- สร้างสรรค์โดย เดวิด กูเกนไฮม์
- เหมาะสำหรับ ผู้ชื่นชอบซีรีส์ดราม่าการเมืองและระทึกขวัญ ประมาณ 24 เจอกับThe West Wing
- ออกอากาศทาง สตรีมมิ่งครบ 21 ตอนทาง Netflix
จะเกิดอะไรขึ้นหากเกิดเหตุวินาศกรรมรัฐสภาจนคณะรัฐมนตรีทั้งหมดถูกล้างบาง และในยามประเทศปราศจากรัฐบาล คุณคือผู้ถูกเลือกให้รอดชีวิตเพื่อรักษาการณ์ตำแหน่งประธานาธิบดี ท่ามกลางวิกฤติศรัทธาและอันตรายที่แฝงตัวในทำเนียบขาว
ทอม เคิร์กแมน (คีเฟอร์ ซุตเธอร์แลนด์) คือผู้ถูกเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีหลังเหตุวินาศกรรมรัฐสภาท่ามกลางความกังขาจากเจ้าหน้าที่ทั้งทำเนียบขาวและสื่อมวลชน ไม่เพียงเท่านั้นการที่เขาถูกเลือกให้รอดชีวิตครั้งนี้อาจเกี่ยวพันกับผู้ชักใยเหตุวินาศกรรมสะเทือนขวัญครั้งนี้ซึ่งมันอาจยังไม่ใช่จุดสิ้นสุดในเกมการเมืองอันตรายที่ทอมต้องพิสูจน์ตัวเองว่าเขามีดีมากกว่าตัวเลือกเดียวในฐานะผู้นำที่ยังหายใจอยู่ โดยมีเอเจนท์ แฮนนาห์ เวลส์ (แมกกี้ คิว) เจ้าหน้าที่ FBI สาวที่สูญเสียคนรักไปกับซากรัฐสภาที่ไม่หยุดตามหาตัวการบ่อนทำลายชาติในเกมการเมืองลับลวงพรางสุดอันตราย
ชักใยระทึกโดยทีมเขียนบทภาพยนตร์และซีรีส์ระทึกขวัญ
นอกจาก เดวิด กูเกนไฮม์ที่มีเครดิตเขียนบท SAFE HOUSE (2012) และภาคต่อหนังแอ็คชั่นคู่หู Bad Boys For Life (2018) มาควบคุมบทและอำนวยการสร้างแล้วยังได้มือเขียนบทหนังการเมืองตัวเอ้อย่าง พอล เรดฟอร์ด ผู้มีเครดิตเขียนบทและโปรดิวซ์ซีรีส์การเมืองอย่าง The West Wing (1999-2004) ไมเคิล กันน์ ผู้เขียนบทซีรีส์ Newsroom (2012-2013), ดาน่า ลีดูซ์ มิลเลอร์จาก Newsroom (2012-2013) และ Narcos (2015) รวมถึง ซัง กิว คิม ผู้เขียนบทมินิซีรีส์ส่งท้ายตัวละคร แจ็ค บาวเออร์ 24 : Live Another Day (2014) โดยผลลัพธ์ที่ได้คือซีรีส์ระทึกขวัญที่มีทั้งการเชือดเฉือนในเกมการเมืองของทำเนียบขาวและการสืบสวนสอบสวนสุดระทึกที่ทำให้ผู้ชมแทบนั่งไม่ติดเก้าอี้ตลอด 21 ตอน
เมื่อการเมืองสหรัฐอเมริกาแปรรูปสู่บทซีรีส์สุดเข้มข้น
นอกจากความระทึกตามแบบฉบับซีรีส์เนื้อหาตามล่าผู้ก่อการร้ายที่ Designated Survivor มอบให้ผู้ชมแล้ว การนำรายละเอียดเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐอเมริกามาสร้างปมขัดแย้งโดยอ้างอิงข่าวดังทั้ง กรณีการปล่อยข้อมูลลับของเอ็ดเวิร์ด สโนว์เดนท์ หรืออ้างอิงการบุกจับบินลาเดนในอัฟกานิสถานและชนวนก่อสงครามอิรักมาสอดแทรกและเป็นอุปสรรคให้ ประธานาธิบดีจำเป็นของเราต้องฝ่าฟันและพิสูจน์ตัวเองก็ทำให้เห็นว่าสื่อบันเทิงอเมริกันไม่ได้ทำให้การเมืองเป็นเรื่องไกลตัว
