ผ่านไปเรียบร้อยแล้วสำหรับการแสดงรอบปฐมทัศน์ของ BNK48 ณ โรงละครใน BNK48 The Campus เมื่อวันที่ 5 และ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเราได้รับบัตรชมการแสดงรอบปฐมทัศน์ของวันที่ 5 พฤษภาคม เวลา 17.00 น.
เอาเป็นว่าเราจะไม่เล่าละกันว่าเกิดอะไรขึ้นในโรงละครบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าสปอยล์ แต่รับประกันได้ว่าการแสดงของสาว ๆ ควรค่าแก่การรับชมอย่างยิ่ง ยิ่งถ้าคุณชื่นชอบชื่นชมสาว ๆ BNK48 เป็นทุนเดิมอยู่แล้วด้วยล่ะก็ รับรองว่ายิ่งคุ้มค่า โรงละครขนาดเล็กความจุ 350 ที่นั่งทำให้ไม่ต้องกังวลว่าจะอยู่ห่างจากเวทีเกินไป เพราะไม่ว่าจะนั่งตรงไหนก็เห็นสาว ๆ ได้อย่างชัดเจน และที่สำคัญที่สุดคือดูแล้วต้องอยากดูซ้ำอีกแน่นอน เอ้า ขายของมาขนาดนี้ รอช้าอยู่ใย รีบเข้าไปจับจองที่นั่งกันเลย เว็บไซต์เปิดให้ทุกท่านเข้าไปสุ่มสิทธิ์โดยพร้อมเพรียงกันแล้วครับ
แล้วเราได้สิทธิ์ในการเข้าชมการแสดงรอบปฐมทัศน์มายังไง สิทธิ์ในการเข้าชมการแสดงรอบปฐมทัศน์นั้นเป็นสิทธิ์ของ Founder Member ซึ่งก็คือผู้ที่สั่งซื้อ Founder Member Box นั่นเอง
Founder Member Box คืออะไร มายังไง
BNK48 ได้ทำการแสดงต่อสาธารณชนครั้งแรกเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2560 BNK48 ได้สั่งสมพลังและผลงานมาเรื่อย ๆ จนมีชื่อเสียงถล่มทลายและเป็นปรากฏการณ์เช่นในปัจจุบัน แต่ปี 2560 นั้นเป็นช่วงเวลาที่ BNK48 ยังไม่แข็งแรงนัก สาว ๆ ยังเข้าถึงสื่อกระแสหลักได้อย่างจำกัด ซิงเกิ้ลแรกไม่มี MV เป็นของตัวเอง อีกทั้งสาว ๆ ยังไม่มีงานพรีเซ็นเตอร์ใด ๆ (ผิดกับปัจจุบันที่บริษัทห้างร้านเรียกใช้บริการสาว ๆ จนแฟน ๆ อุดหนุนกันแทบไม่ไหว) แต่ที่เห็นจะเป็นข้อจำกัดที่สุดก็คือ รูปแบบธุรกิจของ BNK48 นั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองไทย ทำให้การเข้าถึงแหล่งเงินทุนไม่สะดวกสบายเหมือนธุรกิจอื่น ๆ
ตามแผนธุรกิจในช่วงเวลานั้น BNK48 จะมีรายได้จาก 3 ทาง ได้แก่ 1.สินค้า 2.งานอีเวนต์ และ 3.มีเดีย ประมาณอย่างละเท่า ๆ กัน แต่เห็นได้ชัดว่าในช่วงแรก แหล่งรายได้หลักมาจากสินค้าที่แฟน ๆ รวมพลังกันเปย์แทบทั้งสิ้น (ยกตัวอย่างเช่น มีรายงานว่า BNK48 ไม่ได้รับค่าตอบแทนโดยตรงจากผู้จัดงาน Japan Expo in Thailand 2017 แต่ได้รับสิทธิ์ให้จัดงานจับมือกลุ่มในบริเวณงาน เข็มกลัด+บัตรจับมือกลุ่มราคาชุดละ 200 บาทจำนวน 3,000 ชุดขายหมดเกลี้ยง คิดเป็นรายได้ 600,000 บาท)
