ตั้งแต่ผู้กำกับแซม ไรมี่ ประเดิมไตรภาค Spiderman กับโทบี้ แมกไกวร์ ไว้ตั้งแต่ปี 2002 แล้ว มาร์ค เว็บบ์ มาสานต่อกับ แอนดริว การ์ฟิลด์ ต่ออีก 2 ภาค ที่ไม่ประสบความสำเร็จนัก แล้ว จอน วัตต์ มารับช่วงต่อกับ ทอม ฮอลแลนด์ สไปเดอร์แมนวัยมัธยม ที่จะมาโหนใยโดยมีไอออนแมนบินเป็นพี่เลี้ยงอยู่ด้านหลัง ทั้ง 6 ภาค ก็มีบรรดาวายร้ายที่ถูกคัดเลือกมาจากหนังสือการ์ตูนให้มาโลดแล่นบนจอแล้วกว่า 10 ตัว บางภาคก็ออกมาแค่ตัวเดียว บางภาคก็ออกมาหลายตัวเกินไป และบางตัวก็ถูกหยิบมาใช้ถึง 2 รอบ อย่างเช่น กรีน กอบลิน ก็มีออกมาให้ดูถึง 2 เวอร์ชั่น ตลอด 15 ปีของสไปเดอร์แมน เราได้เห็นวายร้ายทั้งมากพิษสง ทั้งกระจอก เรามาย้อนความทรงจำกันซิ ว่าตัวไหนร้ายกาจ เล่นเอาสไปเดอร์แมนของเราหืดขึ้นคอ ตัวไหนก็กากเกิ๊นจนไม่น่าออกมาเล้ย ลองมาจัดอันดับกันดูซิ เผื่อว่าจะตรงใจแฟน ๆ หนังสไปเดอร์แมนกันบ้างไหม
10.ไรโน จาก The Amazing Spiderman 2 (2014)
เริ่มอันดับกันจากตัวที่กากที่สุดก็เห็นจะเป็น Rhino เป็นวายร้ายที่นึกดูก็น่าเสียดายครับ เพราะว่าได้ พอล จิอาแมตติ นักแสดงมากฝีมือมารับบท เคยเข้าชิงออสการ์มาแล้ว Cinderella Man (2005) แต่เสียที่ว่า Rhino ดันถูกหยิบมาใส่ในภาคนี้ ที่ผู้สร้างของขึ้นขนาดหนัก ยัดตัวร้ายเข้ามาถึง 3 ตัว อีเล็คโตร เป็นวายร้ายตัวหลัก มีกรีน กอบลิน มาเป็นตัวเสริม ส่วน ไรโน นี่มาในฐานะตัวแถมเลย เพราะโผล่มาแค่ 2 ฉาก ฉากตอนขับรถแวนหนีสไปเดอร์แมนตอนต้นเรื่อง กับฉากต่อสู้ในท้ายเรื่อง เมื่อเป็นตัวแถมบทก็เลยไม่มีเวลาพอที่จะไปอธิบายที่ไปที่มาของ อเล็กซี ซิสเตวิช นักเลงจากรัสเซีย พูดสำเนียงประหลาด ๆ รายนี้ว่าเป็นไงมาไงจากนักเลงลูกกระจ๊อกถึงกลายมาเป็นวายร้ายใส่เกราะเหล็กรูปตัวแรดไปได้ เชื่อว่าถ้า ไรโน ไปอยู่ในภาคที่ไม่ต้องไปเบียดกับใคร ด้วยความสามารถของ พอล จิอาแมตติ จะทำให้ ไรโน เป็นผู้ร้ายตัวหนึ่งของสไปเดอร์แมนที่น่ากลัวและน่าจดจำได้แน่ ๆ
9.นอร์แมน ออสบอร์น จาก The Amazing Spiderman 2 (2014)
