“Immigrant Song” เป็นเพลงฮาร์ดร็อคอมตะผลงานของ Led Zeppelin วงร็อคระดับตำนานผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาลจากยุค 70s เจ้าของสัญลักษณ์เรือเหาะที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นตา

เลด เซพเพลิน เป็นวงที่ได้การยอมรับนับถือจากศิลปินในยุคหลังมากมาย Led Zeppelin รวมยอดฝีมือระดับเทพไว้ทุกตำแหน่ง โรเบิร์ต แพลนต์ นักร้องนำประจำวงผู้มีเอกลักษณ์เสียงสูงปรี๊ด , จิมมี่ เพจ มือกีตาร์ที่คนในวงการยกตำแหน่งเทพเจ้ากีตาร์ให้เขา , จอน พอล โจนส์ มือเบสประจำวงแต่ถนัดเครื่องดนตรีนับ 10 ชิ้น และเป็นโปรดิวเซอร์ให้ศิลปินรุ่นหลังอีกนับสิบวง และ จอน บอนแฮม มือกลองของวง ฝีมือของเขาอยู่ในอันดับ 1 ของรายชื่อ “มือกลองยอดเยี่ยมตลอดกาล”ที่จัดโดยนิตยสารโรลลิ่งสโตน และเป็นต้นเหตุให้ เลด เซพเพลิน ต้องแยกวง จากการตายของเขาเพราะดื่มเหล้าหนักจนสำลักอาเจียนตัวเองตายในวัย 32 ปี สมาชิกวงตกลงหยุดสถานะเลด เซพเพลิน ไว้ในปี 1979 ทิ้งผลงานสตูดิโออัลบั้มไว้ 9 ชุด ผ่านมาเกือบ 50 ปี วันนี้สมาชิกที่เหลือก็ขึ้นวัย 70 กันหมดแล้ว แต่ยังมารวมตัวกันบ้างเป็นครั้งคราว และไปเป็นแขกรับเชิญกับศิลปินต่างๆ ในงานสำคัญต่าง ๆ บ้าง

Play video

วีดีโอแสดงสดของวง

เลด เซพเพลิน ได้ชื่อว่าเป็นวงดนตรีที่หวงแหนผลงานมาก แม้พวกเขาจะมีเพลงฮิตมากมาย แต่ไม่ยอมปล่อยให้ใครเอาไปใช้ง่าย ๆ โดยเฉพาะเอาไปประกอบภาพยนตร์ หลายเพลงฮิตของ เลด เซพเพลิน ถือว่าเป็นผลงานระดับอมตะที่คนฟังรุ่นเก่าจะคุ้นหู เหมาะมากที่จะนำไปใช้ในตัวอย่างหนังเพื่อเรียกร้องความสนใจจากผู้ชม จึงเป็นที่ต้องการอย่างสูงจากบรรดาผู้สร้างภาพยนตร์ แต่ก็ยังไม่เคยมีใครได้

จนกระทั่ง ริชาร์ด ลิงเคเตอร์ ผู้กำกับหนัง The School Of Rock ปี 2003 หนังเกี่ยวกับคุณครูผู้คลั่งไคล้เพลงร็อคและฟอร์มวงดนตรีกับเด็กนักเรียนของเขา เนื้อหาหนังก็กล่าวยกย่องเลด เซพเพลิน ไว้ด้วย ผู้กำกับก็อยากได้เพลง “Immigrant Song” มาประกอบในเรื่องนี้ และเป็นไปตามคาดเมื่อผู้กำกับริชาร์ด ติดต่อไปก็โดนทาง เลด เซพเพลิต ปฏิเสธมา แต่แจ๊ค แบล็ค นักแสดงนำที่ตัวเขาเองก็รักและนับถือเลด เซพเพลินอย่างจริงจัง จึงใช้แผนขึ้นเวทีโปรโมตหนัง The School Of Rocks บนเวทีเขากล่าวยกย่องสดุดีเลด เซพเพลิน มากมายสุดท้ายแล้วก็ลงท้ายด้วยการขอเสียงผู้ชมทั้งฮอลล์ให้ช่วยอ้อนวอนให้เลด เซพเพลิน อนุญาตให้เขาได้ใช้ “Immigrant Song”มาประกอบในหนังด้วยเถอะ แล้วมันก็………………………….สำเร็จครับ แต่กระนั้นค่าลิขสิทธิ์ก็ไม่ใช่ถูกนะครับ แต่ละเพลงนี่ทางสตูดิโอต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์กันถึง 7 หลักเลยทีเดียว

