ต้อนรับการกลับมาของเทพเจ้าค้อนสายฟ้า Thor Ragnarok ที่คราวนี้ได้นักแสดงสาวออสเตรเลียดีกรี 2 ออสการ์อย่าง เคต บลานเชตต์ มารับบท เฮล่า ราชินีแห่งความตายที่จะมาลบเหลี่ยมเทพเจ้าซูเปอร์ฮีโร่ของเรา What The Fact ขอนำทุกท่านไปรู้จักเธอผ่านบทบาทสุดท้าทายมากมายของนักแสดงสาวมากความสามารถคนนี้
- ชื่อจริง แคทเธอรีน เอลลีส บลานเชตต์ (Catherine Elise Blanchett)
- เกิดเมื่อ 14 พฤษภาคม 1969 ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย
- บทแรก มิสซิส เฮนส์ ในทีวีซีรีส์ Police Rescue (1993)
- รางวัล ออสการ์ สมบทหญิงจาก The Aviator (2004) และนำหญิงจาก Blue Jasmine (2013)
บทราชินี เอลิซาเบธที่ 1 จาก Elizabeth (1998) และ Elizabeth : The Golden Age (2007)
บทราชินีเอลิซาเบธที่ 1 ถือเป็นบทบาทแรกที่ส่ง เคต บลานเชตต์ เข้าชิงชัยบนเวทีออสการ์ ซึ่งเธอก็สามารถแสดงถึงความไร้เดียงสาและพัฒนาการสู่การเป็นราชินีบัลลังก์เลือดที่ทั้งน่าเกรงขามและน่าเห็นใจไปในคราวเดียวกัน จนทางสตูดิโอยูนิเวอร์แซล อนุมัติให้สร้างภาคต่อในปี 2007 เพื่อสานต่อตำนานของราชินีอลิซาเบธที่ทวีความเข้มข้นทั้งวิกฤติการเมืองและเรื่องรักๆใคร่ๆ จนเคต บลานเชตต์ ได้เยือนเวทีออสการ์อีกครั้ง จึงนับได้ว่าหนังของเชการ์ คาปูร์ ผู้กำกับอินเดียทั้งสองเรื่องถือเป็นหมุดหมายสำคัญในชีวิตของเธอเลยทีเดียว
บทเคต วีเลอร์ จาก Bandits (2001)
ใช่จะมีแต่หนังพีเรียตหวังรางวัล เพราะเคต บลานเชตต์ ก็ได้โชว์หน้าสวยๆและฉายเสน่ห์แบบมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนเพื่อปั่นหัวสองโจรที่รับบทโดย บรูซ วิลลิส และ บิลลี บ็อบ ธอร์นตัน ซึ่งไม่บ่อยนักที่เราจะได้เห็นนักแสดงตัวแม่อย่างเธอจะได้รับบทเบาสมองแต่โดดเด่นไม่แพ้นักแสดงฮอลลีวูดทั้งสองเลย
บทกาลาเดรียล จาก The Lord of The Rings Trilogy (2001-2003) และ The Hobbits (2012-2014)
เคต แบลนเชตต์ สวมบท กาลาเดรียล ราชินีเอลฟ์ผู้สง่างามในมหากาพย์หนังแฟนตาซีไตรภาคอย่าง The Lord of The Rings และยังกลับมาสานต่อบทเดิมกับปฐมบท The Hobbitsทั้งสามภาค ซึ่งแม้ความโดดเด่นของหนังจะไปอยู่ที่ฮอบบิททั้ง โฟรโด้ และ บิลโบ้ แต่ต้องยอมรับว่าทุกครั้งที่ตัวละคร กาลาเดรียล ปรากฏกายหนังก็ทำให้คนดูต้องมนต์สะกดของเธอทั้งความงามและการแสดงที่สมบทบาทของเคต แบลนเชตต์
บทเวโรนิกา กัวริน ใน Veronica Guerin (2003)
เคต แบลนเชตต์ รับบท เวโรนิกา กัวริน นักข่าวสาวชาวไอริชที่อุทิศตนขุดคุ้ยเหล่าอาชญากรค้ายามาตีแผ่ให้สังคมรับรู้จนภัยถึงตัว ใน Veronica Guerin นักดราม่าสุดเข้มข้นของผู้กำกับ โจเอล ชูมัคเกอร์ (Joel Schumacher)