ในรายชื่อนี้เรารวมถึงวายร้ายในร่างมนุษย์ด้วยนะครับ หนึ่งในนั้นคือ นอร์แมน ออสบอร์น ที่ได้คริส คูเปอร์ มารับบทนี้ นอร์แมน ออสบอร์น เคยปรากฎมาแล้วครั้งแรกใน Spider-Man (2002) ที่ได้วิลเลม เดโฟ มารับบท ในรอบนั้นเราได้เห็นนอร์แมน เป็นกรีนกอบลิน แต่รอบนี้นอร์แมนในบั้นปลาย โผล่มาก็นอนบนเตียงสั่งเสียกับลูกชาย แฮรี่ ออสบอร์น นอนอยู่บนเตียงมืด ๆ แต่ด้วยสายตา และน้ำเสียงของแฮรี่ ก็ถ่ายทอดความน่ากลัวให้สัมผัสได้ การแสดงของคริส คูเปอร์ ทำให้ 3 นาทีของแฮรี่ กลายเป็นที่น่าจดจำได้ฉากหนึ่ง และให้ชวนคิดไปได้ว่าความร้ายกาจขนาดนี้ ถ้าเราได้เห็นนอร์แมน เวอร์ชั่นนี้เป็นกรีน กอบลิน จะต้องเป็นกรีน กอบลินที่ร้ายไม่เบา
8.เวนอม จาก Spider-Man 3 (2007)
เวนอม เป็นตัวร้ายของสไปเดอร์แมนรายหนึ่งที่แฟน ๆ การ์ตูนชื่นชอบกันมาก แต่แฟน ๆ ก็ผิดหวังกับการปรากฏตัวของเวนอมใน Spider-Man 3 เพราะเรื่องราวของเวนอม คือด้านมืดของสไปเดอร์แมนมีเรื่องราวเบื้องหลังมากมายที่สามารถขยายออกมาเป็นภาคแยกได้อีก แต่ใน Spider-Man 3 เวนอมต้องอยู่ในภาคที่แออัดไปด้วยตัวร้ายถึง 3 ถูกแทรกอยู่ในระหว่างเรื่องราวของ แซนด์แมน และ กรีนกอบลิน ทั้งหมดทั้งหลายต่อความผิดหวังของเวนอมบนจอ ไม่ใช่ความผิดของโทเฟอร์ เกรซ เพราะแสดงออกถึงความน่ากลัวได้ดี และสเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ในฉากแปลงร่างเป็นเวนอมก็ทำออกมาดูดี แต่ก็เพราะบทนั่นแหละที่เหลือเวลาให้โผล่มาแค่ช่วงท้าย และก็ถูกกำจัดได้อย่างง่ายดาย ก็ได้แต่หวังว่าเราจะได้เห็นหนัง เวนอม ในภาคแยกของตัวเองแบบเต็ม ๆ นะ
7.แซนด์แมน จาก Spider-Man 3 (2007)
ยากที่จะตัดสินว่าตัวร้ายใน Spider-Man 3 นี่ใครจะดูแย่กว่ากันระหว่างเวนอม กับ แซนด์แมน ต่อด้วยเหตุที่ว่าเราได้รู้จักตัวตน ที่ไปที่มา และเห็นพัฒนาการของตัวละคร เลยทำให้แซนด์แมนดูดีกว่า เวนอม หน่อยนึง บทหนังก็ดูตั้งใจจะให้คนดูได้รู้จักเรื่องราวส่วนตัวของ ฟลินต์ มาโคร มีบทลูกสาวที่ห่างเหินกัน และฟลินต์ต้องมาติดคุก ทั้งยังเขียนให้ฟลินต์มีส่วนในการตายของลุงเบ็นอีก แต่ทั้งหมดก็ยังไม่สามารถทำให้คนดูรู้สึกสงสารเห็นใจฟลินต์ได้เพียงพอนะ หลาย ๆ องค์ประกอบในบทของแซนด์แมน ล้วนดูมีปัญหาทั้งการไปเกี่ยวโยงกับการตายของลุงเบ็น ทั้งจุดกำเนิดของแซนด์แมน ที่ชวนรู้สึกตะขิดตะขวงเหลือเกิน ทั้งหมดรวมกันทำให้แซนด์แมน ออกมาดูเป็นวายร้ายที่โง่ ๆ ตัวหนึ่ง เชื่อว่าถ้าบทออกมาดีกว่านี้ โธมัส เฮย์เด็น เชิร์ชที่เป็นนักแสดงที่เก่งคนหนึ่ง จะทำให้แซนด์แมนออกมาดูดีกว่านี้ได้แน่
