หลังจากที่มีดราม่าประเด็นที่ “สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” เจ้าของพื้นที่จะไม่ต่อสัญญา โรงภาพยนตร์เก่าแก่อย่าง “สกาลา” รวมถึง “ลิโด” ที่ตั้งอยู่ในบริเวณสยามสแควร์ ซึ่งทั้ง 2 ที่นี้มีเจ้าของกิจการคือ เครือ APEX ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ ตั้งแต่ “ดวงฤทธิ์ บุนนาค” สถาปนิกชื่อดัง ได้พูดถึงกรณีนี้บน Facebook เกรงว่าจะมีการรื้อถอนโรงภาพยนตร์สกาลา ที่ควรค่าแก่การเก็บสถาปัตยกรรมดั่งเดิมไว้ อีกทั้งคอหนังก็ต้องการให้มีโรงภาพยนตร์ที่ไว้รองรับฉายหนังนอกกระแส ซึ่งนับวันมีน้อยลงเรื่อยๆ ทำให้ถูกพูดต่อกันมาเป็นวงกว้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นไปในทางคัดค้านการรื้อถอน จนเกิด Hashtag “#SaveScala” ใน Twitter ที่ติด Top Trend ของไทย และมีแคมเปญที่ Change.org
ล่าสุดทาง “สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย” ได้ชี้แจงผ่านทาง Facebook เพจอย่างเป็นทางการ สรุปใจความได้ว่า
- สำนักงานยังไม่มีแผนการรื้อทุบใดๆ ทั้งสิ้น และยืนยันว่า เราไม่มีความประสงค์ที่จะขอคืนพื้นที่โรงภาพยนตร์สกาลาแต่อย่างใด
-
หากผู้เช่าต้องการเลิกประกอบการสกาลาพร้อมๆ ไปกับลิโด (เป็นผู้ประกอบการรายเดียวกัน) เนื่องจากแบกรับการขาดทุนไม่ไหว สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ ได้มีการเจรจาขอให้สกาลาอยู่ต่อไป แต่ขอให้คืนเฉพาะลิโด
-
เนื่องจากสภาพพื้นที่โดยรวมของร้านค้าใต้ลิโดที่แบ่งล็อคให้เช่าเป็นร้านค้ารายย่อยมีสภาพเก่าทรุดโทรมมาก จึงจะขอกลับมาพัฒนาพื้นที่เองเมื่อสัญญาสิ้นสุด
4. สำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ กำลังหารูปแบบการดำเนินการที่เหมาะสมกับสกาลา ที่ผ่านมาทางนายกสมาคมสถาปนิกสยามได้แสดงความสนใจที่จะขอใช้พื้นที่สกาลาเป็นพื้นที่แสดงกิจกรรมของสมาคม และยังมีองค์กรอื่นที่สนใจ ตลอดจนอีกหลายฝ่ายที่ให้ความเห็นอยากให้อนุรักษ์อาคารสกาลาไว้เพื่อพัฒนาพื้นที่ส่วนโรงภาพยนตร์ในการจัดกิจกรรมต่างๆในเชิงสร้างสรรค์และสอดคล้องกับอาคารที่เป็นอยู่
สั้นๆ คือ ถ้าเครือ APEX ไม่ต่อสัญญา ลิโด ทางสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาฯ จะขอนำมาพัฒนาพื้นที่เอง ส่วน สกาลา จะไม่ทุบแน่นอน แต่กำลังหาทางว่าเอาไปทำอะไรต่อ
อ้างอิง: PostToday , CU Property Official Facebook Page
ภาพหัวข่าว: ThaiPublica