บท แมกเดลีนา กิลเคสัน ใน The Missing (2003)
The Missing หนังคาวบอยสุดเข้มข้นของผู้กำกับ รอน โฮเวิร์ด ที่ เคต บลานเชตต์ รับบท แมกเดลีนา เภสัชสาวที่ต้องร่วมมือกับพ่อของเธอที่รับบทโดยทอมมี่ ลี โจนส์ ตามหาลูกชายที่เธอเชื่อว่าถูกจับตัวไปโดยพวกอาปาเช่สุดโฉด งานนี้ทั้งคู่จำต้องทิ้งความบาดหมางฝ่าชายแดนนิวแม็กซิโกสุดอันตรายเพื่อช่วยลูกชายสุดที่รัก ซึ่งคราวนี้เคต บลานเชตต์มาในลุกผมยาวรุงรังพร้อมพะบู๊แบบคาวบอยสาวแต่ไม่ทิ้งฝีมือในการแสดงบทดราม่าได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นเคย
บท แคทเธอรีน เฮปเบิร์น ใน The Aviator (2004)
การร่วมงานกันครั้งแรกระหว่าง เคต บลานเชตต์ กับผู้กำกับ มาร์ติน สกอร์เซซี ในหนังชีวประวัติของมหาเศรษฐี โฮเวิร์ด ฮิวส์ โดย บลานเชตต์ รับบท แคทเธอรีน เฮปเบิร์น นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์ที่มีความสัมพันธ์กับ ฮิวส์ และด้วยการแสดงที่ถึงพริกถึงขิงของบลานเชตต์ ก็ส่งให้เธอได้รับออสการ์สาขานักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมไปครอง และนับเป็นรางวัลออสการ์ตัวแรก จากการได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงเป็นครั้งที่สอง
บทชีบา ฮาร์ต ใน Notes on a scandal (2006)
อีกบทแรงๆที่ส่งเคต บลานเชตต์ เข้าชิงรางวัลออสการ์เป็นครั้งที่ 3 โดยคราวนี้เธอต้องมารับบท ชีบา ฮาร์ต ครูสาวที่มีสัมพันธ์กับนักเรียนตัวเองจนต้องรับมือกับครูสาวใหญ่อย่าง บาร์บารา (จูดี้ เดนช์) คิดใช้ความผิดบาปมาต่อรองเพื่อให้ได้ครอบครองเธอ ด้วยบทบาทที่เชือดเฉือนแบบไม่มีใครยอมใครของยอดนักแสดงทั้งสอง ออสการ์ปี 2007 เลยได้ปูพรมแดงต้อนรับทั้ง เคต บลานเชตต์ และ จูดี้ เดนช์ ในฐานะผู้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์ทั้งคู่
บท จู๊ด ควิน ใน I’m not there (2007)
I’m not there งานกำกับสุดท้าทาย ของท็อดด์ เฮย์นส์ ที่นำแรงบันดาลใจจากชีวิตและผลงานของ บ็อบ ดีแลน มาถ่ายทอดผ่านเรื่องราวของ 6 ตัวละครที่เป็นสัญลักษณ์แทนภาพลักษณ์ขบถทางดนตรีของเขา โดยเคต บลานเชตต์ รับบท จู๊ด ควิน ศิลปินที่ถูกประณามหยามเหยียดหลังเล่นกีตาร์ไฟฟ้าในงานเทศกาลดนตรีโฟล์ค และต้องรับมือกับกระแสต่อต้านเมื่อครั้งเดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตในอังกฤษ ซึ่งนี่เป็นอีกครั้งที่พิสูจน์ว่าไม่มีอะไรที่เธอทำไม่ได้ทั้งการเปลี่ยนบุคลิกให้เป็นชายทั้งแท่ง และการแสดงที่น่าทึ่งในทุกช็อตจนเธอได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ควบคู่กับ Elizabeth : The Golden Age ในปีเดียวกัน
บท อีริน่า สปัลโค ใน Indiana Jones and The Kingdom of The Crystal Skull (2008)