6.เดอะ ลิซาร์ด จาก The Amazing Spider-Man (2012)
เป็นตัวร้ายที่อยู่ในระดับกลาง ๆ มีทั้งส่วนดีและแย่คละกันอยู่ ด้านแย่ก็คือการออกแบบภาพลักษณ์ของตัวเดอะ ลิซาร์ด งานCGI ไม่อยู่ในระดับที่น่าชื่นชมนัก โดยเฉพาะจมูกนี่ดูขัดตามาก และแผนการที่จะทำให้คนทั้งนิวยอร์คกลายเป็นสัตว์เลื้อยคลานก็เป็นเป้าหมายของวายร้ายที่ดูตลกไปนะ ด้านดีก็คือการแสดงของ รีส ไอฟาน ที่สามารถทำให้รู้สึกว่ามีด้านร้ายในตัวได้จริง ๆ และด้วยความที่เดอะ ลิซาร์ด เป็นตัวร้ายเพียงหนึ่งเดียวในภาคนี้ บทหนังก็เลยมีเวลาที่จะอธิบายพื้นเพความเป็นมาของ ดร.เคิร์ต คอนเนอร์ ให้คนดูได้รู้จักทั้งนิสัยส่วนตัว และ เบื้องหลังที่มีอดีตพัวพันกับความลับในครอบครัวปาร์คเกอร์ ฉากที่ดีที่สุดของลิซาร์ด ก็คือฉากที่บุกไปโจมตีปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ ในไฮสคูลนั่นแหละ
5.อีเล็คโตร จาก The Amazing Spiderman 2 (2014)
อีเล็คโตร เป็น 1 ใน 3 ตัวร้ายในภาคที่ผู้สร้างยัดเยียดภาระมาให้สไปเดอร์แมนมากเหลือเกิน เจมี่ ฟอกซ์ ในบท แมกซ์ ดิลลอน ถ่ายทอดแคแรคเตอร์ที่มีความเป็นการ์ตูนอยู่มาก ด้วยภาพลักษณ์หัวล้าน ฟันเหยิน แต่ในขณะที่แปลงร่างเป็น อีเล็คโตร ก็มีความเกี้ยวกราดพอตัว ทำให้ฉากต่อสู้กลางไทม์สแควร์ทำออกมาได้น่าประทับใจ สเปเชี่ยลเอฟเฟกต์ที่สร้างพลังแสงสีฟ้าของอีเล็กโตรก็ดูพอใช้ แต่ข้อเสียของอีเล็กโตรก็เช่นเดียวกับตัวร้ายอื่น ๆ ในภาคนี้ ที่ต้องแชร์เวลาให้กับตัวร้ายอื่น ๆ อีเล็คโตรก็เลยไม่มีเวลาที่เพียงพอนักกับพัฒนาการของตัวละครจากแมกซ์ ดิลลอน มาเป็นอีเล็กโตร และฉากสุดท้ายที่ต่อสู้กับสไปเดอร์แมนก็ถูกกำจัดได้ง่ายดายจนเป็นหนึ่งในตัวร้ายที่ไม่น่าจดจำนัก เชื่อว่าถ้าอีเล็คโตรอยู่ในภาคที่ไม่ต้องไปเบียดกับตัวร้ายอื่น อีเล็คโตร จะเป็นคู่ต่อสู้ของสไปเดอร์แมนที่น่าเกรงขามกว่านี้มาก