Play video

วีดีโอที่แจ๊ค แบล็ค ล็อบบี้ผู้ชม

วงการหนังต้องขอบคุณแจ๊ค แบล็ค นะครับ เพราะตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา เลด เซพเพลิน ก็เริ่มโอนอ่อนปล่อยเพลงของเขาให้ไปใช้ประกอบหนังมาอีกหลายเรื่องแม้ว่าค่าลิขสิทธิ์จะแพงหูฉี่ก็เถอะ

  • “Immigrant Song” ถูกใช้ใน The School Of Rock (2003) , King Arthur: Legend of the Sword (2017) , Thor : Ragnarok (2017)
  • “Immigrant Song” คัฟเวอร์เวอร์ชั่น ถูกใช้ใน The Girl with the Dragon Tattoo (2011)
  • “like a man determined to marry somebody” ถูกใช้ใน Silver Linings Playbook (2012)
  • “Kashmir” ถูกใช้ใน John Carter (2012) , X-Men: Days of Future Past (2014)
  • “When the Levee Breaks” ถูกใช้ใน Argo (2012)
  • “Good Times Bad Times” ถูกใช้ใน American Hustle (2013)
  • “Ramble On” ถูกใช้ใน Oblivion (2013)

ปกซิงเกิ้ล immigrant song

กลับมาที่เพลง “Immigrant Song” แม้ว่าเพลงนี้จะไม่ใช่เพลงลายเซ็นของทางวงอย่าง “Stairway To Heaven” แต่ก็เห็นได้ว่าเป็นเพลงที่ผู้สร้างชื่นชอบสุด ถูกนำไปประกอบในหนังและตัวอย่างหนังถึง 4 เรื่อง

Immigrant Song  เป็นซิงเกิ้ลที่ตัดจากอัลบั้ม Led Zeppelin III ออกในปี 1970 นับถึงวันนี้ก็ 47 ปีเข้าไปแล้ว เห็นได้ชัดถึงความเป็นอมตะของเพลง แม้เนื้อร้องจะสั้นแค่ไม่กี่บรรทัด และเพลงสั้นแค่เพียง 2.26 นาทีเท่านั้น ด้วยความมันส์ของเพลงที่เข้าถึงจิตใจผู้ชมทำให้เพลงปีนเข้าชาร์ตใน 12 ประเทศ ขึ้นชาร์ตบิลบอร์ดได้สูงสุดที่อันดับ 16 ในปีนั้น และเป็นอีก 1 เพลงฮิตของทางวง เลด เซพเพลิน ใช้ “Immigrant Song” เป็นเพลงเปิดทุกคอนเสิร์ตในช่วงปี 1970 – 1972

Ah-ah, ah!
Ah-ah, ah!
We come from the land of the ice and snow
From the midnight sun, where the hot springs flow
The hammer of the gods
W’ell drive our ships to new lands
To fight the horde, and sing and cry
Valhalla, I am coming!
On we sweep with threshing oar
Our only goal will be the western shore
Ah-ah, ah!
Ah-ah, ah!
We come from the land of the ice and snow
From the midnight sun where the hot springs flow
How soft your fields so green
Can whisper tales of gore
Of how we calmed the tides of war
We are your overlords
On we sweep with threshing oar
Our only…