นอกจากการนำข้อมูลกฎหมายมาแปลงเป็นอุปสรรคที่ตัวละครต้องเผชิญทั้งข่าวในอดีตที่แสดงความไม่น่าไว้วางใจของตัวบุคคล หรือการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีที่ต้องเลือกสรรบุคคลที่เหมาะสมที่สุดและร่วมอุดมการณ์เดียวกันแล้ว Designated Survivor ยังทำให้ผู้ชมเห็นกระบวนการคัดสรรบุคคลดำรงตำแหน่งผู้นำรวมถึงการเน้นย้ำอุดมคติทางการเมืองอเมริกันที่มุ่งหวังให้ผู้ชมไม่ลืมว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร และ ไม่เพียงเท่านั้นบทซีรีส์ยังสอดแทรกเรื่องราวเกี่ยวกับนักข่าวสายการเมืองผู้กระหายข่าวไปตีพิมพ์โดยไม่สนว่าอาจทำลายชีวิตครอบครัวของใครก็สามารถนำไปสอนวิชาจริยธรรมสื่อให้นักศึกษาวารสารศาสตร์ได้ควบคู่กับซีรีส์ Newsroom หรือหนังคลาสสิกอย่าง All The President Men รวมถึงพาร์ทการทำงานของโฆษกประจำทำเนียบขาวเพื่อฝ่าวิกฤติและรักษาภาพลักษณ์ยังสามารถเป็นบทเรียนประกอบการสอนวิชาประชาสัมพันธ์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
นักแสดงชั้นนำกับการสวมบทบาทได้อย่างน่าเชื่อถือ
สำหรับ คีเฟอร์ ซุตเธอร์แลนด์ นักแสดงนำที่เราคุ้นเคยจากบทเจ้าหน้าที่แจ็ค บาวเออร์แห่งหน่วย CTU จากซีรีส์ 24 ที่มารับบท ทอม เคิร์กแมน ผู้รอดชีวิตที่ถูกลิขิตให้เป็นประธานาธิบดีจำเป็นครั้งนี้ก็ทำหน้าที่ของตัวเองได้อย่างดีทีเดียว โดยไม่เพียงแสดงมาดผู้นำเท่านั้นแต่ยังเพิ่มมิติความกังขาในความสามารถและศรัทธาในภาวะผู้นำของตัวเองจนทำให้ตัวละครสามารถเข้าไปนั่งในใจคนดูได้ไม่ยาก
ในขณะที่นักแสดงสมทบก็ทำหน้าที่มากกว่าไม้ประดับตั้งแต่ นาตาชา แม็คเอลฮอร์น ที่รับบทอเล็กซ์ ภรรยาผู้นำจำเป็นที่เป็นทั้งกำลังใจและผู้เตือนสติให้ ทอมยึดเหนี่ยวก็ทำให้เรารู้สึกอบอุ่นเวลาเธอร่วมจอในยามพระเอกของเราเผชิญวิกฤติ , อดัน แคนโต้ และ อิตาเลีย ริชชี่ รับบท แอรอน ชอร์ และ เอมิลี่ โรดส์ คู่จิ้นแห่งทำเนียบขาวที่มาให้ขาโรแมนติกได้ฟินกันถ้วนหน้า รวมถึง คาร์ล เพนน์ นักแสดงอเมริกันเชื้อสายอินเดียในบท เซธ ไรท์ ผู้ร่างสุนทรพจน์และโฆษกรัฐบาลมือฉมัง ที่ช่วยเติมอารมณ์ขันฉลาดๆให้เรื่องราว แต่ที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ นักแสดงสาวหน้าหมวยสุดเซ็กซี่อย่าง แมกกี้ คิว ในบทแฮนนาห์ เวลส์ ที่ทั้งเท่และเสน่ห์มาเต็มแม้อยู่ในเสื้อเชิ้ตปลดกระดุมบน คอสตูมประจำกายมาตั้งแต่ Live Free Or Die Hard ก็ทำให้เห็นว่านักแสดงเอเชียก็สามารถรับบทที่แสดงให้เห็นถึงไหวพริบ ความชาญฉลาดและอุดมการณ์เพื่อความยุติธรรมและความถูกต้องได้
ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้คุณไม่อาจละสายตาจากซีรีส์การเมืองระทึกขวัญสุดเข้มข้นอย่าง Designated Survivor ได้เลยสักวินาทีเดียว