4.กรีน ก็อบลิน จาก The Amazing Spiderman 2 (2014)
แม้กรีน ก็อบลิน ของ เดน ดีฮาน ในภาคนี้จะไม่เด่นเท่าอีเล็คโตร แต่บางทีการได้เวลาปรากฏตัวมาน้อยกว่าแต่ก็ก็เป็นตัวร้ายที่ดีกว่าและน่าจดจำมากกว่า แม้หนังจะใช้เวลาไม่มากในการเปลี่ยนแฮรี่ ออสบอร์น จากเพื่อนสนิทให้กลายมาเป็น กรีน ก็อบลิน โดยผ่านการปรากฏตัวของแฮรี่ แค่ 2 ฉาก สืบเนื่องจากฉากที่นอร์แมนผู้พ่อ ถ่ายทอดความชั่วร้ายมาสู่ลูก คนดูก็เดาได้แล้วว่าจะมีบทลงเอยกับแฮรี่เช่นไร และทำให้ฉากต่อสู้สุดท้ายระหว่างกรีน ก็อบลิน กับ สไปเดอร์แมน กลายเป็นฉากที่น่าจดจำฉากหนึ่งในแฟรนไชส์หนังสไปเดอร์แมน ส่วนหนึ่งก็ต้องชื่นชมความสามารถของเดน ดีฮาน ที่แม้มีเวลาบนจอไม่มาก แต่เขาก็สามารถเปลี่ยนสถานะจากเพื่อนรักมาเป็นตัวร้าให้เราคล้อยตามและเชื่อไปกับอารมณ์ของตัวละครได้
3.แฮรี่ ออสบอร์น จาก Spider-Man, Spider-Man 2, Spider-Man 3
ตัวร้ายเพียงตัวเดียวของแฟรนไชส์หนังสไปเดอร์แมน ที่ได้ปรากฎตัวมากที่สุดคือ แฮรี่ ออสบอร์น ที่ได้ออกมาตั้งแต่ Spider-Man, Spider-Man 2, Spider-Man 3 และ The Amazing Spiderman 2 แต่ในที่นี้เราจะพูดถึงเฉพาะ แฮรี ออสบอร์น ที่ผ่านการแสดงของเจมส์ ฟรานโค ที่ได้ออกมาทั้งไตรภาคของแซม ไรมี คนดูได้เห็นพัฒนาการของแฮรี่ จากเพื่อนกลายเป็นตัวร้าย เจมส์ ฝากบทบาทการแสดงไว้ดีมากใน 2 ภาคแรก จากเพื่อนรักที่กอดคอในภาคแรก กลายเป็นมาเป็นแฮรี่ ที่อมทุกข์ในภาค 2 พัฒนาการต่อเนื่องทั้ง 2 ภาคเกริ่นมาดีมาก แต่พอมาถึงภาค 3 บทแฮรี่ ออสบอร์น กลับถูกเขียนออกมาให้กลายเป็นเหมือนคนความจำเสื่อมเสียอย่างนั้น หลังจาก แฮรี่ กลายเป็น กรีน ก็อบลิน และประกาศตัวเป็นวายร้าย แต่ตอนท้ายก็ดันกลับมาเป็นคู่หูของสไปเดอร์แมนอีกครั้งและช่วยกำจัดเวนอม ถ้าใน Spiderman 3 เขียนบทให้ กรีน ก็อบลิน เป็นตัวร้ายหลักของภาคนี้หลังจากที่ปูนำมาแล้วถึง 2 ภาค เขาจะเป็นตัวร้ายที่ดีที่สุดในแฟรนไชส์หนังสไปเดอร์แมน
2.กรีน ก็อบลิน จาก Spiderman (2002)
