ก่อนดูก็เข้าใจว่ามันคงจะเป็นหนังเอาใจนักวิจารณ์ คงเฉลยออกมาแบบอุปมา ต้องตีความเชิงลึก เลยถูกใจนักวิจารณ์ถึงขนาดเทคะแนนให้กันแบบหมดใจ บนเว็บ rottentomatoes ก็ยืนคะแนนที่ 100% มานับเดือน ไม่มีนักวิจารณ์ให้คะแนนลบสักคนเดียว
แต่พอได้ดูกลับผิดคาด มันคือหนังสยองขวัญเอาใจตลาดแบบจริงจัง ไม่ต้องวิเคราะห์ไม่ต้องตีความ ขายฉากสยองกันแบบตรงไปตรงมา เป็นหนังที่คอหนังสยองขวัญจะต้องพึงพอใจกันอย่างสุด ๆ ถ้าใครชอบฉากเงียบ ๆ ลุ้น ๆ A Quiet Place มีให้คุณแบบจุใจ ลากกันยาว ๆ เป็นชั่วโมงไปเลย
หนังเล่าเหตุการณ์สมมติในปี 2020 ครอบครัวแอบบอตต์มีพ่อแม่ลูกชาย ลูกสาว อาศัยอยู่ในฟาร์มข้าวโพด แต่ละวันต้องดำเนินชีวิตกันแบบไร้เสียง เพราะถ้ามีใครทำเสียงดังเจ้าสิ่งลึกลับดุร้ายมันจะบุกมาคร่าชีวิตพวกเขา แล้วด้วยพลอตที่ว่าเจ้าสิ่งลึกลับจะปรากฏตัวถ้ามีเสียงดังนี่ล่ะ เอามาขยายเป็นบทภาพยนตร์ที่ทำให้สนุกได้มาก หนังก็เลยใส่เหตุบังเอิญให้มีเสียงดังอยู่บ่อยครั้ง แล้วทั้งครอบครัวก็ต้องอยู่ในภาวะตระหนก เตรียมรับมือกับการมาของเจ้าสัตว์ลึกลับ
ต้องชื่นชม ไบรอัน วู้ด และ สก็อตต์ เบ็ค เจ้าของเรื่องและบทภาพยนตร์ ที่เล่าเรื่องได้สนุกน่าสะพรึงตลอด 90 นาที และที่ต้องชื่นชมสุด ๆ คือ จอห์น คราซินสกี ดาราตัวประกอบตลอดกาล ที่หลายคนน่าจะคุ้นหน้าเขา ที่มาจับงานกำกับเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 และกลายเป็นงานที่ก้าวกระโดดอย่างมาก จอห์น ไม่เพียงแต่กำกับ เขายังรับบทนำ และแก้ไขบทในร่างสุดท้ายด้วย เป็นคนที่ได้ดีเพราะเมียจริง ๆ พาราเมาท์ทาบทามจอห์นมารับบทนำ เลยส่งบทมาให้เขาอ่านก่อน เอมิลี่ บลันต์ เมียในชีวิตจริงของจอห์น มาอ่านบทด้วยแล้วสนใจ เลยยื่นข้อเสนอกับพาราเมาท์ว่าเธอสนใจร่วมแสดงเรื่องนี้ด้วย เป็นข้อเสนอที่เรียกความสนใจพาราเมาท์ได้ดี เพราะชื่อเอมิลี่ บลันต์ ช่วยให้หนังดึงคนดูได้มากขึ้นแน่ แต่พาราเมาท์ต้องรับข้อแม้ว่า “ต้องให้จอห์น คราซินสกี สามีเธอรับหน้าที่กำกับด้วย” แม้ดูจะเป็นงานเสี่ยงกับดาราที่เคยมีผลงานกำกับหนังโรแมนติก-คอมมีดี้ มาแค่เรื่องเดียว แต่ผลที่ได้กลับได้รับเสียงตอบรับที่ดีเกินคาด
