“เมื่ออดีตและความทรงจําถูกปะติดปะต่อกับปัจจุบัน”
หลังจากที่ Greasy Cafe หรือ เล็ก-อภิชัย ตระกูลเผด็จไกร ทิ้งช่วงห่างจากอัลบั้มที่แล้ว The Journey without Maps มาเป็นเวลากว่า 5 ปี ล่าสุดเขากลับมาอีกครั้งพร้อม “ปะติดปะต่อ” ซิงเกิลแรกจากสตูดิโออัลบั้มลำดับที่ 4 ที่ใช้ชื่อว่า Technicolor
“ปะติดปะต่อ” มาพร้อมกับสำเนียงแฝงแววหม่นเศร้าแต่ลุ่มลึกอันเป็นเอกลักษณ์ของ Greasy Cafe ซึ่งทำหน้าที่แต่งคำร้อง ทำนอง และเรียบเรียงดนตรีด้วยตนเอง ส่วนสิ่งที่เป็นทิศทางใหม่ในงานเพลงของ Greasy Cafe ก็คือท่วงทำนองของเพลงที่มีการใช้เสียงสังเคราะห์จากซินธิไซเซอร์และเสียงแอมเบียนต์เป็นหลัก สะท้อนห้วงอารมณ์แห่งความสับสนวุ่นวายภายในจิตใจ โดยลดบทบาทของเครื่องดนตรีสดชิ้นอื่นๆไป ซึ่งเป็นสิ่งที่แตกต่างจากงานเพลงเก่าๆที่มีความเข้มข้นในสัดส่วนของภาคดนตรีอย่างชัดเจน นับว่าเป็นการเปิดตัวที่น่าสนใจและน่าจับตามองต่อไปว่าเพลงที่เหลือในอัลบั้ม Technicolor นั้นจะเป็นอย่างไร
ถ้าหากความทรงจำต้องการเก็บเราในนั้น
ก็จงอย่าปล่อยให้มันมารบกวนปัจจุบันได้หรือเปล่า
เนื้อหาของบทเพลง ถ่ายทอดห้วงอารมณ์ของความสับสนในชีวิตของคน ในเวลาที่เราได้พบกับการเปลี่ยนแปลงและพยายามที่จะก้าวเดินต่อไปข้างหน้า แต่หลายครั้งเรากลับพบว่ามันเหมือนกับเรากำลังเดินถอยหลังกลับไปยังอดีต คนบางคนเลือกที่จะเดินไปข้างหน้าเพื่อตามหาสิ่งที่ไม่อาจคาดเดาได้ แต่กับบางคนก็อาจเลือกที่จะเดินทางกลับสู่อดีตเพื่อซึมซับมันใหม่อีกครั้ง สิ่งที่เราตามหาอยู่นั้นเป็นเรื่องราวที่จะเกิดขึ้นใน อนาคต หรือมันยังคงเป็นเรื่องราว ความทรงจำเก่าๆ ที่เรายังคงหยิบมาบอกเล่าใหม่ที่บางส่วนใน วันนั้นอาจยังแอบอาศัยอยู่ในวันนี้ การ ‘ปะติดปะต่อ’ เรื่องราว จึงเกิดขึ้น
ส่วนมิวสิควีดิโอนั้นกำกับโดย จีน คำขวัญ ดวงมณี Filmaker รุ่นใหม่ ไฟแรง ที่มีดีกรีแฟชั่นดีไซน์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เธอถ่ายทอดบทเพลงนี้ผ่านเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่เก็บตัวตนและความทรงจำของเขากับคนรัก ผ่านความฝันอันหลากหลายเรื่องราวอันปะปน สับสนไม่รู้ว่าสิ่งไหนคืออดีต สิ่งไหนคือปัจจุบัน สิ่งไหนคือความจริง สิ่งไหนคือความลวง ซึ่งถูกนำมาปะติดปะต่อกลายเป็นเรื่องราวชีวิตและตัวตนของเขาในปัจจุบัน
โดยผีเสื้อในตอนต้นและตอนท้ายของมิวสิควีดิโอนั้นเป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงความฝันอันมีที่มาจาก ความตอนหนึ่งในงานเขียนของ จวงจื่อ ความว่า
ชื่อของอัลบั้ม Technicolor นั้นสื่อถึง ช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านจากภาพขาวดำที่เลือนลางในอดีตอันถูกกลั่นกรองออกมาจากความทรงจำ ที่ถูกนำมาผสมสีแห่งความรู้สึกโดยใช้หัวใจและอาศัยเครื่องมือบางอย่างที่จะช่วยให้มันถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพเสมือนจริงอีกครั้ง ภาพขาวดำจึงกลายเป็นภาพสีที่เจือจางเรื่องราวเหล่านี้จึงถูกร้อยเรียง และบอก เล่าผ่านในอัลบั้ม Technicolor อัลบั้มที่ 4 ของ Greasy Cafe
ซึ่งในอัลบั้มนี้จะมีทั้งหมด 13 เพลง โดยได้เปิดให้พรีออเดอร์แล้วทางเวปไซต์ www.Greasy-Cafe.com ซึ่ง 300 คนแรกที่สั่งซื้ออัลบั้มทางเวปไซต์ สามารถเลือกรับสิทธิ์ดู Greasy Cafe Technicolor Secret Show ในวันที่ 14 ก.ค. 60
“ปะติดปะต่อ”
Artist : Greasy Cafe
” เราจะได้บางสิ่งและเสียบางส่วนของเราไป เมื่อเราเริ่มต้นมีความสัมพันธ์กับใครบางคน และเมื่อสิ่งนั้นจบลง คนส่วนใหญ่มักจะยังแบกสิ่งนั้นติดตัวมาด้วย ในวันที่ไม่มีความสัมพันธ์นั้นอีกต่อไป “
- Director : คําขวัญ ดวงมณี
- Producer : บุณยนุช บุณยรัตพันธุ์
- Lyric | Arrange | เรียบเรียง : Greasy Cafe
- Mixing | Mastering : บัญชา เธียรกฤตย์