ดังนั้น เมื่อ BNK48 มีแผนที่จะสร้าง BNK48 The Campus บ้านหลังที่สองและสถานที่ในฝัน BNK48 จึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องใช้พลังของแฟน ๆ ในการช่วยกันสร้างฝันนี้ให้เป็นจริง จึงมีการออกผลิตภัณฑ์ Founder Member Box ราคา 20,000 บาท จำนวน 1,000 ชุด รวมมูลค่า 20 ล้านบาท เพื่อเป็นการหาทุนสร้าง BNK48 The Campus นั่นเอง โดย BNK48 ใช้คำว่า Founder Member (สมาชิกผู้ก่อตั้ง) เพื่อเป็นเกียรติแก่แฟน ๆ ที่ยอมควักเงินจำนวนไม่น้อยในการนี้ (อนึ่ง ในการแสดงรอบปฐมทัศน์ สมาชิก BNK48 ได้กล่าวคำขอบคุณอย่างซาบซึ้งต่อเหล่า Founder Member และยังกล่าวติดตลกด้วยว่ามีชื่อของ Founder Member ทุกคนฝังอยู่ในเสาของโรงละครเป็นที่เรียบร้อย)
อย่างไรก็ตาม การขาย Founder Member Box ก็ไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นเท่าไหร่ ด้วยความที่ขณะนั้นวงยังไม่แข็งแรงและมีความไม่แน่นอนหลายอย่าง ปริมาณการสั่งซื้อจึงเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ถึงแม้ตัวสินค้าและสิทธิพิเศษจะยั่วยวนใจแค่ไหนก็ตาม แต่การจ่ายเงิน 20,000 บาทโดยที่ยังไม่มีอะไรให้จับต้องได้ก็ต้องใช้ความกล้าพอสมควร (ซึ่งที่สุดแล้วก็ต้องรอกันไปถึงเกือบ 6 เดือนสำหรับผู้ที่ตัดสินใจซื้อในวันแรก) อย่าลืมว่าวันที่เปิดขาย Founder Member Box วันแรกนั้นคือวันที่ 18 พฤศจิกายน 2560 ซึ่งก็คือวันที่เปิด MV เพลงคุกกี้เสี่ยงทายเป็นครั้งแรก ในเวลานั้นเพลงสร้างชื่อของ BNK48 เพลงนี้ต้องใช้เวลาถึง 7 วันจึงจะได้ยอดวิว MV 1 ล้านวิว เทียบกับ MV ล่าสุด (RIVER) ที่ใช้เวลาเพียง 14 ชั่วโมง
แต่ในที่สุด Founder Member Box ก็จำหน่ายหมดครบ 1,000 ชุด โดยมีรายงานว่าจำหน่ายหมดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2561 เบ็ดเสร็จใช้เวลาเกือบ 4 เดือน
และหลังจากที่เราได้ไปชมการแสดงรอบปฐมทัศน์มา ขณะนี้ Founder Member Box ก็ได้มาอยู่ในมือเราแล้วเป็นที่เรียบร้อย
หน้าตาของ Founder Member Box
ตัวกล่องของ Founder Member Box นั้นเป็นทรงสี่เหลี่ยม กว้างและยาวประมาณ 21.5 เซนติเมตร สูงประมาณ 9.5 เซนติเมตร (ขนาดใกล้เคียงกับกล่องเค้ก 2 ปอนด์) แน่นอนว่าด้วยขนาดกล่องเท่านี้ เสื้อโปโลจึงแยกออกมาต่างหาก
1. เสื้อโปโล
ในส่วนของเสื้อโปโลนั้นก็เป็นเสื้อโปโลสีดำที่มีปักตรา BNK48 The Campus ที่หน้าอกข้างซ้าย คำว่า Founder Member ที่แขนขวาและคำว่า BNK48 Founder ที่กลางหลัง เสื้อโปโลที่เราได้รับมานั้นมีตำหนิที่สาบเสื้อบริเวณคอที่ค่อนข้างเด่นชัด
2. ซองพร้อมสายคล้องคอ
เมื่อเลื่อนลิ้นชักของกล่องออกมา ก็จะพบกับซองพร้อมสายคล้องคอ ด้านหนึ่งของซองสามารถใช้ใส่รูปขนาด 3.5 นิ้ว x 5 นิ้วได้และอีกด้านหนึ่งสามารถใส่บัตรได้ เชื่อว่าน่าจะออกแบบมาสำหรับใส่รูปถ่ายและบัตรสมาชิกที่มาในกล่องนี้เอง ตัวซองมีความแข็งแรงพอสมควร สามารถป้องกันการหัก การกระแทก การบิดงอและของเหลวที่กระเซ็นใส่ได้
