เฉิน หลง ชื่อที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก หรือในนามแจ๊คกี้ ชาน เมื่อเข้าสู่ฮอลลีวู้ด ทั่วโลกรู้จักเขาในฐานะดาราแอ็คชั่นฮีโร่ ที่มีความสามารถในด้านกังฟูตัวจริงเสียงจริง และความบ้าในการออกแบบฉากต่อสู้ที่สุ่มเสี่ยงไม่มีใครกล้าทำ แม้กระทั่งตัวเขาเองก็บาดเจ็บหนักอยู่หลายครั้ง ในขณะเดียวกันลูกบ้าของแจ๊คกี้ ก็กลายเป็นจุดขายและกลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว จนกินเนสบุ๊คบันทึกว่า แจ๊คกี้ ชาน คือนักแสดงฉากสตันท์มากที่สุดในโลกที่ยังมีชีวิตอยู่ สำหรับคนที่ติดตามหนังของแจ๊คกี้ ชาน คือเมื่อหนังจบเราจะได้ดูฉากเบื้องหลังที่แจ๊คกี้ พลาดและเจ็บจริงกันเกือบทุกเรื่อง
ในวันนี้แจ๊คกี้ ชาน อายุ 63 ปีแล้ว ไม่ได้ฟิตที่จะแสดงฉากโลดโผนเหมือนเดิมอีกต่อไป งานหนังของเขาเริ่มลดความดุเดือดในฉากแอ็คชั่นลง และเพิ่มความดราม่ามากขึ้น ดังที่เราเห็นในงานยุคหลัง ๆ ของเขา New Police Story (2004) , Rob-N-Hood (2006) , Shinjuku Incident (2009) และในผลงานล่าสุด The Foreigner ก็ค่อนข้างมีความดราม่าให้เห็นตั้งแต่ตัวอย่างหนัง แต่ก็ยังพอมีฉากแอ็คชั่นเบา ๆ ให้เห็นอยู่บ้าง วันนี้เรามาย้อนอดีตของแจ๊คกี้ ชาน กันตั้งแต่วัยหนุ่ม ยุคเลือดร้อนกันดู ว่าเขาหักกระดูกตัวเองไปกี่ชิ้นแล้ว ในหนังเรื่องไหนบ้างครับ
1. Armour of God , ใหญ่สั่งมาเกิด (1987)
หนึ่งในเหตุบาดเจ็บรุนแรงที่สุดที่แจ๊คกี้ ชาน เกือบตาย ในฉากนี้แจ๊คกี้ กระโดดจากกำแพงไปเกาะต้นไม้ แต่เหตุผิดพลาดคือกิ่งไม้หัก เขาร่วงลงมากับกิ่งไม้และโชคร้ายหนักคือหัวกระแทกเข้ากับก้อนหิน ถึงขั้นกระโหลกศีรษะร้าว ทีมงานรีบส่งตัวเขาเข้าโรงพยาบาล ในการผ่าตัดขั้นต้นแพทย์ต้องนำเอาเศษกระโหลกศีรษะออกจากหัวของเขา รีบอุดรูรั่วบนกระโหลกที่เลือดไหลออกมา อาการรุนแรงถึงขั้นมีเลือดไหลออกมาจากหูด้วย ส่งผลให้หูขวาของแจ๊คกี้ ได้ยินไม่เหมือนเดิมตั้งแต่นั้นมา และมีจุกพลาสติกฝังถาวรบนกระโหลกเขา มีแผลเป็นที่มองเห็นชัด แต่แจ๊คกี้ ก็ยังไม่เข็ด ปีต่อมาแจ๊คกี้ ก็ถ่ายทำ “Police Story 2” วิ่งสู้ฟัดภาค 2 ปี 1988 ในฉากแอ็คชั่น ผู้ร่ายเขวี้ยงเก้าอี้ใส่เขา แล้วก็พลาดอีก เก้าอี้โดนหัวแจ๊คกี้ แผลเปิดอีก เลือดไหล
2. Police Story , วิ่งสู้ฟัด (1985)
