หนังสยองขวัญฟอร์มเล็กมากกกกที่เน้นขายชื่อแม็กกี้ คิว อดีตดาราสาวหุ่นเซ็กซี่ ผลงานของผู้กำกับโจนาธาน ฮอปกินส์ ที่ประเดิมงานกำกับเรื่องนี้เรื่องแรกและพ่วงหน้าที่เขียนบทเองด้วย หนังเลือกที่จะหาช่องทางแปลกใหม่ในจักรวาลหนังสยองขวัญมาเป็นจุดขาย ด้วยการเลือกเอา “ฝันร้าย” มาเป็นประเด็นหลัก ต่อยอดด้วยการอธิบายหลักการทางวิทยาศาสตร์ถึงสาเหตุฝันร้าย ที่สุดท้ายต้องยอมจำนนกับโลกไสยศาสตร์ที่ว่าด้วยปีศาจโบราณที่ชอบเกาะกินวิญญาณคนขณะหลับไหล
แม็กกี้ คิว มารับบทเป็นอลิซ คุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่องการแก้ไขปัญหาในการนอนหลับ เป็นตัวละครเดียวในเรื่องที่มีการปูภูมิหลังว่าเธอมีภาพความทรงจำอันเลวร้ายจากวัยเด็ก เมื่อพี่ชายที่อายุไล่เลี่ยกันเป็นโรคละเมอเดิน แล้วก็เป็นเหตุให้เขาเสียชีวิตไปต่อหน้าต่อตาเธอ เป็นเหตุจูงใจให้อลิซ เลือกที่จะโตมาเป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้และทำการรักษาผู้มีปัญหาการนอน ครอบครัวมอร์แกน มีพ่อแม่ลูกชายและลูกสาว พากันมาหาหมออลิซ แจ้งว่าทั้งครอบครัวฝันร้ายและละเมอเพ่นพ่านกันทั่วบ้านทั้ง 4 คน โดยเฉพาะตัวลูกชายแดเนียล จะมีอาการหนักสุดที่มีอาการของผีอำนอนนิ่งตาเหลือกอยู่บนเตียงเคลือนไหวร่างกายไม่ได้ อลิซให้ทั้ง 4 เข้าพักที่โรงพยาบาลและสังเกตการณ์ คืนนั้นทั้ง 4 ก็ละเมอและแสดงอาการคลุ้มคลั่งให้เห็นจริง ทั้งอลิซและหมอผู้ช่วยต่างก็จนปัญญาหาคำตอบกับอาการของครอบครัวมอร์แกน จนเธอเริ่มเชื่อเรื่องปีศาจร้ายในตำนานที่เกาะกินคนในความฝันและหาทางช่วยเหลือแดเนียลและครอบครัว
ด้วยเนื้อหาว่าด้วยฝันร้าย แต่เล่าเรื่องผ่านเหตุการณ์ในโรคจริงตลอดเรื่อง ไมได้พาเราเข้าไปเผชิญภาพในความฝัน หนังจึงต้องเลือกขายฉากสยองขวัญด้วยการให้ครอบครัวมอร์แกนที่อยู่ในภาวะละเมอลุกมาทำเรื่องน่ากลัวหวาดเสียว ทั้งต่อตัวเองและคนรอบข้าง ก็ให้เราลุ้นกันไปว่าแต่ละคนจะทำอะไรรุนแรงน่ากลัวกันไหม หนังมีตุ้งแช่บ้างเล็กน้อย ส่วนใหญ่จะตกใจกับเอ็ฟเฟ็กต์เสียงโฉ่งฉ่างเสียมากกว่าตกใจกับภาพความน่ากลัว หนังไม่มีผีออกมาให้เห็นนะครับ ไม่ต้องคาดหวัง จริง ๆ ก็มีนิดนึงแหละ ท้ายเรื่องเป็นเงาตัวดำ ๆ โผล่มาแว้บนึง แต่ไม่น่ากลัวเลย คุณภาพหนังก็เป็นไปตามหน้าหนังอย่างที่เห็นแหละนะครับ ไม่คาดหวังก็ไม่ผิดหวัง บทหนังเต็มไปด้วยความบังเอิญและไร้เหตุผลสมควร โดยเฉพาะการเปิดตัวอมาโด คุณปู่ผู้เคยเผชิญปีศาจความฝันมาแล้ว แล้วก็เสนอตัวมาช่วยครอบครัวมอร์แกนอย่างทุ่มเทจริงจัง ด้วยความที่หนังพยายามสร้างฉากลุ้นสะดุังอยู่หลายครั้ง แต่กลับสร้างอารมณ์ร่วมไม่สำเร็จ ขณะดูก็ไม่รู้สึกว่าจะต้องเบือนหน้าหนีจากจอเวลาจะลุ้นกลัวตกใจ หรือเอามือมาปิดตาอย่างที่เคยทำกับหนังสยองขวัญเรื่องอื่น ๆ เลย โดยรวมก็เลยทำให้หนังที่ยาวเพียง 1 ชั่วโมง 20 นาที แต่กลับรู้สึกว่าช่างยาวนานได้
หนังพยายามทำให้เนื้อหาดูจริงจังด้วยการใช้ภาพเขียนโบราณ ที่หลาย ๆ ภาพดูคุ้นตามาอ้างอิงว่าผีในฝันร้ายนั้นมีการศึกษาค้นคว้ากันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้วจริง ๆ และก็ย้ำกับเรื่องภาพและเอกสารในอดีตอยู่หลายครั้งจนรู้สึกซ้ำซาก การสร้างปมในใจแต่ครั้งอดีตของอลิซก็เป็นอีกจุดที่หยิบมาย้อนเล่าอีกหลายครั้งเช่นกัน แม้สุดท้ายอลิซจะเอาชนะปมในใจได้ แต่ก็ไม่ได้เห็นว่าส่งผลอะไรให้กับการคลี่คลายของเรื่องราว ฉากไคลแมกซ์ดูอึกทึกคึกโครม ทั้งภาพที่สั่นไหวและดนตรีที่เร่งเร้าแต่ก็เหมือนความพยายามสูญเปล่าเพราะไม่ได้รู้สึกลุ้นไปกับชะตากรรมของตัวละครบนจอเลยแม้แต่น้อย นี่ขนาดว่าดูในโรงด้วยนะ ถ้าดูจอเล็กคงจะไม่เหลืออารมณ์ร่วมอะไรให้ลุ้นแล้วล่ะ
แม็กกี้ คิว ดาราที่ถูกใช้เป็นจุดขายและนั่งตำแหน่งอำนวยการสร้างด้วย เป็นตัวเลือกที่ดูไม่ใช่กับบทแพทย์สาวเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่าแม็กกี้ในวัย 38 ยังสวยเป๊ะอยู่มาก ส่วนดาราคนอื่นโนเนมล้วน ๆ ไม่คุ้นหน้าสักคนเดียว งานแสดงโดยรวมดีทั้งนักแสดงเด็กและผู้ใหญ่ และน่าจะเป็นจุดเดียวที่พอจะชื่นชมได้กับ Slumber เป็นหนังสยองขวัญที่ไม่ได้มีความน่ากลัว และน่าติดตามเลยแม้เพียงนิด หาอะไรอย่างอื่นทำเหอะครับ