3. เข็มกลัดโลหะ
เมื่อหยิบซองพร้อมสายคล้องคอออก ก็จะพบกับซองกระดาษ BNK48 Founder Member และเข็มกลัดโลหะ เข็มกลัดโลหะเป็นเข็มกลัดแบบยาวไม่ซ่อนปลาย ทำให้ติดได้สะดวกไม่ต้องกังวลกับการสูญหาย
เมื่อเปิดซองกระดาษขึ้นมาก็จะพบกับข้อความจากจ๊อบซัง ผู้จัดการวง BNK48 ที่ขอบคุณการสนับสนุนของ Founder Member มาตั้งแต่เริ่มต้น (the beginning) ซึ่งคำว่า the beginning ของจ๊อบซังในที่นี้น่าจะหมายถึงจุดเริ่มต้นของ BNK48 The Campus นั่นเอง
4. บัตรสมาชิก
และที่อยู่ด้านล่างของซองกระดาษก็คือบัตรสมาชิก ที่มีชื่อและนามสกุลของตัว Founder Member อยู่ที่บรรทัดบนและหมายเลขสมาชิกอยู่ที่บรรทัดล่าง เลข 4 ตัวสุดท้ายคือเลขประจำตัวของสมาชิกแต่ละคน ส่วนเลข 11 ตัวแรกนั้น น่าจะมีความหมายว่า เมื่อแยก 21411 เป็น 2-14-11 ก็จะกลายเป็นลำดับตัวอักษรในภาษาอังกฤษของ B N และ K ตามลำดับ 48 ก็หมายถึงเลข 48 ในชื่อวง BNK48 และ 2018 ก็หมายถึงปีที่ก่อตั้ง BNK48 The Campus
ด้านหลังของบัตรมีระบุเงื่อนไขการใช้บัตร บัตรนี้ไม่มีชิปการ์ดหรือแถบแม่เหล็กใด ๆ เชื่อว่าต่อจากนี้ไป เมื่อ Founder Member ต้องการใช้สิทธิ์ใด ๆ ก็คงต้องแสดงบัตรนี้พร้อมกับหลักฐานยืนยันตัวตนเพื่อรับสิทธิ์กับเจ้าหน้าที่
และที่อยู่ในซองกระดาษก็คือของอีก 4 ชิ้น ได้แก่รูปถ่ายพร้อมลายเซ็น รูปถ่ายไม่พร้อมลายเซ็น activation code และ Cheki ticket
5. รูปถ่ายพร้อมลายเซ็น
เป็นรูปถ่ายของสมาชิก BNK48 ที่ Founder Member เลือกไว้และมีลายเซ็นที่สมาชิกคนนั้นเซ็นด้วยมือ ซึ่งรูปที่มากับ Founder Member Box นี้เป็นรูปของเฌอปราง
เชื่อได้ว่าเฌอปรางคงจะได้เซ็นรูปไปหลายรูปจนเหนื่อย เพราะคำว่า Thank you ดูย่อหดสั้นเหลือเกิน
และด้านหลังของรูปมีลายน้ำคำว่า BNK48 Founder Member อยู่ด้วย
6. รูปถ่ายไม่พร้อมลายเซ็น
แต่เดิมรูปถ่ายไม่พร้อมลายเซ็นนี้ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของ Founder Member Box แต่ทาง BNK48 ได้เพิ่มมาให้ทีหลังเพื่อแทนคำขอโทษที่มีการเลื่อนกำหนดการรับสินค้า ด้านหลังของรูปนี้ก็มีลายน้ำคำว่า BNK48 Founder Member อยู่ด้วยเช่นกัน
7. Activation code
Activation code คือรหัสที่ใช้ในการ “จ่าย” ค่าบัตรเข้าชมการแสดงในโรงละคร โดยสามารถจองได้ทั้งสิ้น 50 ที่นั่งและจองได้รอบละไม่เกิน 2 ที่นั่ง อนึ่ง Founder Member ต้องสุ่มสิทธิ์เช่นเดียวกับผู้ที่การเข้าชมการแสดงทุกคน และ 50 ที่นั่งนี้สามารถใช้ได้ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 เท่านั้น ซึ่งก็แปลว่ามีเวลาประมาณ 3 ปีในการใช้ 50 ที่นั่งนี้
8. Cheki ticket
