เพื่อเป็นการต้อนรับการเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ของภาพยนตร์เรื่อง Loving Vincent ภาพยนตร์เชิงชีวประวัติ ที่บอกเล่าเส้นทางชีวิตของศิลปินคนดัง “วินเซนต์ ฟาน ก๊อก” หนึ่งในศิลปินชาวฮอลแลนด์ผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุดคนหนึ่งของโลก เจ้าของเทคนิคภาพวาดที่เน้นการใช้สีน้ำมันกับจังหวะแปรงอันมีเอกลักษณ์ ซึ่งหนังเรื่องนี้ได้นำเอาเทคนิคการวาดภาพของฟาน กีอก มาดัดแปลงและใช้ในหนังมากกว่า 65,000 เฟรม ทั้งยังใช้สีน้ำมันไปทั้งสิ้น 3,000 ลิตร และผ้าใบแคนวาสมากกว่า 1,000 ผืน
ในวันนี้ผมจึงมาถ่ายทอดเรื่องราวของบทเพลงที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพวาดและชีวิตอันแสนขื่นขมแต่งดงามของจิตรกรเอกของโลกท่านนี้ “วินเซนต์ ฟาน ก๊อก” และเพลงเพลงนี้มีชื่อว่า “Vincent” ครับ
“Vincent” เป็นบทเพลงฮิตของนักร้อง นักแต่งเพลงโฟล์คระดับตำนานชาวอเมริกัน ดอน แมคลีน (Don McLean) ผู้ซึ่งชื่อเสียงมาตั้งแต่ยุค 70s โดยมีเพลง American Pie เป็นอีกหนึ่งเพลงที่เป็นที่รู้จัก
หลายคนอาจเรียกเพลง “Vincent” ว่า “The Starry Starry Night” (ตามชื่อภาพ The Starry Night และท่อนร้องเปิดในเพลง ดอน แมคลีน เขียนเพลงนี้ขึ้นในปี 1971 หลังจากได้อ่านหนังสือชีวประวัติของ ฟาน ก๊อก จิตรกรแนวโพสต์อิมเพรสชั่นนิสม์ ผู้ปลิดชีพตัวเองและจากโลกนี้ไปด้วยวัยเพียง 37 ปี ด้วยความสะเทือนใจและประทับใจในจิตรกรท่านนี้ ดอน แมคลีนจึงแต่งเพลงนี้ขึ้นเพื่ออุทิศให้แด่ฟาน ก๊อก ผู้เป็นศิลปินเอกของโลกใบนี้
โดย ดอน แมคลีนได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพอันมหัศจรรย์และเป็นที่รู้จักกันดีของ ฟาน ก๊อก นั่นก็คือ ภาพ The Starry Night ซึ่งเป็นภาพที่ฟาน ก๊อกเขียนขึ้นจากวิวหน้าต่างของสถานบำบัดที่เขาเข้าไปรับการรักษา โดยเป็นภาพทิวทัศน์ของเมืองยามค่ำคืน อันมีจุดเด่นคือการใช้สีในโทนมืด ระบายแต้มไปทั่วโดยมีการเคลื่อนไหวของลายอันบิดพลิ้ว มวนขด อันสะท้อนให้เห็นถึงสภาวะความรู้สึกในจิตใจของ ฟาน ก๊อก มันทั้งดูเศร้าและงดงามไปในเวลาเดียวกัน และยิ่งกว่านั้นแท้จริงแล้วภาพนี้ ฟาน ก๊อกเขียนขึ้นในเวลากลางวัน !!!
ส่วนในด้านดนตรีนั้นนอกจากเสียงเกากีตาร์สุดพริ้วไหวของดอน แมคลีนแล้วเพลงนี้ยังมีเครื่องดนตรีอื่นๆมาร่วมสร้างสีสันด้วยอันได้แก่ แอคคอเดียน มาริมบา และกลุ่มเครื่องสาย หลายคนที่ชอบเล่นกีตาร์โปร่ง คงต้องเคยผ่านเพลงนี้มาอย่างแน่นอน
Starry, starry night
Paint your palette blue and grey
Look out on a summer’s day
With eyes that know the darkness in my soul
ค่ำคืนอันสุกสกาวไปด้วยดวงดาว
ทาทาบสีสันด้วนสีฟ้าและเทา
เฝ้ามองวันหนึ่งในฤดูร้อน
ด้วยดวงตาที่ตระหนักรู้ในความมืดมิดแห่งจิตวิญญาณ
Shadows on the hills
Sketch the trees and the daffodils
Catch the breeze and the winter chills
In colors on the snowy linen land
เงาทาบทับไปบนเขา
ร่างวาดหมู่แมกไม้และดอกแดฟโฟดิล
ฉวยจับลมหายใจและลมหนาวที่พัดโชย
ท่ามกลางสีสันแห่งมวลหิมะนวล
เริ่มแรกบทเพลงได้บรรยายถึงบรรยากาศที่เราสัมผัสได้จากภาพ Starry Night
Now I understand what you tried to say to me
How you suffered for your sanity
How you tried to set them free
They would not listen, they did not know how
Perhaps they’ll listen now
และในตอนนี้ผมรู้แล้วว่าคุณต้องการเอ่ยสิ่งใดกับผม
ว่าคุณต้องทนทุกข์มากมายเพียงใด
ว่าคุณพยายามแค่ไหนที่จะเป็นอิสระ
พวกเขาคงไม่เคยฟัง พวกเขาคงไม่เคยรับรู้
แต่บางทีคราวนี้พวกเขาคงจะได้รับฟัง
ดอน แมคลีน กลั่นกรองความรู้สึกข้างในออกมา มันเป็นความอัดอั้นที่เขาอยากบอกให้โลกรู้ว่า ฟาน ก๊อก นั้นเจ็บปวดจากสิ่งที่เป็นมากเพียงใด เขาไม่ใช่คนบ้า เขาก็เหมือนพวกเรา ที่มีความเจ็บปวดอยู่ในใจ แต่ไม่รู้จะเอื้อนเอ่ยมันออกไปเช่นไร ภาพวาดของเขาบอกเราได้เป็นอย่างดี แต่พวกเราต่างหากที่ไม่เคย “ฟัง” มันเลย ในคราวนี้ ดอน แมคลีน จึงถ่ายทอดความรู้สึกนี้ผ่านบทเพลงเพื่อให้พวกเราได้ “ฟัง”
และนี่ก็คือเรื่องราวจากหนึ่งงานเพลงระดับ มาสเตอร์พีซของศิลปินระดับตำนานที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหนึ่งผลงานมาสเตอร์พีซจากจิตรกรเอกระดับตำนานเช่นกัน
ได้อ่านเรื่องราวของเพลงนี้แล้วก็อย่าลืมเปิดฟัง “Vincent” อีกสักหลายๆรอบนะครับ และก็ห้ามพลาดเลยกับภาพยนตร์เรื่อง “Loving Vincent” ในโรงภาพยนตร์เครือเมเจอร์ซีเนเพล็กซ์ เข้าฉายวันแรก 21 ธันวาคมนี้ครับ ซึ่งในภาพยนตร์ก็ได้มีการนำเพลง “Vincent” มาคัฟเวอร์ใหม่และขับร้องโดยนักร้องสาวชาวอังกฤษ ลีแอน ลา ฮาวาส (Lianne La Havas) โดยใช้ชื่อเพลงว่า “Starry Starry Night” โดยมีกลิ่นอายของโซลและอาร์ แอนด์ บีให้อารมณ์ล่องลอยแกมเศร้าไปอีกแบบนะครับ เพราะมากเลย ลองฟังกันดูครับ