Ready Player One ผลงานล่าสุดของ สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้รวบรวมเอา Easter Egg ที่อ้างอิงถึงวัฒนธรรมป๊อปจำนวนมหาศาลในยุค 1980 – 2000 ทั้งรายการทีวี ภาพยนตร์ วิดีโอเกม และเพลงต่างๆ มาใส่ในภาพยนตร์ได้อย่างกลมกลืน และโดนใจเหล่า เนิร์ด (Nerd) ยิ่งนัก
เรื่องน่าสนใจก็คือ ผู้สร้างสามารถนำตัวละครที่เป็นลิขสิทธิ์ และทรัพย์สินทางปัญญาของสติโอ
ส่วนใหญ่มาจากลิขสิทธิ์ของ Warner Bros. เอง
จาก Easter Egg จำนวนมหาศาลใน Ready Player One นั้น ถ้าสังเกตให้ดีจะเป็นตัวละครที่เป็นลิขสิทธิ์ หรือทรัพย์สินทางปัญญาของ Warner Bros. เสียเป็นส่วนใหญ่ เช่น Iron Giant (นำมาแทน Ultraman จากนิยายต้นฉบับของ เออร์เนสต์ ไคลน์ เพื่อแกัปัญหาลิขสิทธิ์ของญี่ปุ่น), The Lord of the Rings หรือซูเปอร์ฮีโร่ของ DC เป็นต้น
จากสตูดิโออื่นที่ไม่ใช่ Warner Bros.
สิ่งยากและท้าทายเป็นอย่างยิ่ง ก็คือการเข้าถึงลิขสิทธิ์ที่ไม่ใช่ของ Warner Bros. ทั้งรายการโทรทัศน์, วิดีโอเกม และต้วละครจากภาพยนตร์ต่างๆที่ถูกนำมาใช้ตลอดทั้งเรื่อง และนั่นเป็นหน้าที่ของ คริสตี้ มากอสโก ครีเกอร์ ผู้อำนวยการสร้าง และ ดีเดร แบคส์ ผู้ดูแลโปรเจ็คต์พิเศษ ที่ช่วยให้ทีมผู้สร้างสามารถใช้ตัวละครที่เป็นสิทธิบัตรของ Disney, Fox, Paraomount, Universal และสตูดิโออื่นๆอีกมากมาย ได้อย่างราบลื่น
อะไรบ้างที่ “ไม่ได้” ใส่ลงไป
อีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจคือ สตีเวน สปีลเบิร์ก ไม่ต้องการให้ใส่ Easter Egg ที่อ้างอิงจากภาพยนตร์ที่เขาได้กำกับ เนื่องจากไม่อยากให้สิ่งเหล่านี้มาบดบังภาพยนตร์, รายการทีวี หรือวิดีโอเกมอื่นๆที่ถูกนำมาใส่ใน Ready Player One
นั่นเป็นเพราะ สปีลเบิร์ก ได้สร้างภาพยนตร์สุดฮิต และตัวละครที่เป็นไอค่อนแห่งวัฒนธรรมป็อปยุค 80 – 90 เอาไว้จำนวนมาก เช่น Jaws, Close Encounter of the Third Kind, ไตรภาค Indiana Jones, E.T.: The Extra Terrestrial หรือ Jurassic Park เป็นต้น และถ้านำตัวละครเหล่านี้มาใส่ อาจโดดเด่นเกินตัวละครจากสตูดิโออื่นไปมากจนเสียสมดุลของภาพยนตร์ไป
แต่ถึงกระนั้น ก็ยังมี T-Rex ปรากฏในตัวอย่างภาพยนตร์ แต่มีการยืนยันว่า นั่นไม่ใช่ตัวที่มาจาก Jurassic Park
Ready Player One ได้เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้ว วันนี้
ข้อมูลอ้างอิง : screenrant