หนึ่งในฉากแอ็คชั่นเด่นในงานสตันท์ของแจ๊คกี้ ชาน ฉากนี้แจ๊คกี้ ถ่ายทำในห้างสรรพสินค้า เขากระโดดไปเกาะเสากลางห้างที่เต็มไปด้วยไฟประดับ แล้วรูดตัวลงมาตามเสาขณะที่สายไฟก็ขาดเปรี๊ยะปร๊ะไปตลอดทาง จนถึงพื้นล่างกระแทกกับหลังคากระจกอีกชั้นหนึ่ง เป็นการทำงานที่กดดันเพราะทีมงานขอพื้นที่จากห้างมาได้หนึ่งวัน และต้องคืนพื้นที่ในวันรุ่งขึ้น ทุกคนเป็นห่วงแจ๊คกี้ ในการถ่ายทำฉากนี้ ลูกน้องคนหนึ่งเอายันต์มาให้แจ๊คกี้พกติดตัวไว้ก่อนถ่ายฉากนี้ ผลลัพธ์คือ กระดูกนิ้วแตก , หน้าแขนโดนกระจกบาดเป็นแผลฉกรรจ์ , ไฟฟ้าช็อตมือไหม้ , ผิวหนังไหม้ในระดับ 2 , กระดูกเชิงกรานโดนกระแทกอย่างหนัก , กระดูกสันหลังเคลื่อนเกือบเป็นอัมพาต
3. Crime Story , วิ่งสู้ฟัด ภาคพิเศษ (1993)
เดิมทีเรื่องนี้วางให้เจ็ท ลี รับบทนำ แต่ตัวแทนของเจ็ท ลี ไม่อยากให้เขาเล่นหนังที่เกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรม แจ๊คกี้ ก็เลยเสียบบทแทน ในฉากแอ็คชั่น ช่วงล่างของแจ๊คกี้ โดนรถสองคันเบียดเข้าหากัน โดยมีตัวเขาอยู่ตรงกลาง ผลคือกระดูกขาหักเป็นชิ้นย่อย
4. Project A , เอไกหว่า (1983)
ฉากคลาสิกจาก เอไกหว่า ที่หลายคนน่าจะผ่านตามาแล้ว ฉากนี้แจ๊คกี้ โหนตัวเองอยู่กับเข็มนาฬิกา จากหอนาฬิกาสูง แล้วเขาก็ทิ้งตัวเองลงมาบนกันสาดผ้าใบบาง ๆ เพื่อลดแรงกระแทกก่อนจะถึงพื้น แจ๊คกี้ ถ่ายฉากนี้มาแล้ว 2 ครั้ง แต่เขาไม่พอใจ เลยมีเทคที่ 3 แต่ว่ารอบนี้ลงผิดท่า เมื่อผ่านผ้าใบผืนที่ 2 แจ๊คกี้ เอาหัวลง ทำให้บาดเจ็บที่คอ ดีที่คอไม่หัก
5. City Hunter , ใหญ่ไม่ใหญ่ ข้าก็ใหญ่ (1993)
ฉากซิ่งสเก็ตบอร์ดไล่ล่า เหตุผิดพลาดทำให้หลังเท้าและเข่าบาดเจ็บ ทำให้ถ่ายทำฉากนี้ต่อไม่ได้แล้วให้สตันท์รับหน้าที่ต่อจนจบ เป็นการบาดเจ็บซ้ำที่เข่า ที่แจ๊คกี้กระทบกระเทือนมาแล้วหลายครั้ง เหตุจากการบาดเจ็บนี้ ทำให้แจ๊คกี้ เดินไม่ได้ปกติเหมือนเดิมและมีปัญหากับการกระโดด
6. Police Story 3 , วิ่งสู้ฟัด (1993)
ในฉากนี้แจ๊คกี้ โหนตัวอยู่บนท่อเหล็ก แล้วจะต้องโยกตัวเฮลิคอปเตอร์ที่เหวี่ยงมา แต่ข้อผิดพลาดเกิดขึ้นเมื่อแจ๊คกี้โยกตัวไม่พ้น ทำให้เขาโดนใบพัดเฮลิคอปเตอร์ตีมาโดนเข้าที่ไหล่ขวา ทำให้เกิดแผลฉีกที่ไหล่ขวา โชคร้ายหนักกว่าคือ แจ๊คกี้ ต้องห้อยต่องแต่งอยู่อย่างนั้นจนกว่าทีมงานจะมาช่วยปลดลง แล้วพอไปถ่ายทำ City Hunter ในปีเดียวกัน ก็บาดเจ็บซ้ำที่ไหล่เดิมอีก
