Our score
8.6สรุปควรดู Blade Runner 2049 แบบ IMAX 3D มั้ย?
จุดเด่น
จุดสังเกต
-
ความเหมาะสมกับระบบ
10.0
-
มิติภาพด้านลึกของระบบสามมิติ
8.0
-
ความพุ่งของภาพสามมิติ
8.0
-
ถอดแว่นมองภาพเบลอ
7.0
-
ปลอดจากการเวียนหัว
10.0
ต้อนรับการมาเยือนของ Blade Runner 2049 ภาคต่อหนังไซไฟคลาสสิกขึ้นหิ้ง ที่คราวนี้ได้ทีมงานระดับพระกาฬตั้งแต่ เดนิส วิลเนิฟ ผู้กำกับหนังเลือดใหม่มาแรงจากแคนาดาที่ควงคู่มากับผู้กำกับภาพคู่ใจอย่าง โรเจอร์ ดีกิ้นส์ มาถ่ายทอดความยิ่งใหญ่และงดงามของเรื่องนี้ และแน่นอนในเมื่อหนังเข้าฉายในระบบไอแมกซ์สามมิติ WHAT THE FACT เลยไม่พลาดที่จะรีวิวมาให้ทุกท่านได้ตัดสินใจ
จากข้อมูลเทคนิคในเว็บไซต์ IMDB ระบุกล้องที่ใช้คือ Arri Alexa XT M และ XT Studio ที่ไม่ใช่กล้องลาร์จฟอร์แมต (Large Format) แต่ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบันก็สามารถเพิ่มอัตราส่วนจากเดิมถ่ายมาที่ 2.39:1 เป็น 1.90:1 สำหรับโรงภาพยนตร์ไอแมกซ์โดยเฉพาะ ผลลัพธ์ที่ได้คือภาพที่เต็มเฟรมดูงดงามอลังการมากบนจอไอแม็กซ์ยิ่งผนวกกับงานถ่ายภาพของโรเจอร์ดีกิ้นส์ก็ทำให้ Blade Runner 2049 กลายเป็นประสบการณ์การชมภาพยนตร์ในโรงไอแมกซ์ที่น่าประทับใจเลยทีเดียว และไม่บ่อยครั้งที่เราจะได้ดูหนังที่มิกซ์เสียงในระบบ 12 แทร็คของไอแมกซ์ ซึ่ง Blade Runner 2049 มีการมิกซ์เสียงในระบบดังกล่าวเพื่อฉายในโรงไอแมกซ์ด้วย ดังนั้นเราจึงได้ยินเสียงยานบินแบบเบสแน่นมาเต็ม รวมถึงงานดนตรีประกอบที่ประพันธ์โดย ฮานส์ ซิมเมอร์ ร่วมกับ โยฮัน โยฮันสัน กันแบบเต็มอารมณ์ เรียกได้ว่าไม่เพียงงานภาพเท่านั้นแต่งานมิกซ์เสียงยังอลังการเหมาะแก่การชมในระบบไอแมกซ์อย่างยิ่ง
สำหรับหนังที่ไม่ได้ถ่ายเป็นสามมิติอย่าง Blade Runner 2049 แล้ว การแปลงภาพนับเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งที่จะทำลายหนังทั้งเรื่อง แต่ยังโชคดีที่โรเจอร์ ดีกิ้นส์ ได้จัดวางภาพให้มีฉากหน้าฉากหลังที่แม้แต่ซีนตัวละครคุยกันเราก็ยังสัมผัสความลึกของภาพได้ แต่เนื่องจากหนังไม่ได้เน้นความตื่นตาตื่นใจด้านภาพสามมิติเหมือนหนังซูเปอร์ฮีโร่เลยทำให้สังเกตได้ยากเสียหน่อย และตัวหนังเองก็ไม่ได้แปลงเป็นสามมิติร้อยเปอร์เซ็นต์ดังจะกล่าวในหัวข้อถัดไป
คนดูตีตั๋วสามมิติก็หวังจะได้ดูภาพทะลุจอ แต่ดังที่กล่าวไว้แล้วว่าตัวหนังไม่ได้เน้นภาพสามมิติมากนัก แม้ในหนังจะมีทั้งโดรน ทั้งผึ้ง และยานบินแต่กลับไม่ได้สร้างความตื่นตาตื่นใจแบบหนังไซไฟแฟนตาซีทั่วไป ซึ่งนอกจากหิมะที่โปรยปรายแบบทะลุจอแล้ว หนังก็ไม่ได้มีฉากโยนอะไรใส่หน้าคนดูนัก ผลลัพธ์ในการทำสามมิติของหนังคือการเสริมงานภาพของโรเจอร์ ดีกิ้นส์ให้โดดเด่นเสียมากกว่า
จากการนั่งชมและถอดแว่นออกเป็นเวลาสั้นๆในแต่ละซีน พบว่าตัวหนังบางส่วนก็ไม่ได้แปลงภาพเป็นสามมิติแต่อย่างใด แม้แต่ในซีนเดียวกัน บางช็อตก็เป็นสามมิติบางช็อตก็ไม่เป็น แม้แต่คำบรรยายยังสามารถอ่านได้แม้ถอดแว่นสามมิติเลย ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าถ้าคุณไม่ได้ดู Blade Runner 2049 ในโรงไอแมกซ์ก็ควรดูระบบปกติได้เลยไม่ต้องเสียเงินดูแบบสามมิติในโรงธรรมดา
สำหรับใครที่กลัวว่าระบบภาพสามมิติของไอแมกซ์จะทำให้คลื่นเหียนเวียนเกล้าก็วางใจได้เลยครับ เพราะงานภาพของโรเจอร์ ดีกิ้นส์ ไม่เน้นการถ่ายแฮนเฮลด์ ดังนั้นหนังจึงแทบไม่มีช็อตที่กล้องสั่นไหว แต่ถึงมีก็ไม่ได้ดำเนินต่อเนื่องจนทำให้ภาพดูน่าเวียนหัวแต่อย่างใด ดังนั้นตีตั๋วดูไอแมกซ์ได้เลยสบายตาหายห่วง
สรุปแล้วแม้ Blade Runner 2049 อาจจะด้อยในเรื่องภาพสามมิติแต่สำหรับการแปลงอัตราส่วนภาพสำหรับไอแมกซ์แล้วถือว่ามีส่วนช่วยเสริมพลังให้งานด้านภาพของโรเจอร์ ดีกิ้นส์ที่ยอดเยี่ยมอยู่แล้วให้กลายเป็นประสบการณ์การชมภาพยนตร์ที่ดีที่สุดครั้งหนึ่งในรอบปี ยิ่งได้การมิกซ์ระบบเสียง 12 แทร็กมาทวีคูณพลังด้านเสียงทั้งซาวด์เอฟเฟกต์และดนตรีประกอบด้วยแล้วยิ่งทำให้ Blade Runner 2049 กลายเป็นหนังที่หากพลาดจากการชมในโรงไอแมกซ์แล้วถือว่าผิด!