และในที่สุด เคต บลานเชตต์ ก็ได้ร่วมงานกับพ่อมดฮอลลีวูดอย่าง สตีเวน สปีลเบิร์ก เป็นครั้งแรกในภาคที่ 4 ของหนังชุด อินเดียน่า โจนส์ ซึ่งคราวนี้เธอต้องมารับบท ทหารนาซีสาวสุดโหดพร้อมทรงผมกะลาครอบที่เพิ่มความน่าเกรงขามและประหลาดตาดีแท้
บท เดซี่ ใน The Curious Case of Benjamin Button (2008)
อีกหนึ่งงานสุดท้าทายของเคต บลานเชตต์ที่ต้องรับบทเดซี่ สาวคนรักของเบนจามิน บัตตัน ชายหนุ่มที่วงจรชีวิตสวนทางกับมนุษย์ปกติ ผู้เกิดมาพร้อมใบหน้าและผิวหนังแห้งเหี่ยวเหมือนคนชราและจะเยาว์วัยขึ้นตามกาลเวลา ซึ่งบลานเชตต์ สามารถถ่ายทอดหญิงสาวที่ตกหลุมรักชายหนุ่มชีวิตพิสดารที่นำพาทั้งความสุขและความเจ็บปวดได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเราจะได้เห็นเธออยู่ในเมคอัพวัยสาวสวยสะพรั่งและแก่ชราแห้งเหี่ยว ในหนังสุดประณีตของผู้กำกับสุดเนี๊ยบ เดวิด ฟินเชอร์
บท แจสมิน ใน Blue Jasmine (2013)
และBlue Jasmine ของผู้กำกับ วูดดี้ อัลเลน ก็กลายเป็นหนังเรื่องแรกที่ทำให้เคต บลานเชตต์ได้รับรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมในบท แจสมิน สาวใหญ่ชีวิตพังที่ไปอาศัยอยู่กับน้องสาวและพร้อมพาหายนะทุกทางไปสู่เธอและคนในครอบครัวได้ตลอดเวลา ซึ่งเคต บลานเชตต์ สามารถถ่ายทอดชีวิตสาวใหญ่ขี้โวยวายที่เมาไปวันๆพร้อมพูดเพ้อฝันไม่ยึดติดความจริงได้อย่างฮาแตกและน่าเห็นใจไปพร้อมๆกัน จนคนดูแทบจะเป็นไบโพล่าร์ตามอารมณ์ตัวละครเลยทีเดียว
บทแม่เลี้ยงใจร้ายใน Cinderella (2015)
จากการ์ตูนในดวงใจใครหลายคนสู่หนังคนแสดงที่ เคต บลานเชตต์ ได้สวมบทแม่เลี้ยงใจร้ายของนังซิน ใน Cinderella ของผู้กำกับ เคนเนธ บรานาห์ จาก Thor ซึ่ง บลานเชตต์ ยังคงมาตรฐานการสวมบทร้ายสุดขั้วแบบการ์ตูนแต่เพิ่มความน่าเกรงขามให้ตัวละครดูมีเลือดเนื้อแบบมนุษย์มากขึ้น
บท แครอล แอด์ ใน Carol (2015)
Carol เป็นการร่วมงานครั้งที่ 2 ของเคต บลานเชตต์ กับผู้กำกับ ท็อดด์ เฮย์นส์ จนได้เข้าชิงออสการ์อีกครั้งในบทแครอล สาวใหญ่ที่โชคชะตานำพาให้เธอตกหลุมรักพนักงานห้างสาวสวย (รูนีย์ มาร่า) ในยุคสมัยที่รักร่วมเพศยังไม่ได้รับการยอมรับ ซึ่งบลานเชตต์สามารถทำให้คนดูสัมผัสได้ถึงความใจสลายของผู้หญิงคนนึงที่ต้องเลือกระหว่างความเป็นแม่และความรักที่ใจปรารถนาได้ชวนร้าวรานใจสุดๆ
ติดตามบทบาทล่าสุดของ เคต บลานเชตต์ อย่างบท เฮล่า ราชินีแห่งความตายใน Thor Ragnarok ฉาย 2 พฤศจิกายนนี้
แถมท้ายกับภาพเคต บลานเชตต์ ในบท เจนีน แฟนสาวพระเอก จาก Hot Fuzz (2007) ที่ผู้กำกับ เอ็ดการ์ ไรต์ เชิญเธอมาเล่นหนึ่งซีนแบบปิดหน้าแทบมิด แถมเล่นแบบไม่มีชื่อนักแสดงในเครดิตของเรื่องอีกด้วย