หนังเล่าเรื่องราวแบบก้าวกระโดดแต่ไม่ได้ทำให้เข้าใจยาก จากวันที่ 89 หลังวิกฤตการณ์ มาวันที่ 200 กว่า และสุดท้ายวันที่ 400กว่า แนะนำว่าหายใจให้ลึก ๆ ใน 30 นาทีแรก เพราะเมื่อเข้าวันสุดท้ายของเรื่อง คุณจะไม่ได้หายใจทั่วท้องอีกแล้ว บทหนังใช้เวลาครึ่งชั่วโมงแรก ให้เราทำความรู้จักตัวละครหลักทั้ง 4 ได้ลงลึกความสัมพันธ์ของพ่อแม่ลูก ปมในใจของแต่ละคน โดยมุ่งเน้นไปที่ความรักระหว่างพ่อและมิลลิเซนต์ที่นำมาขยี้ในช่วงหลังอย่างได้ผลชะงัดนัก
พอเข้าครึ่งหลัง หนังก็อัดวิกฤตการณ์ถาโถมเข้าใส่ครอบครัวแอบบอตต์แบบไม่ยั้ง ดูไปก็นึกไปว่าไอ้คนเขียนบทนี่มันใจร้ายกับตัวละครมาก อัดฉากลุ้นเกร็งกันแบบต่อเนื่อง ลุ้นแล้วลุ้นอีกยาว ๆ นับชั่วโมง เรียกว่าสะใจคอหนังสยองขวัญกันไปเลย แม้ในตัวอย่างหนังจะไม่เผยเจ้าตัวลึกลับให้เห็น แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ไม่มีการเก็บงำหรือให้เห็นแวบ ๆ หรืออุบไว้มาเผยกันท้ายเรื่องแบบนั้น เจ้าตัวลึกลับนี่โผล่มาตั้งแต่ต้นเรื่องเลย แล้วตั้งแต่กลางเรื่องไป ก็ปรากฏโฉมกันให้เห็นแบบเต็มตัว โคลสอัปกันให้เห็นความน่าเกลียดน่ากลัวกันแบบชัด ๆ ยิ่งตัวร้ายของเรื่องน่ากลัวเพียงใด อรรถรสของหนังก็ยิ่งเข้มข้นมากขึ้นเท่านั้น
เอมิลี่ บลันต์ ทำหน้าที่ได้คุ้มค่าดาราใหญ่ครับ ฉากห้องใต้ดินนี่เป็นฉากของเธอจริง ๆ กับการที่ต้องแสดงความเจ็บปวดขั้นสุดออกทางสีหน้า แต่ไม่สามารถกรีดร้องได้ การถ่ายทอดทางสีหน้าอาการเข้าถึงคนดูอย่างเรา ๆ ได้จริงครับ ว่าเจ็บปวดเพียงใดต้องอดกลั้นขนาดไหน
มิลลิเซ็นต์ ซิมมอนด์ ในบทเรแกน ลูกสาวคนโตเป็นอีกคนที่น่าชื่นชมเพราะในบทเธอคือเด็กสาวที่หูหนวก และที่สำคัญมิลลิเซ็นต์เธอหูหนวกจริง ๆ เป็นบทที่สวนทางกับธีมของเรื่อง ในขณะที่พ่อแม่และน้องที่ประสาทหูปกติกลับต้องอยู่ในโลกเงียบ ๆ พูดคุยกันด้วยเสียงไม่ได้ แต่กับมิลลิเซ็นต์ที่ต้องติดอยู่ในโลกเงียบเพราะพิการหู กลับเป็นคนที่อยากได้ยินเสียงเหมือนพ่อแม่และน้อง หนังใช้ประโยชน์กับแคแรกเตอร์ที่เป็นสาวหูหนวกของเธอได้ดี ที่ต้องไปอยู่ใกล้ ๆ กับเจ้าสัตว์ร้ายแต่เธอก็ยังไม่ได้ยินเสียงว่ามันมาอยู่ใกล้ ๆ แล้ว ชวนลุ้นมาก
สรุปว่า A Quiet Place คือหนังสยองขวัญที่สนุกมาก ได้ทั้งความน่ากลัว โดยไม่ต้องเน้นขายตุ้งแช่ แถมดราม่าเล็ก ๆ เรื่องความรักในครอบครัว เล่าเรื่องได้เก่ง ตัวอย่างของหนังสนุกที่ไม่ต้องมากซีจี ไม่ต้องมากคนแสดง ไม่ต้องใช้ทุนสร้างมหาศาล สนุกรวบรัดในเวลาแค่ 90 นาที จบได้แบบลงตัวสุด ๆ ดีงามสมคุณค่า 100% จาก Rottentomatoes ไม่ควรพลาด หนังเปิดรอบพิเศษ 3 – 4 เมษายน นี้ ฉายจริง 5 เมษายน