7. Rumble in the Bronx , ใหญ่ฟัดโลก (1995)
หนังถ่ายทำในแวนคูเวอร์ แคนาดา ตุลาคม 1994 ในฉากที่กระโดดจากสะพานมาลงเรือโฮเวอร์คราฟต์ แจ๊คกี้เกิดกระดูกข้อเท้าขวาหัก แต่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น คืนนั้นแจ๊คกี้ ก็ไปปรากฏตัวในงานเทศกาลหนังแวนคูเวอร์ เพื่อโปรโมต “ไอ้หนุ่มหมัดเมาภาค2” กลับมาที่กองถ่าย หมอสั่งห้ามไม่ให้เขาลงน้ำหนักบนข้อเท้า แต่แจ๊คกี้ไม่ต้องการให้หยุดการถ่ายทำเขาเลยสั่งให้ทีมงานออกแบบรองเท้าพิเศษมาให้เขาที่ป้องกันการกระทบกระเทือนข้อเท้าโดยเฉพาะ แล้วก็ถ่ายทำต่อไปด้วยอาการบาดเจ็บ อาการเขามาดีขึ้นตอนถ่ายทำ “Thunderbolt” เร็วฟ้าผ่าน ที่ถ่ายทำในปีเดียวกัน
8. mr. nice guy ใหญ่ทับใหญ่ (1997)
เนื่องจากเป็นคนจมูกโต จมูกของแจ๊คกี้ก็เลยต้องรับศึกหนักอยู่บ่อยครั้งในฉากต่อสู้ ไม่มีรายละเอียดในกองถ่าย Mr.nice Guy ว่าผิดพลาดในฉาไหน แต่ก็น่าจะเป็นฉากเตะต่อยนั่นแหละ และนี่เป็นครั้งที่4 ของแจ๊คกี้ ที่จมูกหัก ก่อนหน้านั้น 3 ครั้งใน Young Master (1980), Project A (1983), Miracles (1989) นึกตามแล้วไม่น่าจะหายใจได้นะ
9. Drunken Master ไอ้หนุ่มหมัดเมา (1978)
เกือบตาบอดมาแล้ว 3 ครั้งนะ ครั้งแรกใน Drunken Master (1978) สมัยเริ่ม ๆ รุ่งเลย ในฉากต่อสู้ในโรงงานเหล็ก เขาต้องต่อสู้กับผู้ร้ายบนพื้นไม้ระแนงที่วางอยู่บนถ่านหินติดไฟร้อน ๆ ฉากนี้มีเหตุผิดพลาดทำให้กระดูกโหนกคิ้วแตก ถึงขั้นเกือบตาบอด แต่นี่ก็ไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่เขาเกือบตาบอด ใน “Miracles” เจ้าพ่อกวางตุ้ง (1989) โดนแผ่นไม้ตีเข้าเต็มหน้า มีแผลฉีกขาดที่ดวงตาซ้าย ยังไม่หมดแค่นั้น ใน “The Medallion” ฟัดอมตะ (2003) สายเคเบิ้ลขาดแล้วก็ตีเข้าที่หน้าเขา เฉียดลูกตาไปไม่กี่มิลลิเมตร
10. Dragon Lord เฉินหลงเจ้ามังกร (1982)
หนังเรื่องแรกที่แจ๊คกี้ รับหน้าที่เขียนบทและกำกับเอง แล้วเหตุผิดพลาดในฉากต่อสู้ ก็ทำให้เขาบาดเจ็บที่คาง ทำให้การถ่ายทำที่เหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะเขาพูดได้ไม่ถนัดเหมือนเดิมในระหว่างถ่ายทำส่วนที่เหลือ