คุณยังจำ “วันแรก” ของการก้าวเดินตามความฝันของคุณได้หรือไม่
เชื่อว่าทุกๆคนย่อมต้องมี “วันแรก”
วันที่เราเริ่มต้นก้าวเดินไปยังเส้นทางที่เราไม่เคยกล้ำกรายมาก่อน
“วันแรก” ที่เราลองกล้าที่จะเสี่ยง และ ทุ่มเทให้กับสิ่งที่รักอย่างสุดหัวใจ
ทุกวันย่อมเริ่มต้นมาจาก “วันแรก” วันนั้น…
และสำหรับวงไอดอลกรุ๊ป “BNK48” ที่ในทุกวันนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักพวกเธอ หลายคนอาจคิดว่า ตอนนี้พวกเธอผ่านเลย“วันแรก” มานานแล้ว และกำลังประสบความสำเร็จอยู่อย่างมีความสุขและสบายใจ กับชื่อเสียงและเงินทองที่ได้รับ
แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ในทุกๆวัน สมาชิก “BNK48” ยังคงทำเหมือนกับทุกวันเป็น “วันแรก” ยังคงพยายามและทุ่มเท ก้าวเดินตามความฝันอย่างไม่ย่อท้อ แม้มันจะหนักและเหนื่อยสักเพียงไหน แม้ว่าจะต้องท้อแท้อีกสักเท่าไหร่ก็ตาม
“Shonichi The Stories” บอกเล่าเรื่องราวของการต่อสู้ ทุ่มเท บนเส้นทางแห่งความฝันของ BNK48 ผ่านการบอกเล่าของสองสาวสมาชิกวงผู้เป็นเซ็นเตอร์ของเพลง “Shonichi วันแรก” นั่นคือ เนย กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล และ มิวสิค แพรวา สุธรรมพงษ์
ทั้งสองสาวไม่ได้มาเล่าให้เราฟังถึงภาพความสำเร็จ หากแต่ภาพแรกที่ทั้งคู่ให้เราดูคือภาพความรู้สึกของช่วงเวลา“ท้อแท้” ว่ามันเป็นเช่นไร
ภาพความท้อแท้ของเนย
ภาพความท้อแท้ของมิวสิค
เนย และ มิวสิคเล่าให้เราฟังว่า ตอนแรกเธอไม่เคยคิดฝันเลย ว่าจะได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ ในตอนแรกไม่รู้เลยด้วยซ้ำว่าทำไมถึงถูกเลือกมา แต่เมื่อพอมาอยู่แล้ว มันไม่ได้หมายความว่าเธอประสบความสำเร็จ หากแต่มันเป็น “ก้าวแรก” สู่ความฝันต่างหาก จากนี้ยังมีอีกหลายก้าว บางครั้งแค่เดินไปอย่างเดียวคงไม่พอ ต้องวิ่ง แถมต้องวิ่งไปจนสุดแรกอีกต่างหาก บางครั้งก็ล้ม บางครั้งก็เหนื่อยก็ท้อ แต่สุดท้ายแล้วเส้นชัยยังรอเราอยู่ที่ตรงจุดนั้น อย่างไรก็ต้องทุ่มเทสุดแรงกายแรงใจวิ่งต่อไป
จากนั้นเราจะได้เห็นสาวๆ BNK48 ซ้อมร้อง ซ้อมเต้นไปกับเพลง “Shonichi วันแรก” ด้วยใบหน้าที่เปี่ยมด้วยรอยยิ้ม อันสดใส และพลังใจที่ทุ่มเท
ในพาร์ที่สองของ “Shonichi The Stories” เรื่องราวถูกส่งต่อไปที่ “วันแรก” ของเหล่า “ช้างศึก” นักเตะทีมชาติไทย โดยเรื่องราวถูกเล่าผ่านการถามจาก เนย และ มิวสิค สู่ สองนักเตะทีมชาติไทย คือ พ่วงจันทร์ และ พรรษา เหมวิบูลย์ เป็นผู้ตอบคำถามและเล่าถึงเรื่องราวความพยายามอย่างหนักหน่วงของการก้าวเดินตามความฝันสู้การเป็นนักฟุตบอลทีมชาติไทย
เช่นเดียวกันกับ เนย และ มิวสิค สองนักเตะไม่ได้เล่าให้เราฟังถึงภาพความสำเร็จแต่เปิดเรื่องมาด้วยการเล่าให้เราฟังถึงช่วงเวลาที่ท้อแท้
จากนั้นทั้งสี่คนจึงได้ร่วมแชร์ประสบการณ์ของความพยายามทุ่มเท ก้าวเดินสู่ความฝัน ด้วยการพยายามพัฒนาตัวเองอยู่เสมอ
แท้จริงนั้น ความท้อแท้ เป็นเหมือน สเตจหนึ่งบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ ที่หากเปลี่ยนมันให้เป็นพลัง มันจะเป็นเชื้อเพลิงดีๆนี่เอง
ขอเป็นกำลังให้ทุกคน มีพลังในการลุกขึ้นสู้ พัฒนาตัวเอง เพื่อหยัดยืนขึ้นมาจาก เหวลึกแห่งความผิดหวังและท้อแท้ เพื่อ ไปพบแสงสว่างอันสดใส ที่รอเราอยู่ข้างบนนั้นครับ
“ความฝันเท่ากับหยาดเหงื่อรินรดไป
เพื่อให้เหล่าเมล็ดพันธุ์นั้นเติบโต และสูงใหญ่
และคงต้องมีสักวัน จะได้ดั่งใจสมปรารถนา”
ในยามที่ใครสักคนกำลังพยายามทำในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ด้วยความรักและความทุ่มเท คนญี่ปุ่นจะมีคำที่เอาไว้สำหรับมอบให้กับใครคนนั้น เป็นการส่งมอบกำลังใจให้แก่กัน ด้วยคำๆหนึ่ง คำๆนั้นคือ がんばれ !!! (กัมบะเระ !!!) หรือ “สู้ต่อไปนะ” นั่นเอง
がんばれ !!! (กัมบะเระ !!!) BNK48
FYI
“Shinichi The Stories” กำกับโดย ไพรัช คุ้มวัน ผู้กำกับภาพยนตร์เรื่อง “สยามสแควร์”