จอห์น พอล โจนส์ , จอห์น บอนแฮม , จิมมี่ เพจ และ โรเบิร์ต แพลนต์ ในยุค 70s

โรเบิร์ต แพลนต์ เล่าถึงเนื้อหาของเพลงว่า “Land of ice and snow” ของเขานั้นหมายถึงประเทศไอซแลนด์ ที่พวกเขาไปแสดงสดที่นั่นในเดือนมิถุนายน 1970 “เราเป็นแขกของกระทรวงวัฒนธรรมของไอซ์แลนด์ ที่เชิญพวกเราไปโชว์ที่มหาวิทยาลัยเรย์จาวิค แต่ก่อนที่เราจะไปถึงได้วันหนึ่งพวกชนชั้นแรงงานก็ประท้วงกัน ทำให้การแสดงโชว์ของพวกเราต้องยกเลิก แต่พวกนักศึกษาก็จัดสถานที่ไว้รอพวกเราแล้ว ปฏิกิริยาตอบรับจากเหล่านักศึกษามันช่างน่าทึ่งและทำให้มันเป็นช่วงเวลาที่น่าจดจำมาก ผมก็เลยเขียน “Immigrant Song”อ้างอิงจากทริปนั้น แล้วผมก็ใช้มันเป็นเพลงปิดของอัลบั้ม เพื่อต้องการให้คนฟังรู้สึกถึงความแปลกใหม่ต่างจากเพลงที่ผ่าน ๆ มา”

แรงบันดาลใจอีกอย่างในการเขียนเพลงนี้ของโรเบิร์ต แพลนต์คือ ตัวเขาเองชอบเรื่องราวประวัติศาสตร์ ก็เลยแทนตัวเองกับความรู้สึกของมาร์โค โปโล ว่าเขาจะรู้สึกอย่างไรนะเมื่อได้ค้นพบดินแดนใหม่ แล้วเปรียบเทียบกับตัวเขาเองที่เดินทางบนเส้นทางนักดนตรี แล้วได้รับแรงกดดันอย่างมากหลังจากประสบความสำเร็จอย่างสูงในอัลบั้มที่แล้ว (Whole Lotta Love ขึ้นถึงอันดับที่ 4 ในบิลบอร์ดชาร์ต) แล้วเขาเองจะต้องดั้นด้นพยายามค้นพบดินแดนใหม่ให้ได้ดีกว่าเดิม จะต้องเป็นการค้นพบที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม

จอห์น พอล โจนส์ , โรเบิร์ต แพลนต์ และ จิมมี่ เพจ ในวัย 70 ปี

ประโยคที่ว่า “The hammer of the gods will drive our ships to new lands” ถูกบรรดาแฟนเพลงของเลด เซพเพลิน นำไปใช้แทนคำยกย่องชื่นชมว่า ดนตรีของเลด เซพเพลิน เปรียบดังกับค้อนของพระเจ้าที่ฟาดลงมา ประโยคนี้ยังถูกนำไปใช้เป็นชื่อหนังสือที่สตีเฟน เดวิส เขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเลด เซพเพลิน อีกด้วย

หน้าปกหนังสือ hammer of the gods

  • เสียงซ่ากระจาย (Hiss) ในตอนต้นเพลงเกิดจากการปรับเสียงเอ็กโค่ เป็นความตั้งใจของทางวง

และเหตุที่ว่าทำไมหนัง Thor : Ragnarok ถึงเลือกใช้ “Immigrant Song” ทั้งในตัวอย่างหนัง และในฉากสู้รบในหนังก็เพราะเนื้อหาของเพลงที่บรรยายไว้ ก็ช่างเข้ากับเรื่องราวของภาคนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะท่อน “Valhalla I am coming” ก็ตรงกับตำนานของทางนอร์ส ที่บรรยายไว้ว่า วัลฮาลล่าคือโถงศักดิ์สิทธิ์ในแอสการ์ด ที่ซึ่งเหล่านักรบวาลคีรี่จะนำวิญญาณของผู้กล้าผู้ถูกสังหารในสงคราม เหล่าวิญญาณของผู้กล้าจะสิงสถิตอยู่ในวัลฮาลล่าเพื่อรอวันพิพากษาอีกครั้งหนึ่ง ในหนังเราก็จะเห็นทั้ง ค้อนของพระเจ้า และ เหล่านักรบวาลคีรี่