บัตรสำหรับใช้ถ่ายรูปโพลารอยด์คู่กับสมาชิก BNK48 ที่เลือกไว้เมื่อตอนสั่งซื้อ Founder Member Box บนบัตรจะมีทั้งชื่อของ Founder Member และชื่อของสมาชิก BNK48 ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มีการป้องกันการปลอมแปลงด้วยการพิมพ์นูน Founder Member สามารถใช้บัตรนี้ได้ในวันที่ Founder Member มาชมการแสดงที่มีสมาชิก BNK48 คนนั้นขึ้นทำการแสดงหรือในอีเวนต์ที่กำหนด และสามารถใช้บัตรนี้ได้ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2561 แต่ Founder Member จำนวนมากก็ได้ใช้บัตรนี้ไปเรียบร้อยแล้วในวันที่ทำการแสดงรอบปฐมทัศน์
และเมื่อยกถาดโฟมที่วางซองกระดาษ BNK48 Founder Member และเข็มกลัดโลหะออก ก็จะพบกับสูจิบัตรในซองพลาสติก
9. สูจิบัตร
สูจิบัตรของ PARTY ga Hajimaru yo สเตจแรกและสเตจปัจจุบันของ BNK48 ทีม BIII (อ่านว่า บีทรี) ด้านในประกอบไปด้วยข้อมูลต่าง ๆ เช่นข้อมูลเกี่ยวกับ BNK48 The Campus ข้อมูลเกี่ยวกับสมาชิก BNK48 และเนื้อเพลงที่ทำการแสดง ถึงแม้สูจิบัตรจะดูเรียบหรูขนาดไหน แต่ก็ยังมีข้อผิดพลาดให้เห็นประปราย เช่นชื่อของสมาชิก (จาก Kaew เป็น Keaw จาก Namneung เป็น Namnueng) หรือท่อนหนึ่งของเนื้อเพลง 365 วันกับเครื่องบินกระดาษที่มีคำตกหล่น
10. สิทธิพิเศษอื่น ๆ
นอกจากวัตถุที่จับต้องได้ที่มากับ Founder Member Box แล้ว Founder Member ยังได้รับสิทธิพิเศษต่าง ๆ ที่ทาง BNK48 จะคอยประกาศให้ทราบเรื่อย ๆ ซึ่งสิทธิพิเศษที่ผ่านมาก็เช่นสิทธิ์ในการเข้าชมการแสดงรอบปฐมทัศน์เมื่อวันที่ 5 และ 6 พฤษภาคม 2561 สิทธิ์ในการเป็นผู้โชคดีได้ร่วมชมการแข่งขันฟุตบอลคิงส์คัพในบริเวณที่นั่งเดียวกับสมาชิก BNK48 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 (วันนั้นเป็นวันที่ BNK48 ทำการแสดงเพลงวันแรกเป็นครั้งแรก)
หรือในวันที่ 10 มีนาคม 2561 Founder Member สามารถเข้าร่วมการประมูลเลขประจำตัวพิเศษ 3 หมายเลข ได้แก่ 0001 0999 และ 0048 โดยผลการประมูลออกมาดังนี้
หมายเลข 0001 ชนะที่ราคา 300,000 บาท (ราคาที่สอง 290,000 บาท) ชำระจริงที่ 304,800 บาท
หมายเลข 0999 ชนะที่ราคา 120,000 บาท (ราคาที่สอง 110,000 บาท) ชำระจริงที่ 148,000 บาท
หมายเลข 0048 ชนะที่ราคา 310,000 บาท (ราคาที่สอง 300,000 บาท) ชำระจริงที่ 314,800 บาท
ซึ่งเงินที่ได้จากการประมูลทั้งหมด BNK48 ได้เติมเงินเข้าไปจนครบ 800,000 บาทและนำไปบริจาคให้องค์กรการกุศล และผู้ชนะการประมูลเลขประจำตัวพิเศษทั้ง 3 หมายเลขได้สิทธิ์ในการระบุข้อความที่ต้องการให้สมาชิก BNK48 เขียนในรูปถ่ายพร้อมลายเซ็นที่มาใน Founder Member Box ของตัวเอง
คุ้มไหมโดนไปสองหมื่น?
