ช่วงแห่งการเริ่มต้น “การรับนักศึกษาจบใหม่” เวียนมาถึงอีกครั้ง เพราะตอนนี้น้องๆ นักศึกษาชั้นปีที่ 4 เริ่มทยอยจบการศึกษากันหมดแล้ว และช่วงนี้แหละ ที่เป็นโอกาสดี๊ดี ที่บริษัทต่างๆ จะควานหาพนักงานเก่งๆ (ที่ยังมีประสบการณ์ไม่มาก) มาครอบครอง แต่ถึงอย่างนั้น ก็ต้องอดแอบกระซิบไม่ได้ว่า มีพนักงานเก่งๆ ที่ถูกพัฒนามาจากฝีมือบริษัทหลายคน ทยอยลาออก หลังจากได้ฝึกฝีมือไปสักพัก ไอ๊ย๊า…
แล้วมีอะไรจะผูกใจพนักงานเก่งๆ ได้บ้างหล่ะ วันนี้แบไต๋เลยจะมาบอกเล่าถึง “สาเหตุที่คนเก่งๆ ตัดสินใจทำงานที่บริษัทหนึ่งนานๆ” เผื่อว่าน้องๆ นักศึกษาจบใหม่ พี่ๆ พนักงานเจ้าเก่า กระทั่งผู้บริหารต่างๆ ได้อ่านบทความนี้ จะได้ปิ๊งไอเดียกัน
เงินเดือนดี
เรื่องเงินเดือน นับเป็นเรื่องแรกๆ ที่คนมักจะไตร่ตรอง จะโทษว่า “เห็นแก่เงิน” ก็คงไม่ได้ เพราะเราทุกคนต้องยังชีพนี่น่า ดังนั้นถ้าบริษัทมีเงินเดือนดีๆ ให้ ชนิดที่ว่าสมน้ำสมเนื้อกับความสามารถและหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบ ยังไงซะ พนักงานในบริษัทก็จะไม่หนีคุณไปไหน หรืออันที่จริง หากเงินเดือนไม่ได้มากโข แต่กลับมีสวัสดิการที่ดี พนักงานในบริษัทก็ยังปักหลักปักใจทำงานต่อแน่นอน
มีคนรับฟัง
การมีคนรับฟังเป็นสิ่งเยียวยาปัญหาและเป็นยาใจชั้นดีของพนักงาน สิ่งที่หลายๆ คนไม่รู้คือ พนักงานทุกคนต้องการได้รับการรับฟัง และยอมรับความคิดเห็น เพราะเป็นเรื่องปกติที่การทำงานจะต้องพบเจอกับปัญหาบ้าง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการบริหารงานในองค์กร ปัญหาจากการติดต่อสื่อสารของพนักงานกับลูกค้าหรือคนภายนอก หรือปัญหาจุกจิกทั้งหลายที่เกิดขึ้น แต่หากพนักงานได้พูดคุยถึงสิ่งที่ตัวเองประสบ เป็นการอัพเดทตัวเองและข้อมูลอื่นๆ รอบตัว ย่อมทำให้เขารับรู้ได้ถึงคุณค่าของตัวเองที่บริษัทมีให้ ซึ่งจะผูกใจพนักงานได้ดีทีเดียว
ได้รับคำชม
ต่อจากการได้รับคนรับฟัง ความใกล้เคียงกันก็คือการได้รับคำชม ต้องยอมรับว่า “มนุษย์ทุกคนต้องการการยอมรับด้วยกันทั้งสิ้น” การเอ่ยปากชมลูกน้อง หัวหน้า หรือเพื่อนร่วมงาน เมื่อเห็นว่าพวกเขาเจ๋งจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่พึงกระทำ และควรจะกระทำเป็นกิจวัตรด้วย อาจไม่ต้องเป็นคำชมเรื่องงานเพียงอย่างเดียว แต่การสังเกตุและชมในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ไม่ว่าจะเป็นการแต่งตัว กลิ่นน้ำหอม หนังสือที่เขาอ่าน แนวคิดที่เขาชอบ ฯลฯ ก็ถือเป็นเรื่องที่สร้างความประทับใจได้ดีเช่นกัน
มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่ในที่ประชุม หรือเรื่องเล็กๆ ว่าศุกร์นี้ปาร์ตี้กลางวันจะจัดแบบไหน ก็ควรจะให้พนักงานทุกคนได้ออกความคิดเห็น และแชร์ไอเดีย เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าตนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ และนั่นจะนำไปสู่ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร ซึ่งความรู้สึกนี้แหละ ที่จะนำพาพนักงานไปสู่ความผูกพันธ์องค์กร และแน่นอนว่าเมื่อพนักงานรู้สึกผูกพันธ์ต่อองค์กรแล้ว พวกเขาจะไม่อยากย้ายหนีไปบริษัทไหนๆ เลยหล่ะ ก็บริษัทคุณให้ความสำคัญกับพวกเขานี่น่า..
งานท้าทาย
เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามอย่างยิ่ง เพราะคนรุ่นใหม่เก่งๆ มักจะมีความรู้สึกตื่นเต้นและชื่นชอบงานท้าทาย อย่างว่าแหละ ใครจะวนเวียนทำงานง่ายๆ ซ้ำไปซ้ำมาทุกวันได้ ดังนั้นงานท้าทายคือทางออก ที่จะทำให้พวกเขาอยากทำงานต่อ อยากเรียนรู้ อยากพัฒนาตัวเอง และเมื่อพวกเขามีงานท้าทายทำเรื่อยๆ เขาจะลืมเรื่องอยากลาออกไปเลยหล่ะ
ได้รับความช่วยเหลือ
การได้รับความช่วยเหลือจากคนรอบข้างในที่ทำงาน จะทำให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้โดดเดี่ยว แต่พวกเขามีทีม!!! และพวกเขาจะรู้ว่า เมื่อพวกเขาทำผิดพลาด พวกเขาจะสามารถลุกขึ้นมาอีกครั้งได้ เพราะพวกเขามีทีมที่ดี ที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลกัน และแน่นอนว่าบรรยากาศอบอุ่นในที่ทำงานแบบนี้ คือกำลังใจชั้นดีเลยหล่ะ
เลื่อนตำแหน่ง
คงไม่มีอะไรเป็นข้อพิสูจน์ในเรื่องของความสำเร็จในการทำงานได้มากไปกว่า “การเลื่อนตำแหน่ง” แล้วหล่ะ เพราะนั่นได้แสดงให้เห็นว่าพวกเขามีการเติบโต มีการพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ คิดดูสิ จะเป็นเรื่องแย่ขนาดไหน หากทำงานเป็นเวลา 4-5 ปีแล้ว แต่พนักงานมากฝีมือคนนั้นยังคงดำรงตำแหน่งเดิมไม่แปรเปลี่ยน แล้วแบบนี้ใครจะอยากอยู่กับบริษัทที่ไม่โปรโมทพวกเขาหล่ะ.. โดยเฉพาะคนเก่งๆ หน่ะ พวกเขาไปแน่
จะว่าไปแล้ว เรื่องที่ทำให้พนักงานเก่งๆ ปักหลักอยู่เนี่ย ก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย เป็นเรื่องพื้นฐานด้วยซ้ำ แค่องค์กรต้องรู้จักผูกใจพนักงานให้ดีเท่านั้น และก็สร้างบรรยากาศการทำงานดีๆ แค่นี้พนักงานที่มีความสามารถก็ไม่หนีไปไหนแล้ว.. ท่องไว้นะคะ “ใครๆ ก็อยากได้รับการยอมรับทั้งนั้น”