ในฐานะเป็นสไปเดอร์แมนภาคแรก ผู้กำกับแซม ไรมี จำต้องได้วายร้ายที่เปิดฉากได้อย่างร้ายกาจจนน่าจดจำ แล้วผลก็ออกมาเป็น กรีน ก็อบลิน ซึ่งว่าตามจริงการเลือกกรีน ก็อบลิน ถ้าออกแบบมาไม่ดีก็อาจจะเป็นวายร้ายที่น่ารำคาญ ดูกระจอก แต่ก็ต้องขอบคุณการแสดงของวิลเลม เดโฟ ที่สามารถทำให้แฮรี่ ออสบอร์น และ กรีน ก็อบลิน ดูเป็นตัวการ์ตูนที่มีชีวิตขึ้นมาได้ วิลเลม แสดงให้เราเห็นความเปลี่ยนแปลงของ นอร์แมน อย่างช้า ๆ จากนักธุรกิจจอมยะโส ที่ทำการทดลองลับอย่างเงียบ ในชั่วขณะหนึ่งแม้เขาจะรู้สึกสับสน แต่สุดท้ายเขาก็พ่ายแพ้ต่อกิเลสและกลายร่างเป็นกรีน ก็อบลินเต็มตัว วิลเลม ทำให้ นอร์แมน เป็นวายร้ายที่ดูน่ากลัว โดยเฉพาะกับผู้ชมรุ่นเล็ก อย่างฉากที่ กรีน ก็อบลิน บินไปทำร้ายป้าเมย์ ก็เป็นฉากที่น่ากลัวฉากหนึ่ง กรีน ก็อบลิน ของวิลเลม เดโฟ คืออผลลัพธ์จากการแสดงที่ยอดเยี่ยม บวกบทและการกำกับที่ดี กลายเป็นการเปิดตัววายร้ายตัวแรกด้วยมาตรฐานที่สูง จนทำให้วายร้ายในภาคต่อ ๆ มาหลายตัวดูธรรมดาไป
1.ดร.อ๊อคโทพัส จาก Spiderman 2 (2004)
สำหรับวายร้ายอันดับ 1 ซึ่งก็ไม่น่าจะเกินคาดเดา กับการแสดงของ อัลเฟรด โมลินา ที่เพิ่งได้รับเสียงชื่นชมและกวาดรางวัลมามากจากหนัง Frida (2003) แล้วก็ได้รับการชักชวนให้มาสวมบท ดร.อ๊อคโทพัส วายร้ายตัวที่ 2 ของสไปเดอร์แมน ซึ่งก็ได้รับคำชมกลับไปท่วมท้นอีกเช่นกัน อัลเฟรด ฝากการแสดงไว้ได้ยอดเยี่ยมทั้งช่วงที่เป็น ดร.อ๊อตโต้ ผู้สุขมและมีเสน่ห์ แต่ด้วยอุบัติเหตุร้ายแรงต่อสภาพจิตใจเปลี่ยนให้เขากลายเป็นวายร้าย ดร.อ๊อคโทพัส แต่ก็ไม่ได้เป็นวายร้ายที่ทุกคนจะเกลียดได้ลง เพราะสุดท้าย ดร.อ๊อคโทพัส ก็ยังมีจิตสำนึกที่ดี และสละชีพตัวเองเพื่อปกป้องนิวยอร์คซิตี้ไว้ได้ กลาเป็นอีกฉากที่ยอดเยี่ยมและน่าจดจำ และใน Spiderman 2 ยังมีอีกหลายฉากที่น่าประทับใจ ทั้งฉากต่อสู้บนหอนาฬิกา , บนหลังคารถไฟ และฉากที่ใช้งวงฆ่าเหล่านักวิทยาศาสตร์ในห้องผ่าตัด ก็ล้วนเป็นฉากที่น่าประทับใจมาจนถึงทุกวันนี้ และทำให้ Spiderman 2 ถูกยกให้เป็นภาคที่ดีที่สุด บท ดร.อ๊อคโทพัส เป็นอีกตัวอย่างที่ดีของการเลือกนักแสดงมาได้ถูกมาใส่กับบที่เหมาะ และได้ทีมเขียนบทที่ดี และสุดท้ายการกำกับที่ดี ทำให้ ดร.อ๊อคโทพัส เป็นวายร้ายของสไปเดอร์แมนที่ดีที่สุดที่เคยปรากฎตัวบนจอภาพยนตร์