“ไม่มีอะไรแพงถ้าคุณพอใจและไม่มีอะไรฟุ่มเฟือยถ้าคุณมีเงินมากพอ” ถ้ายึดตามคำพูดนี้ก็คงไม่ต้องพิจารณาความคุ้มค่าให้เสียเวลา จากการพูดคุยกับ Founder Member หลาย ๆ คน เราได้ทราบว่า Founder Member บางคนซื้อ Founder Member Box มากกว่า 1 ชุด (แปลว่ามี Founder Member ไม่ถึง 1,000 คน) และบางคนไม่ได้สนใจของใด ๆ ด้วยซ้ำ คิดว่าแค่ได้จ่ายเงิน 20,000 บาทเพื่อให้ BNK48 มีโรงละครใช้ทำการแสดงก็สุขใจแล้ว
แต่ถ้าจะหาตัวเลขมาอ้างอิง เราก็สามารถพิจารณาได้ว่า บัตรเข้าชมการแสดงในโรงละครของ BNK48 นั้นมีราคาปกติอยู่ที่ 400 บาท Founder Member Box มาพร้อมกับ “บัตร” 50 ใบ ซึ่ง 400 คูณ 50 เท่ากับ 20,000 บาท ถ้าคิดตามนี้ก็ต้องถือว่าของอย่างอื่นที่มากับ Founder Member Box นอกจาก activation code เป็นของแถมทั้งสิ้น ก็น่าจะจัดได้ว่าคุ้มมาก ๆ แต่ถ้าจะพิจารณารายละเอียดปลีกย่อย ก็ต้องพิจารณาด้วยว่า มีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหนที่จะใช้สิทธิ์เข้าชมการแสดงครบ 50 ที่นั่งใน 3 ปี (เชื่อว่าความเป็นไปได้จะมากขึ้นเมื่อมีการเพิ่มรอบการแสดงในอนาคต) และช่วงเวลาที่จ่ายเงิน 20,000 บาทไปโดยยังไม่ได้สิ่งใดกลับมาเป็นเวลาหลายเดือนนั้นคิดเป็นต้นทุนค่าเสียโอกาสมากน้อยแค่ไหน
จะมี Founder Member Box ออกมาอีกไหม?
การพูดคุยกับจ๊อบซัง ผู้จัดการวงทำให้เราทราบว่า Founder Member Box จะไม่มีออกมาวางจำหน่ายอีกแล้ว เนื่องจากการขาย Founder Member Box จำนวน 1,000 ชุดได้บรรลุวัตถุประสงค์ของมันเป็นที่เรียบร้อย (หลักฐานคือ BNK48 The Campus) แต่ในอนาคตจะมี Box Set อะไรออกมาวางจำหน่ายอีกก็ต้องคอยติดตามกันต่อไป แต่เราเชื่อว่าคงต้องรอไปอีกพักใหญ่ เพราะขณะนี้ BNK48 มีรายได้เป็นหลักแหล่งเข้ามาหลายทางแล้ว การออกผลิตภัณฑ์ราคาสูงจึงน่าจะยังไม่จำเป็น เว้นเสียแต่จะมีโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่อะไรขึ้นมาอีก