดูได้ดี สถานการณ์พลิกกลับไปมาได้ทุก 5 นาที
Master ถือได้ว่าเป็นงานที่ประสบความสำเร็จสุดของ โจ อุยซอก เขาอยู่ในวงการมา 15 ปีแล้ว แต่มีผลงานกำกับออกมาเพียงแค่ 3 เรื่อง และ Master ก็เป็นผลงานเรื่องที่ 4 ที่โจ รับหน้าที่เขียนบทเองด้วยและเป็นหนังที่มีบทที่แข็ง ส่งผลให้ Master กลายเป็นหนังที่ดูสนุก มันส์ และมีอะไรมากกว่าหนังแอ็คชั่นธรรมดา เนื้อหารัดกุม ไม่มีช่องโหว่ใหญ่ ๆ ให้รู้สึกตะขิดตะขวงใจ บทหนังเลือกจะละทิ้งปูมหลังของตัวละครทั้งหมดไม่ต้องรู้ว่าใครมาจากไหน ตัวละครมีแต่ดีสุดกับชั่วสุด แต่เลือกใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมงลงลึกไปกับการชิงไหวชิงพริบ ผลัดกันได้เปรียบเสียบเปรียบระหว่าง 2 ฝ่าย
ความสนุกของหนังอยู่ที่แผนการของแต่ละฝ่ายนี่ละครับ ฝ่ายประธานจินนี่ก็รวยล้นฟ้า มีเส้นสายมากมายและเตรียมแผนทางหนีทีไล่ไว้อย่างรัดกุม มีมือขวาอย่าง คิม ออมมา ที่ร้ายพอ ๆ กัน ฝ่ายตำรวจนี่ก็ใช้ทั้งอุปกรณ์ไฮเทค ไส้ศึก และการปลอมตัว แต่ที่สำคัญก็คือไหวพริบและวาทศิลป์ของตัวผู้กองคิมเองนี่ล่ะ หนังจบก๊อกหนึ่งในชั่วโมงแรกในเกาหลีใต้ ยังมีไปต่อก๊อกสองในฟิลิปปินส์อีกในครึ่งหลัง ผู้กองคิมก็ยังไม่ลดละ วางแผนซ้อนแผนตามไปกระชากหน้ากากของประธานคิมอีกรอบ บรรยากาศหนังโดยรวมค่อนเข้างเครียดนะครับ ตัวละครแต่ละคนจริงจังหน้านิ่วคิ้วขมวดกันหมด มีตัวปาร์ค จางกุน เนี่ยละที่คอยยิงมุกแซม ๆ มาให้หนังมีเสียงหัวเราะอยู่บ้าง
ความที่เป็นหนังที่ว่าด้วยเรื่องการเงิน มีศัพท์ทางด้านการเงินอยู่เยอะสำหรับคนที่มีพื้นฐานเรื่องเศรษฐศาสตร์น่าจะเก็บรายละเอียดหนังได้ครบถ้วนกว่า แต่กับคนดูทั่วไปนี่เน้นย้ำเลยว่าให้ตั้งใจดู มีสมาธิกับหนังให้มากแต่ถึงจะตามเนื้อหาเรื่องการเงินไม่ทันก็ดูเข้าใจและสนุกไปกับหนังได้ครับ หนังมีตัวละครเยอะมาก ทุกตัวที่โผล่มานี่สำคัญทั้งนั้นมีผลกับแผนการของทั้ง 2 ฝ่าย รอบที่ผมดูเป็นซาวนด์แทร็คซับไทย หนังมีบทพูดเยอะซับขึ้นเร็วไปเร็ว อ่านให้ทันนะครับ โดยเฉพาะฉากไคลแมกซ์นี่เปลี่ยนเกมกันไปมาเร็วมาก หันไปหยิบขนมก้มดูดน้ำกลับมามองจออีกทีอาจมีงงได้ หนังเข้าฉายแล้ววันนี้ เปิดตัวได้น่าหดหู่มากครับ ฉายเฉพาะในกรุงเทพไม่ทุกโรงด้วย แล้วมีแค่วันละ 2 รอบ จะดูนี่ต้องหารอบกันยากเลย แต่ยืนยันนะครับว่าหนังสนุกจริง